ข้อความต้นฉบับในหน้า
ហูบูญู
อ่านอดีต ขีดอนาคต
เรื่อง : พระมหาพงศ์ศักดิ์ ฐานโย, ดร.
ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนา
ตอนที่ ๑๗ : ขุจี ๑,๑๓๓ กับปฏิรูปเพื่อการปรับทัศ
หลังจากพระพุทธองค์มีพระกำลังสร้เพื่อส่งพระธรรมหัตถวแรก ๑๐ รูป ออกไปประกาศพระสัทธรรม
แม้ตัวพระองค์เองก็หาได้ธรรมนำไปสู่จุดวาเสนานคม ณ ที่แห่งนั้น
มีกุฎิ ๓ พื้นรองผู้เป็นคุณอาจารย์ใหญ่ของชาวอังคะและมค โดยมี “อุรวันถสปะ” ผู้เป็นพี่น้อง ดูแล
บริวาร ๔๐๐ มี “นทีทสปะ” และ “คอยกัสสปะ” ผู้เป็นน้องทั้งสอง ดูแลบริวาร ๑๐๐ และ ๒๐๐
ตามลำดับ รวมทั้งสิ้น ๑,๐๐๐ คน
ครั้นเมือพระพุทธองค์เสด็จดำเนินไปถึงที่อยู่ของ “อุรวันถสปะ” ผู้เป็นใหญ่ ณ ที่นี้พระพุทธ-
องค์ได้ทรงอาศัยปฏิพินัย ๓ อันประกอบด้วย ๑. อภิษิฏปฏิพากษ์ คือ การแสดงอุทิศได้เป็นอัครศร
๒. อาเทสนาปฏิพากษ์ คือ การตักเตือนและบอกบุญสืบไปเป็นอัครศร ๓. อนุสรณาปฏิพากษ์ คือ การสอนให้เห็นไปตามความเป็นจริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อภิษิฏปฏิพากษ์ และ อาเทสนาปฏิพากษ์ ดั่งเนื้อความโดยอ้อมนี้
พระพุทธองค์ทรงเริ่มต้นด้วยการประทับอยู่ในโรงบูชาไฟ ณ ที่นี่มีพญานาคผู้มุ่งมาอกซ้ายอยู่
เมื่อพญานาคบังหวนคว้าและพ่นไฟใส่พระองค์ พระองค์องค์เข้าโกล้สนับพญานาค
ให้ลงบนบาตร (อภิษิฏปฏิพากษ์) หลังจากนั้น ท้าวมหาราชทั้ง ๔ ท้าวสักกะ ท้าวธรรมดิตรพรม
ได้นำเข้าเฝ้าพระองค์ ซึ่งทั้งหมดนั่งอยู่ในสายตาของภิกษัทั้งปวง ต่อมาเมื่อถึงพุปุชายญาใหญ่
ชาวอังคะและมคต่างเตรียมเครื่องสักการะแก่เหล่าภิกษุ “อุรวันถสปะ” ได้เก็บวิริตา เกรงว่
สักกะจะทั้งหลายจะเสื่อมไป จึงไม่อยากให้พระพุทธองค์เสด็จมาในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพระพุทธองค์ทรงทราบ
ถึงความคิดดังกล่าวนั่น จึงงัดได้เสด็จไป (อาเทสนาปฏิพากษ์) และเสด็จไปยังอุตตรจรจ์วิปเพื่อ
บิณฑบาต (อภิษิฏปฏิพากษ์) นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์เสด็จไปยังสวรรค์ชั้นดาวดึงษ์ ทรงบังดาลให้
เหล่าภิกษาสามารถผ่านฟัน กองอัคไ พีดอย่างอัครศรย์ และเหตุการณ์สุดท้าย
ที่ทำให้ “อุรวันถสปะ” ยอมลดทิฏฐิที่มีมาจนตลอด คือ เหตุการณ์ที่เกิดอุภัคใหญ่ เหล่าภิกษ์
ต่างลอยคอ มีเพียงพระพุทธองค์เท่านั้นที่ทรงพันจากอุภัค และเสด็จจากมอยู่ทามกลางแม่น้ำ
ที่เหลวกออกเป็นทาง (อภิษิฏปฏิพากษ์)
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ปริมาณอย่างละเอียดในพระวินัยปิฏก มหาวรรค (จ.มหา ๔/๓๗-๕๗/๕๗-๖๓ แปลมจร) ทำให้ทราบว่า ปฏิหาริย์ ๓ มีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา
โดยพระพุทธองค์เริ่มตั้งแต่ อภิษิฏปฏิพากษ์ และ อาเทสนาปฏิพากษ์ ควบคู่กันไปจนกระทั่ง
ทรงเห็นว่า “อุรวันถสปะ” คลายทิฐิลงได้ มีถนัดนบฎวรแก้การฟังธรรม เมื่อนั้นพระพุทธองค์
จึงทรงอำคัย อนาสสินปฏิฆาริย์ แสดงธรรมแก่ภิกษัง ๓ พี่น้อง รวมถึงบริวารอีก ๑,๐๐๐ จนกระทั่งบรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด จริงๆแม้ อนาสสินปฏิฆาริย์ จะมีความสำคัญที่สุดและเป็น
แก่นของพระพุทธศาสนา แต่เรายังไม่อาจปฏิเสธความสำคัญนระดับรองลงมาองค์ปรัชญ์ และ อาเทสนาปฏิพากษ์ ได้โดยประกายวูบ