การฝึกสมาธิและผลกระทบต่อสังคม : หน้า 269/272

หวั่นไหวต่ออำนาจสิ่งยั่วยวนหรือกิเลสใด้งาย ผู้ที่ฝึกสมาธิอาจมีจิตใจเข้มแข็ง มีคุณธรรมในใจสูง ถ้าแต่ละคนในสังคมตงอฝึกฝนอบรมใจตนเองให้แน่น มั่นคง ปัญหาเหล่านี้ก็จะไม่เกิดขึ้น ส่งผลให้สังคมสงบสุขได้ ๓.๒. ทำให้เกิดความมีระเบียบวินัย และเกิดความประหยัด ผู้ที่ฝึกใจให้ดีงามด้วยการทำสมาธิอยู่เสมอ ย่อมเป็นผู้รู้ความมีระเบียบวินัย รักความสะอาด มีความเคารพกฎหมายของบ้านเมือง ทำให้บ้านเมืองของเราสะอาดน้อยๆ ไม่มีคนมั่งง่ายทั้งลงบนพื้นถนน จะข้ามถนนก็เฉพาะตรงทางข้าง เป็นต้น เป็นเหตุให้ประเทศชาติไม่ต้องสิ้นเปลืองงบประมาณ เวลา และกำลังเจ้าหน้าที่ ที่จะไปใช้สำหรับแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจากความไม่มีระเบียบวินัยของประชาชน ๓.๓. ทำให้สังคมเจริญก้าวหน้า เมื่อสมาชิกในสังคมมีสุขภาพจิตดี รักความเจริญก้าวหน้า มีประสิทธิภาพในการทำงานสูง ย่อมส่งผลให้สังคมเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย และเมื่อมีกิจกรรมของส่วนรวม สมาชิกในสังคมก็ย่อมพร้อมที่จะแสดงความสุขส่วนตน ให้ความร่วมมือกับส่วนรวมอย่างเต็มที่ มีผู้ไม่ประสงค์ดีต่อสังคมจะบาดแผลให้เกิดความแตกแยก ก็จะไม่เป็นผลสำเร็จ เพราะสมาชิกในสังคม เป็นผู้มีจิตใจน่านิแน่น มีเหตุผล และเป็นผู้นำสงบ ๔. ผลต่อศาสนา ๔.๑. ทำให้เข้าใจพระพุทธศาสนาได้อย่างถูกต้อง และรู้ถึงคุณค่าของพระพุทธศาสนา รวมทั้งรู้เห็นด้วยตนเองว่า การฝึกสมาธิไม่ใช่เรื่องเหลวไหล หากแต่เป็นวิธีเดียวที่จะทำให้พ้นทุกข์เข้าสู่พ้นพานได้