ข้อความต้นฉบับในหน้า
ผู้นในบังกลาเทศนี้คือศาสนาฮินดู ๗๐.๕ เปอร์เซ็นต์ ศาสนาคริสต์ ๘.๕ เปอร์เซ็นต์ ศาสนาคริสต์ ๐.๔ เปอร์เซ็นต์ ส่วนศาสนาพุทธมีผู้สบถือเพียงแค่ ๐.๖ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
เมื่อมีข่าวพุทธน้อยขนาดนี้อยากทราบเหตุผลไหมว่า ทำไมพวกเราต้องดันต้นมุ่งมั่นเดินทางไปจัดพิธีบรรพชาในประเทศนี้กันให้ได้ !!!
คำตอบก็คือ แมคนพุทธที่นี่จะน้อยมาก แต่คนพุทธจำนวนนี้เหล่านี้ความเป็นพุทธที่เข้มแข็งเกินกว่าที่เรา คิดไวมาก คือ ขอบาทาน รักษาศีล เจริญภาวนา แล้วก็เข้าวัดปฏิบัติธรรม อีกทั้งยังมัดใจที่ริสุทธิอ่อนโยน ซึ่งคนพุทธส่วนใหญจะเกาะกลุ่มกันอยู่บนเทือกเขาของเมืองจิตตะกอง มาไปกว่านั้น...ความเป็นพุทธของที่นี่จะสืบต่อกันเป็นรุ่นต่อรุ่น สีบทอดกันในตระกูล เช่น ตระกูลบัว ตระกูลจามา ตระกูลลำมา...
ชาวพุทธ ณ ดินแดนแห่งนี้ ค่าย ๆ ชาวเขาบ้านเรา คือ จะมีสังคม อาหาร เครื่องแต่งกาย และวัฒนธรรมเฉพาะที่เป็นของตนเอง โดยมีพระภิษุผู้เป็นศูนย์รวมจิตใจ ซึ่งก็ถือพระลักษณะนั้นนะ มาเถอะออ หรือที่ข่าวบ้านเรียกติดปากว่า บนานันต์ ซึ่งแปลว่า พระป่า ท่านเป็นพระสายปฏิบัติที่มีชื่อเสียงมาก และสามารถจัดตั้งวัดวาสาได้มากถึง ๑๐๐ กว่าภา บนเทือกเขาแห่งเมืองจิตตะกองนี้
ที่สำคัญ...ท่านมีลูกศิษย์ก็เก่งงานเผยแม่มาก ๆ คือ พระศาสนทิตตะ มหาเถรเจ้าอาวาสวัดปูซาร์สติปริอรัชฌภิ แห่งเมืองคาร์กาข์ ซึ่งเป็นผ้าตีสร้างศาลาที่มีพื้นทีอันกว้างใหญ่ถึง ๓,๐๐๐ กว่าตารางเมตร ที่สามารถดูได้เป็นหมื่น ซึ่งไม่มีมิติไหนในบังกลาเทศคิดทำแบบนี้ อีกทั้งตอนท่านคิดจะสร้างศาลาทั้งนี้ ก็ไม่มีทุนอะไรเลย