ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุณี (สด จนทุโล) ครูผู้ค้นพบวิชาธรรมกายของเรานั้น ท่าน เป็นบุคคลที่ให้ความสำคัญต่อการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งท่านถึงกับเคยกล่าวว่า “ผู้มีการศึกษาดี เหมือนมีมงคลติดตัว” โดยเฉพาะเรื่องของการศึกษาพระบวชนั้น ก็เปรียบว่าพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ เองนั้น ท่านได้เริ่มต้นศึกษาพระบวชตั้งแต่เบื้องต้น แล้วจึงเรียน นาม สมาส ตัณฑิต อายยาต กิติ แล้วเริ่มต้นศึกษาตั้งแต่พระธรรมบททั้ง 2 บั้น เมื่อเรียนจบ 2 บั้นแล้ว จึงกลับขึ้นต้นใหม่ ทั้งเรียนมงคลคาถีบนี้และสร้างคาถาตามความนิยมของสมัยนั้น ด้วย จนมีความชำนาญและสอนผู้อื่นได้2
หากกล่าวไปแล้ว ภาษาบาลีจึงเปรียบเสมือนกฎแห่งปัญญาที่ให้ความรู้และความจริงที่มีอยู่ ในพระพุทธศาสนาได้อย่างที่สุด แม้พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุณี (สด จนทุโล) เองนั้น ท่านก็อายัดข้อสงสัยจากการพบคำว่า “อภิชฌาปัจจโย” มาเป็นมูลเหตุในการเดินทางมาศึกษาพระบาลให้แตกฉาน โดยท่านก็มีได้ศึกษาจนจบ แต่งิ่งกับท่านไปในชีวิตจิตใจของท่านเลยที่เดียวเป็นเวลานาน โดยเริ่มต้นจากการศึกษามัลกัจจายะเพียงอย่างเดียว และยังได้ทบทวนมาถึง 3 รอบ และยังศึกษาคันทรีส์สำคัญ ๆ อีกมากมาย เช่น พระธรรมบท ๑– ภาค พระมงคลคาถีบนี้ สารงเคราะห์ เป็นต้น ซึ่งหากเราได้พิจารณาถึงอุปนิสัยการเอาชีวิตเป็นเดิมพันของท่านแล้ว ย่อมแลเห็นได้ว่า พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ นั้น ท่านไม่เคยปล่อยผ่านแม้ประเด็นใด ๆ นี้ (อาจ) ดูว่าเป็นเรื่องเล็กน้อยเลย ด้วยคุณสมบัติดังกล่าวนี้เอง ที่ส่วนอย่างยิ่งทำให้ท่านได้เป็นผู้ค้นพบวิชาธรรมกายเป็นความรู้ยิ่งในพระพุทธศาสนาในที่สุด จากจุดเดิมที่เริ่มต้นมาจากความสงสัยในคำว่า “อภิชฌาปัจจโย” ดังได้กล่าวมาแล้ว จากคุณลักษณะอันเด็ดเดี่ยวตั้งใจจริงและความมุ่งมั่นที่ชัดเจนของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ดังกล่าวว่า ทำให้ในภายหลังเมื่อท่านได้ค้นพบวิชชาธรรมกายแล้ว ท่านก็ยังคงมุ่งมั่นที่จะเผยแผ่และสั่งสอนไล่ศิษย์บานศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปให้รู้จักและเห็นความสำคัญในวิชชาธรรมกายมาโดยตลอด การเทคนิคสอนของท่านในแต่ละครั้งได้มีการรวบรวมไว้ (เช่น ในมีอภิวาทพระธรรมเทสนา ๑๓ กัณฑ์) ก็ฉันนั้น แสดงให้เห็นว่าท่านมีการอ้างถึงความมุ่งหวังของวิชชาธรรมกายและคุณธรรมมายไม่ยาก ซึ่งในอัจฉริยภาพของท่านนั้น มีทั้งภาคปริยัติและปฏิบัติควบคู่กันอยู่เสมอเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้เป็นอย่างดีว่า ท่านมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการศึกษาธรรมกายเพียงใด