ศาสดาเอกของโลก (2)

ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นชื่อว่า เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ ก็วิบากอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้ที่เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ... https://dmc.tv/a6697

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ธรรมะเพื่อประชาชน
[ 28 พ.ค. 2553 ] - [ ผู้อ่าน : 18269 ]
ศ า ส ด า เ อ ก ข อ ง โ ล ก
( ๒ )


 
ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า
ชนเหล่านั้นชื่อว่า เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ
ก็วิบากอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้ที่เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ
 
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นต้นแบบของยอดนักสร้างบารมี ที่สร้างบารมีในทุกเวลาทุกสถานที่ ไม่ว่าจะกี่ภพกี่ชาติพระพุทธองค์ มุ่งสร้างบารมีโดยไม่มีข้อแม้ ข้ออ้าง และเงื่อนไข เป็นผู้ไม่ว่างเว้นจากการสร้างบารมี เราทั้งหลายผู้เป็นพุทธศาสนิกชน ควรดำเนินชีวิตตามอย่างพระพุทธองค์ ด้วยการสร้างบารมีทุกรูปแบบ และตั้งใจฝึกฝนอบรมใจให้หยุดนิ่ง ให้สะอาดบริสุทธิ์ ให้เข้าถึงพระธรรมกาย เพื่อให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะ เข้าถึงฝั่งแห่งนิพพานอันเป็นเอกันตบรมสุขติดตามพระองค์ไปด้วย
 
     พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ใน อัปปมาทวรรค ว่า
 
    " ยาวตา จุนฺทิ สตฺตา อปทา วา ทฺวิปทา วา จตุปฺปทา วา พหุปฺปทา วา รูปิโน วา อรูปิโน วา สญฺญิโน วา อสญฺญิโน วา เนวสญฺิญินาสญฺิญิโน วา ตถาคโต เตสํ อคฺคมกฺขายติ อรหํ สมฺมาสมฺพุทฺโธ ฯ เย โข จุนฺทิ พุทฺเธ ปสนฺนา อคฺเค เต  ปสนฺนา อคฺเค โข ปน ปสนฺนานํ อคฺโค วิปาโก โหติ
 
     ดูก่อนจุนที สัตว์ที่ไม่มีเท้าก็ดี มี ๒ เท้าก็ดี มี ๔ เท้าก็ดี มีเท้ามากก็ดี มีรูปก็ดี ไม่มีรูปก็ดี มีสัญญาก็ดี ไม่มีสัญญาก็ดี มีสัญญาก็มิใช่ ไม่มีสัญญาก็มิใช่ก็ดี มีประมาณเท่าใด พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า บัณฑิตกล่าวว่าเลิศกว่าสัตว์เหล่านั้น ชนเหล่าใดเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ชนเหล่านั้นชื่อว่า เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ ก็วิบากอันเลิศย่อมมีแก่บุคคลผู้ที่เลื่อมใสในสิ่งที่เลิศ "
 
     การที่พวกเราได้เกิดมาเป็นมนุษย์ พบพระพุทธศาสนา มีจิตเลื่อมใสศรัทธาในพระรัตนตรัย เลื่อมใสพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผู้เป็นเอกบุรุษในโลก แล้วยึดพระพุทธองค์เป็นแบบอย่างในการสร้างบารมี นับว่าพวกเราเป็นผู้มีบุญลาภอันประเสริฐ เกิดมาชาตินี้ถือว่าเป็นชีวิตที่มีสาระแก่นสาร มีชีวิตไม่ว่างเปล่าจากกุศลความดี เกิดมาเพื่อสั่งสมบุญบารมีอย่างแท้จริง ความ เลื่อมใสในพระพุทธเจ้า พระธรรม และพระสงฆ์เป็นสิ่งที่บังเกิดขึ้นได้ยาก บุคคลใดที่มีความเลื่อมใสเช่นนี้ แสดงว่าบุคคลนั้นได้สั่งสมบุญเก่ามาดี ได้เคยพบเห็นหรือผ่านพระพุทธเจ้ามานับภพนับชาติไม่ถ้วน จึงทำให้รู้ซึ้งถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์
 
    * สมัยที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสร้างบารมีเป็นพระโพธิสัตว์นั้น ท่านได้เกิดเป็นเกือบทุกอย่าง เวียนว่ายอยู่ในสังสารวัฏเหมือนพวกเราทุกคน แต่ใจท่านมุ่งแสวงหาทางหลุดพ้นอย่างเดียว ใจของท่านไม่เหมือนคนธรรมดาที่มัวข้องเกี่ยวอยู่ในกามคุณ ๕ ยินดีในลาภ ยศ สรรเสริญ สุข อันไม่จีรังยั่งยืน บางภพบางชาติท่านพลัดไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน แต่ชาติกำเนิดก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างบารมีของท่านแต่อย่างใด 

    แม้บางชาติพลั้งพลาดไปเกิดเป็นสัตว์เดียรัจฉาน ท่านก็เป็นช้างอาชาไนย ม้าอาชาไนย เป็นกระต่ายก็เป็นกระต่ายน้อยโพธิสัตว์ เป็นโคก็เป็นโคเจ้าปัญญา ไม่ทำให้เจ้าของเดือดร้อน ช่วยเหลือเจ้าของพ้นจากความทุกข์ยากลำบาก บางชาติไปเกิดเป็นพญานาคราช ครองนาคพิภพที่มีสมบัติทิพย์ มีนางนาคมาณวิกามากมายคอยปรนนิบัติรับใช้ เป็นพญานาคภูริทัตบ้าง เป็นจัมเปยยนาคราชบ้าง แต่ท่านเห็นว่าสมบัติอันเป็นทิพย์เหล่านี้ ไม่เที่ยงแท้ ไม่ช้าท่านต้องละทิ้งไป ท่านจึงตั้งใจรักษาอุโบสถศีลเพื่อจะได้กลับมาเกิดเป็นมนุษย์ เพราะรู้ว่าอัตภาพของมนุษย์เหมาะสมต่อการสร้างบารมีมากที่สุด
 
    เมื่อกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ ท่านเป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ เป็นมโหสถบัณฑิตผู้ฉลาดในการตัดสินคดี เป็นพระเตมีย์ผู้เห็นทุกข์เห็นโทษในการครองเรือน ไม่ยินดีในราชสมบัติ มุ่งออกบวชเพื่อแสวงหาโมกขธรรมเพียงอย่างเดียว เป็นพระมหาชนกผู้มีความเพียรอันยิ่งยวด เป็นสุวรรณสามผู้มีเมตตา อีกทั้งเป็นลูกยอดกตัญญูเลี้ยงดูบิดามารดาผู้ตาบอด เป็นพระเจ้าเนมิราชผู้สอนมหาชนให้ยินดีในการทำทาน จนมหาชนได้ไปบังเกิดในสวรรค์นับไม่ถ้วน แม้ไปบังเกิดเป็นมหาพรหมนารทะ ท่านก็ไม่มัวยินดีในสุขที่เกิดจากฌานสมาบัติ ได้สร้างบารมีด้วยการลงมาเปลื้องมิจฉาทิฏฐิของพระราชาและชาวเมือง จนมีสุคติสวรรค์เป็นที่ไปกันถ้วนหน้า
 
     ภพชาติสุดท้าย พระองค์ได้ถือกำเนิดเป็นพระเวสสันดรผู้บำเพ็ญทานบารมี ทันทีที่ประสูติจากพระครรภ์ของพระมารดา ท่านแบมืออ้าปากถามพระมารดาเลยว่า "เสด็จแม่มีสมบัติอะไรให้ลูกได้บริจาคบ้างไหม" เมื่อเติบโตขึ้น ตั้งแต่ทรงรู้ความก็ทรงทำทานเรื่อยมา ทรงบริจาคม้ามงคล ช้างมงคล จนกระทั่งถูกขับไล่ออกจากพระราชวัง พระองค์ก็ไม่ทรงหวั่นไหวเสด็จออกไปอยู่ป่าบำเพ็ญภาวนา ยังมีพราหมณ์ชูชกตามมาเพิ่มบารมีให้กับพระองค์อีก ด้วยการขอพระกุมารทั้งสอง คือ กัณหาและชาลี พระองค์ทรงบริจาคให้ไปแม้จะทรงรักลูกทั้งสองปานดวงตาดวงใจ แต่ทรงรักสัพพัญญุตญาณมากกว่า มหาทานบารมีที่พระองค์ทรงบริจาคนั้น แผ่นดินถึงกับสะเทือนเลื่อนลั่นแซ่ซ้องสาธุการไปทั่วภพสาม
 
