ข้อความต้นฉบับในหน้า
บทความพิเศษ
เรื่อง : นวธรรมและคณะนักวิจัย DIRI
หลักฐานธรรมกายในคัมภีร์พระธรรม
(ตอนที่ ๕๓)
การส่งเสริมการศึกษาพระอภิธรรมธรรมอันล้ำค่านี้นำไปสู่การค้นคว้าความรู้ภายใน
ในช่วง ๑ เดือนหลังออกพรรษาของทุกปี กิจกรรมสำคัญประการหนึ่งของชาวพุทธทั่วโลกคือ การทอดกฐิน สามัคคี หรือเทศกาลการผลัดเปลี่ยนผ้าป่าอัศจรรย์ของพระภิษฐาซึ่งสูงมั่ง เพราะนอกจากจะเป็นโอกาสเพียงครั้งเดียวในรอบปีที่พระพุทธองค์มะรมพุทธานุญาตให้กระทำได้แล้ว การทอดกฐินยังเป็นประจุเครื่องหมายที่แสดงถึงการรวมจิตความวัญใจของชาวพุทธในการช่วยกันทำบุญบำรุงมหาวิหารรวมกันในทุก ๆ ด้านอีกด้วย ซึ่งนั้นเป็นบุญใหญ่ที่บรรพบุรุษได้ส่งทอดเป็นมรดกธรรมให้เราร่วมกันปฏิบัติสืบต่อกันมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งสำหรับลูกหลานของมหาปุฎนียาจารย์ทุก ๆ คนนัน้ แตกต่างมิสูบที่จะดวงบุญใหญ่นี้ขึ้นอย่างเบาบานในทุกวัดและทุกศูนย์สายท้อลงเป็นที่น่าอนุโมทนังกร้อง ควบคู่กับกิจกรรมการสวดบทชั่วโมงชักปักปวดที่พวกเราลูกหลานหลวงปู่พระผู้ปราบมาร ได้ร่วมแรงร่วมใจสวดสืบเนื่องกันมา ก็ถือว่าจะสามารถทำได้ลุล่ำว่า "ถึงเม" ๑,๑๐๑,๑๐๐,๑๐๑ จบ เป็นผลสำเร็จอย่างน่าอัศจรรย์เช่นเดียวกัน
ในบทนี้แล้ว ผู้เขียนและคณะนักวิจัย DIRI ได้กล่าวถึง "ความสำคัญของพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ว่าท่านนั้นเป็นยิ่งกว่าผู้ค้นพบวิชาธรรมภายใน" โดยได้สรุปให้เห็นถึงคำตอบที่สำคัญกล่าวคือ เป็นเพราะพระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นบุคคลที่คัดค้านรวมความรู้ทั้งทางไธยฏ ปฏิบัติ และปฏิวัติ ที่เคยมีอยู่ในอดีตให้กลับคืนมาเป็นขึ้นเดียวกันอีกครั้งหนึ่ง เพื่อทำให้พุทธศาสนาถึงหลายสามารถนำเอาความรู้นี้เป็นแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาที่ร่วมกับกระบวนการในการปฏิบัติธรรมไปได้จริงจนกระทั่งสุดพ้นได้จริง ๆ ทั้งยังสามารถยืนยันความมีอยู่ขององค์ความรู้ทั้ง ๓ ส่วนนี้ได้โดยไม่จำกัดกาลเวลา ซึ่งนี้ก็คือท่าน (พระเดชพระคุณหลวงปู่