การพัฒนาโรงเรียนพระปัญญาธรรมที่วัดปากน้ำ : หน้า 46/68

โดยสร้างเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง ๓ ชั้น ขนาด ๑๑×๖๐ เมตร ใช้งบประมาณประมาณ ๓ ล้านบาทเศษ² หลังจากการสร้างอาคารเรียนพระปัญญาธรรมแล้ว พบว่าทำให้ผู้นิยมบูรพาพุอปลมบและจำพวชที่วัดปากน้ ัวาใช่จริง มากขึ้นโดยลำดับ จนทำให้วัดพระกษุเพิ่มขึ้นเป็น ๒๕ รูป สามเณรเพิ่มขึ้นเป็น ๒๐๕ รูป อุบาสิกาแม่ชีถึง ๔๐๐ คน และศิษย์วัดที่อยู่ประจำถึง ๕๐ คนด้วยกัน อย่างไรก็ดีจาก การศึกษาประวัติของท่านทำให้พบว่า ก่อนที่พระเดชพระคุณหลวงปู่จะริเริ่มพัฒนาการศึกษาพระกษุสามเณรของวัดปากน้ ัวา ภาณเจริญ ขึ้นนั้น ท่านเคยเป็นผู้จุดประกายด้านการศึกษาให้แก่เด็ก ๆ ในชุมชนรอบวัดมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ได้รับพระราชทานวัดปากน้ำใหม่³ ไม่เพียงแต่ในด้านปริมาณเท่านั้น แต่อย่าจากลามไปถึงในด้านคุณภาพแล้ว พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมาร ท่านก็ได้ให้ความสำคัญลงไปอย่างลึกซึ้งเช่นกันไม่เฉพาะแต่การเทคนิคสอนด้วยตนเองเพียงอย่างเดียว แต่ท่านยังได้จัดให้มีการเรียนการสอนแผนกัญญ์๙ โดยแยกออกเป็นชั้นเรียนภาษา บาลี นักธรรม ธรรมศึกษา สามัญศึกษา อย่างครบถ้วนทุกวิชา ด้วย และพยายามจัดหาครูประจำทำการสอนอย่างต่อเนื่อง (ทุกแผนก ทุกชั้น ชั้นละ ๓ รูป) ทั้งนี้พระกษุสามเณรที่รับการศึกษาจะต้องผ่านการทดสอบหลังจากเรียนจบหลักสูตรก่อน โดยข้อสอบของวัดปากน้ ัวา ภาณเจริญ จากนั้นจะคัดเลือกให้เข้าสอบบาลีสนามหลวงต่อไป⁵ เหตุผลที่พระเดชพระคุณหลวงปู่ พระผู้ปราบมารให้ความสำคัญกับการศึกษา พระบาลีอย่างมากนั้น อาจกล่าวซิ้งยิ่งกว่าที่ใคร ๆ จะคาดถึงได้ นั่นเพราะเหตุใด ? กล่าวในกรณีนี้สำหรับผู้อ่านแล้วเชื่อว่ ส่วนหนึ่งอาจเกิดจากเหตุผลเดียวกันกับที่