การทำงานเพื่อบุญและบารมี : หน้า 56/68

แต่คุณยายอาจารย์ฯ ท่านตอบว่า "ทำเพื่อ ตัวเอง" ซึ่งเป็นคำตอบที่พระเดชพระคุณ-หลวงปู่ฟ่อใหที่สุด การปราบกิเลสในตัวเอง ก็เพื่อจะได้ไม่ต้องเป็นภาวะเป็นทุกข์ที่เล่าสรรพคุมคุมใจให้คิด-พูด-ทำ ก่อนบาปอกุศลกรรมต่าง ๆ และถ้าจะให้ดีกว่านั้น ก็ต้องปราบมาร ซึ่งคุมคุมใจอีกที เมื่อปราบมารสำเร็จก็จะไม่มีภาวะบังคับใจคนได้ งานทั้งหมดนี้เป็นการทำเพื่อ ตัวเอง แต่ผลพลอยได้กันได้ทั่วถึงทุกคนหมดทั้งโลก หลวงพ่ออยากให้ดุตรงนี้ให้ดู การทำงานทุกอย่างมุ่งหวังให้เกิดผลลัพธ์ ซึ่งแบ่งออกได้เป็น "ผลหลัก" และ "ผลพลอยได้" ผลหลักเกิดขึ้นต่อ ตัวผู้ ทำส่วนผลก็เกิดแก่คนอื่น ๆ ด้วยนั้นจัดเป็นผลพลอยได้ คุณยายท่านมีหลักคิดในการทำงานตรงนี้ด่วนว่า การงานทุกอย่างล้วนทำเพื่อ ตัวเอง ผลหลักหรือผลแร่งที่เกิดขึ้นย่อมเกิดแก่ผู้ทำก่อนเป็นคนแรก การทำงานนั้นเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องเหน็ดเหนื่อย แต่จึงเป็นแค่ส่วนของร่างกายเท่านั้น เพราะกล้ามเนื้อทำงานมากย่อมลำ้ต้องการการพักผ่อน แต่อย่าเหนื่อยใจ ไม่นานที่จะทำต่อไป มีแต่ความกระตือรือร้นที่จะทำให้ถึง ๆ ขึ้นไป คุณยายท่านมีหลักในการคิดหรืออาจจะเรียกว่าทัศนคติที่ถูกต้องต่อการทำงาน ท่านจึงไม่เหนื่อยหน่ายในการที่จะทำงานคือการสร้างบุญสร้างบารมีของท่าน ประการ ๒ คือ "หลักในการทำงาน" ของคุณยายอาจารย์ฯ คุณยายมีหลักในการทำงาน คือ "เจาะดูของในตัวตน" นอกจากนั้นเป็นผลพลอยได้หมายความว่า ผลหลักที่เกิดจากงานคืองบูญ นี่เป็นสิ่งที่คุณยายท่านจะเก็บเกี่ยวไปเป็นของท่าน ส่วนผลงานก็เกิดขึ้น ใครจะได้ประโยชน์ต่อไปจึงเป็นผลพลอยได้จากการทำงานของท่าน หลวงพ่อขอยกตัวอย่างการทำงานของคุณยายสักเรื่องหนึ่ง ในขณะที่เป็นลูกศิษย์คุณยายก็ได้อาศัยทุกอย่างที่คุณยายทำเอาไว้ให้ เมื่อสะแกะพระนั่งในหอฉันทุกวันนี้ก็เป็นผลงานของคุณยาย เรื่องการเลือกอาสนะที่นั่งของพระเวลานั่งนัตฐาตอาหารในหอฉัน คุณยายท่านมองว่าชาสะสมของพระจะก่อให้เกิดบุญได้เต็มที่ ควรจะดูแลให้ครบถ้วนดังผลทุกอย่างที่จะเกิดจากการใช้อาสนะนั้น คุณยายท่านมองอย่างไร ข้อแรก ท่านมองถึงความสะดวกสบายของพระภิกษุผู้ขับขี่ นข้าที่สอง ท่านมองถึงความสะดวกสบายของญาติธรรม และ ข้อสาม ซึ่งเป็นประการสำคัญท่านมองถึงความน่าเชื่อใส น่าศรัทธา ในตัวพระภิกษุและพระพุทธศาสนา เริ่มต้นท่านประชุมหารือกันในหมู่คณะว่า เวลา ฉันฉันจะนั่งกันอย่างไร ต่างก็ช่วยกันคิดทางเลือกที่เป็นไปได้ซึ่งมีอยู่หลายทาง เช่น ปูลเสื่อฉันสบาย ๆ หรือนั่งเก้าอี้สะดวกดี หรือจะให้มอาสนะทำเป็นคง ที่ประชุมก็ดึงกันไปตามแต่ความรู้และประสบการณ์ที่มีมาทั้ง ๆ กัน คุณยายท่านเป็นผู้ตัดสินใจเลือกทางเลือกที่ดีที่สุดให้ ท่านบอกว่าพระเดชพระคุณ-หลวงปู่ปุกนำท่านทำต้นแบบไว้แล้ว คืออยากเป็นเช่นนี้เป็นอาสนะขึ้นมา แล้วคุณยายก็