     เมื่อละจากอัตภาพนั้น ท่านได้ไปบังเกิดเป็นท้าวสันดุสิตเทวราช เป็นจอมเทพในสวรรค์ชั้นดุสิต เสวยสุขในทิพยสมบัติเป็นเวลานาน คอยโอกาสแห่งการตรัสรู้ธรรมอยู่บนสวรรค์ การมาบังเกิดเป็นพระพุทธเจ้าของพระองค์นั้น ไม่ได้ลงมาอย่างไม่มีใครรู้เห็น ท่านลงมาด้วยการเชื้อเชิญของเหล่ากายทิพย์ทั้งหลาย ชาวสวรรค์ ๖ ชั้น พรหมชั้นต่างๆ มาประชุมพร้อมกัน แล้วพากันไปอาราธนาท่านให้ลงมาบังเกิดว่า
 
     "ข้าแต่พระมหาวีระ บัดนี้เป็นเวลาอันสมควรแล้ว ขอพระองค์ได้โปรดอุบัติในพระครรภ์ของพระมารดา เพื่อตรัสรู้อมตธรรม ช่วยทำให้โลกนี้พร้อมทั้งเทวโลกให้ข้ามทางอันกันดารในสังสารวัฏด้วยเถิด" พระองค์ได้ตรวจดูแล้ว เห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมต่อการมาอุบัติ จึงตรวจดูสถานที่ที่จะมาอุบัติ ซึ่งเราเรียกว่า มหาวิโลกนะ
 
     ผู้มีบุญบารมีมาก เวลาจะเกิดท่านเลือกเกิดเองได้ ท่านตรวจดูว่าโลกมนุษย์เหมาะสมจะเป็นสถานที่รองรับท่านได้ไหม พระมหาสัตว์ทรงตรวจดูกาลเวลาว่า ถึงเวลาหรือยัง ถ้ามนุษย์มีอายุเกิน ๑๐๐,๐๐๐ ปี ท่านจะไม่อุบัติ เพราะมนุษย์พิจารณาไตรลักษณ์ คือความไม่เที่ยงของสังขารไม่ออก เพราะอายุยืนเกินไป เกิดมาเป็นหมื่นๆ ปีแล้ว ไม่เห็นแก่หรือเจ็บป่วยเลย จึงตรองตามพระธรรมไม่ได้ เมื่อพระพุทธเจ้าตรัสว่า อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา สรรพสัตว์ก็จะไม่เข้าใจ ทำให้หาผู้ตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ยาก
 
     หากเป็นยุคสมัยที่มนุษย์มีอายุถอยลงไปต่ำกว่า ๑๐๐ ปี ก็ไม่ใช่เวลามาอุบัติเช่นกัน เพราะหมู่สัตว์มีกิเลสหนาปัญญาหยาบเกินไป คำสอนที่พระองค์ทรงแสดงจะเป็นเหมือนไม้ที่ขีดลงไปในน้ำ น้ำแยกออกจากกันแล้วก็เชื่อมกันเช่นเดิม ทำให้ไม่มีผู้ตรัสรู้ธรรมตามพระองค์ได้ เพราะฉะนั้นกาลสมัยที่มนุษย์มีอายุต่ำกว่า ๑๐๐,๐๐๐ ปี ลงมาถึง ๑๐๐ ปี จึงชื่อว่าเป็นกาลที่สมควร
 
     จากนั้นพระองค์ตรวจดูทวีป ทรงเล็งเห็นทวีปทั้ง ๔ คือ อุตตรกุรุทวีป ปุพพวิเทหะ อปรโคยาน และชมพูทวีปพร้อมด้วยทวีปบริวาร ทรงเห็นว่าใน ๓ ทวีป พระพุทธเจ้าทั้งหลายไม่บังเกิด จะบังเกิดในชมพูทวีปแห่งเดียวเท่านั้น จากนั้นทรงตรวจดูประเทศต่อไปว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลายบังเกิดในประเทศไหนหนอ ทรงเห็นมัชฌิมประเทศ คือประเทศอินเดียในปัจจุบัน เป็นสถานที่ ที่พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระปัจเจกพุทธเจ้าและพระเจ้าจักรพรรดิ พระราชามหากษัตริย์ พราหมณ์ คฤหบดี ผู้มีศักดิ์ใหญ่มาบังเกิด
 
