ข้อความต้นฉบับในหน้า
เพื่อนจริงๆ เข้ามาแชร์ข้อมูลกันเราเขาเห็นว่าเราไม่อยู่บ้านคณะ นั้นเป็นผู้ไม่ประสงค์ดี เขาอาจมาโกงของที่บ้านเราได้ ในช่วงที่เราไม่อยู่บ้านใน เวลาที่เราโพสต์ ไว้ทางอินเทอร์เน็ตนั้น เช่น เรื่องของดี โอเค ที่โดยตำรวจตามจับอยู่ ในระหว่างที่ เขาหาทำการจับอยู่เขาได้ไปหั่นแล้วก็เช็คอินบางเพลง ตำรวจสำรวจมาจับกุ มได้โดยติดตามทางเพลง และ อีกหนึ่งกรณีที่มีการซื้อขายรถกันไม่มี การซื้อขายกันอย่างจริงจังเงินไปแต่ไม่เอารถมา ให้สิเนายักตามจุดกการเช็คอินและสามารถ แจ้งตำรวจจับได้
มีสถิติจากการสำรวจ พบว่า 65% ของผู้ใชั โซเชียลเน็ตเวิร์คไม่ได้ดูดินคนแปลกหน้าที่จะเข้า มาเป็นเพื่อนกันเรา หรือดูโปรไฟล์ของเรา และ ได้ได้ตั้งค่าปโปรไฟล์เป็นส่วนตัวนอกจากนั้น 40% ของผู้ใช้ก็ยังให้ที่บ้านตนเองในเว็บไซต์ทำให้ผู้อื่นทราบว่าบ้านของเรานั้นอยู่ที่ไหนในทางตรงข้าม ข้าง 60% ของคนเหล่านี้ก็เชื่อว่า คนที่เขามาขอเป็นเพื่อนต้องการเป็นเพื่อนกันจริงๆ
5.ไม่สรภาพผิดทางอินเทอร์เน็ต เราไม่ควร สารภาพผิดทางอินเทอร์เน็ต เช่น มีผู้ชายใช่Sา
ติดไปสภาพทางอินเทอร์เน็ตทางเฟซบุ๊กของตัว เอง การใช้ยาเสพติดเป็นสิ่งผิดกฎหมายก็มีคนไป แจ้งตำรวจมาจับ ทำให้ตัวเองเข้าไปอยู่ในห้องขัง แทน บางคนไปสารภาพว่่าเกลี้ยงงานไม่ชอบเจ้าของ ของเราทำให้ฉันนายไล่ออกจากงาน มีการสำรวจว่า 8% ของผู้ประกอบการเคยให้พนักงาน ออกโดยเหตุผลว่่าใช้เวลาสังคมไม่เหมาะสม
6.ไม่ได้ชมะเลขรหัสผ่านกับคนอื่น เช่น หลายคนอยากจะแชร์มารวมของเราชื่อวอะไร เราชอบกีบๆหาบอะไรหรือตามสกุลเดินของคุณ แม่ สังเหลาก็จะเป็นคำถามเมื่อเรามีรหัส เข้ อีเมลต่างๆ ชึ่งถ้ามีผู้ไม่ประสงค์ดีเก็บไว้ในรู้หมดเลยว่าเราขอบอะไรมีสตว์เลี้ยงตัวไหน ชอบกีบงานอดิเรกอะไร เขาก็สามารถเอาไปรอกเพื่อที่จะได้ รับรหัสได้
7. ไม่โพสต์รูปที่ไม่เหมาะสม เหตุผลเหล่านี้ มักเกิดขึ้นกับวัยรุ่นและวัยกลางคน เป็นการโพสต์ รูปโดยแบบสนุก เช่น โพสต์รูปตัวเองหน้ามด สภาพ หรื โพสต์รูปตัวเองดูดบุหรี่ สิ่งเหล่านี้อาจ เป็นผลกระทบภาพลักษณ์ของตัวเอง มีผลกระทบต่อหน้าที่การงาน เช่น ลายการบินแห่งหนึ่งมีกฏ