ข้อความต้นฉบับในหน้า
๙. น้ำกักหนุนดินเป็น "ดวงแก้วกลมใส" ขนาดเท่าแก้วตาดำ ใบมะลูฤทธิ์ปราศจากรอยตำหนิใด ๆ ขาวใส เย็นตาเย็นใจ ดั่งประกายของดวงดาว ดวงแก้วกลมใสนี้ เรียกว่า "บริการนม" นักกลาย ๆ นักเหมือนดวงแก้วนันมิ่งนอยู่ ณ ศูนย์กลางกายชั้นที่ ๗ นักไปวาวนไปอย่างนุ่มนวล เป็นพุทธสัตว์ว่า "สัมมาอะระหัง" หรือค่อย ๆ น้อมนำดวงแก้วกลมใสให้ร้อง ๆ เคลื่นเข้าสู่กลางกายตามแนวฐาน โดยเริ่มต้นตั้งแต่ฐานที่ ๓ เป็นต้นไป นิ่มนวลดังลับ ใจเย็น ๆ ไปพร้อม ๆ กับคำว่านา
อันนี้ เมื่อดินดวงแก้วกลมใสปรากฏแล้ว ณ ศูนย์กลางกาย ให้รวบอารมณ์สบาย ๆ กับดินนั้น จนเหมือนกับว่า ดวงนิมิตเป็นส่วนหนึ่งของอารมณ์ หากดวงนิมิตนั้นอันตรธานหายไป ถึงไม่ต้องนึกเสียลาย ให่วงจากร่มสบาย แล้วนิมิตนันขึ้นมาใหม่แทนดวงเก่า หรือเมื่อดินนิมิตนจะบูรณา ๆ ที่มีศูนย์กลางกาย ให้ค่อย ๆ น้อมนิมิตเข้ามาอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่มีการบีบคั้น และเมื่อดินนิมิตหยุดสนิท ณ ศูนย์กลางกาย ให้วงลิ้งลงไปยังจุดศูนย์กลางของดวงนิมิต ด้วยความรู้สึกคล้ายมีดวงดาวดวงเล็ก ๆ อีกดวงหนึ่ง ซ้อนอยู่ตรงกลางดวงนิมิตดวงเดิม แล้วสนใจเอาใจใส่แต่ดวงเล็ก ๆ ตรงกลางนั้นไปเรื่อย ๆ ใจจะปรับจังหวะได้ถูกส่วน เกิดการตามศูนย์ และเกิดดวงส่างขึ้นมาทบที่ ดวงนี้เรียกว่า “ดวงธรรม” หรือ “ดวงปฐมมรรค” อัน เป็นประตูเบื้องต้นที่จะเปิดไปสู่หนทางแห่งมรรคผลนิพพาน
การจะลึกถึงนิมิต สามารถทำได้ในทุกแห่ง ทุกที่ ทุกบริเวณ ไม่ว่าจะนั่ง นอน ยืน เดิน หรือแม้แต่ทำกิจวัตร
ข้อแนะนำ คือต้องทำให้สมำเสมอเป็นประจำ ทำเรื่อย ๆ ทำอย่างสบาย ๆ ไม่รังแรง ไม่บังคับ ทำได้แค่ไหน ให้พอในคันนั้น ซึ่งจะเป็นการป้องกันมิให้เกิดความอยากจนเกินไป จนถึงกับทำให้จิตต้องสูญเสียความเป็นกลาง และเมื่อการฝึกสมาธิจึง