     พระมหาสัตว์ตรวจดูตระกูล ทรงเห็นว่า ธรรมดาพระพุทธเจ้าจะบังเกิดในตระกูลที่ชาวโลกยกย่อง ซึ่งปัจจุบันตระกูลกษัตริย์ เป็นตระกูลที่ชาวโลกยกย่องว่าประเสริฐที่สุด เมื่อตรวจดูมารดา ทรงเห็นว่า ธรรมดาพระพุทธมารดาไม่เป็นหญิงเหลาะแหละ บำเพ็ญบารมีมาแล้วถึง ๑๐๐,๐๐๐ กัป รักษาศีล ๕ ไม่ขาดตั้งแต่เกิด พระนางสิริมหามายาเป็นผู้สมควรเป็นมารดาของพระองค์
 
     เมื่อพระองค์ทรงตรวจตราจนครบทั้ง ๕ ประการ คือ กาล ทวีป ประเทศ ตระกูลและพระมารดาแล้ว จึงตัดสินพระทัยจุติมาบังเกิดในพระครรภ์ของพระนางสิริมหามายาในศากยราชตระกูล แม้อยู่ในพระครรภ์ พระองค์ก็มีสติสัมปชัญญะแจ่มใส อยู่ในอิริยาบถนั่งขัดสมาธิ(Meditation)คู้บัลลังก์เพียงอิริยาบถเดียว นี่คือความมหัศจรรย์ของพระพุทธเจ้าของเรา โดยเฉพาะในขณะที่พระองค์ประสูติ หมื่นโลกธาตุหวั่นไหวสะเทือนเลื่อนลั่น รัศมีแผ่ไปในหมื่นจักรวาล คนตาบอดแต่กำเนิดกลับได้จักษุ คนหูหนวกก็ได้ยินเสียง คนใบ้ก็พูดเจรจาได้ คนค่อมก็เดินหลังตรงได้ คนง่อยกลับเดินได้ตามปกติ ไฟในนรกทั้งหมดก็ดับลง สัตว์นรกพ้นจากการถูกทัณฑกรรมชั่วคราวกันเลยทีเดียว
 
     เรื่องราวการอุบัติขึ้นของพระพุทธองค์ดูเหมือนจะมาพร้อมๆ กับปาฏิหาริย์ เป็นเรื่องราวที่มหัศจรรย์เหลือวิสัยของมนุษย์ธรรมดา เหลือเชื่อแต่ก็เป็นความจริงที่พิสูจน์ได้ เมื่อเข้าถึงพระธรรมกาย เพราะพระองค์ได้สั่งสมบุญบารมีไว้มาก บารมีเต็มเปี่ยมล้นปรี่พร้อมที่จะเข้าถึงธรรมอยู่แล้ว จึงเป็นบุคคลผู้มีอานุภาพ จะหามนุษย์และเทวาผู้ยิ่งกว่าหรือเสมอเหมือนก็ไม่มี วันวิสาขบูชาจึงเป็นวันสำคัญที่เหล่าพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ควรหาโอกาสเอาวันอันเป็นสิริมงคลนี้ ตรึกระลึกนึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของพระพุทธองค์ ด้วยการทำทาน รักษาศีลและเจริญภาวนา ฝึกฝนใจให้หยุดนิ่ง เพื่อน้อมถวายเป็นปฏิบัติบูชาแด่พระบรมศาสดาของเรา เราจะได้บุญใหญ่ที่เกิดจากการบูชาบุคคลที่ควรบูชา ทำให้มีสุคติสวรรค์เป็นที่ไป 
 
 
พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* พุทธประวัติ เล่ม ๑ (หลักสูตรนักธรรมตรี)
 
 

http://goo.gl/ZrnSh


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      มงคลที่ ๑๕ บำเพ็ญทาน - อานิสงส์ทำบุญทอดกฐิน
      หลุดพ้นจากสังสารวัฏ
      โสฬสญาณ
      เบื้องต้นเบื้องปลายไม่ปรากฏ
      พระอรหันต์รู้ได้ยาก
      ความวิเศษสุดของพระพุทธศาสนา
      พระอรหันต์มีจริง
      พระอริยเจ้า
      ผลแห่งการชวนคนมารู้จักพระรัตนตรัย
      คนดีที่โลกต้องการ
      นักสร้างบารมีพันธุ์อาชาไนย
      เวสารัชชธรรม ๔
      ต้นแบบแห่งความดี




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related