กอดเลย...ก่อนไม่มีแม่ให้กอด, กราบเลย...ก่อนไม่มีแม่ให้กราบ

และหากแม่จะแสดงความเห็นอะไรขึ้นมาบ้าง ลูกทั้งสองคือคนโตและคนเล็กก็จะแผดเสียง ตะวาดอย่างก้าวร้าวว่า “หุบปาก ใครใช้ให้ออกความเห็น ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าพูด…” คือแม่จะพูดอะไรเป็นผิดหมด และจะถูกดูถูกหาว่าโง่ https://dmc.tv/a371

บทความธรรมะ Dhamma Articles > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 10 เม.ย. 2549 ] - [ ผู้อ่าน : 18271 ]
CASE  STUDY
กอดเลย...ก่อนไม่มีแม่ให้กอด, 
กราบเลย...ก่อนไม่มีแม่ให้กราบ
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
    
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

       ลูกเป็นนักเรียนโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ที่รู้สึกสงสารคุณอาหญิงของลูกเป็นที่สุด และทนไม่ได้ที่ต้องเห็นคุณอากล้ำกลืนอยู่ในความขมขื่นอย่างหาทางออกไม่ได้แบบนี้ ด้วยเหตุนี้ลูกจึงตัดสินใจส่งเรื่องราวนี้มาเป็น Case Study เพื่อหาคำตอบในเชิงกฎแห่งกรรม ซึ่งลูกเชื่อมั่นเหลือเกินค่ะว่า   คำตอบนี้จะเป็นแสงสว่างที่จะช่วยให้ คุณอาพบทางออกที่ดีที่สุด…

    อาคนที่ 2 ของลูก เกิดในครอบครัวที่ยากจน จึงทำให้มีโอกาสทางการศึกษาน้อย คือ เรียนจบเพียงแค่ชั้นป.4  คุณอาเป็นผู้หญิงซื่อๆ ที่ไม่มีลักษณะผู้นำใดๆเลย หลังจากคุณอาแต่งงานมีลูกแล้ว ไม่ว่าจะยากดีมีจนขนาดไหน คุณอาก็ทั้งรักและทะนุถนอมตั้งใจเลี้ยงลูกเป็นอย่างดีทุกอย่าง ส่งเสริมลูกๆ เรียนจบถึงขั้นปริญญาตรีกันทั้ง 3 คน   คนโตเป็นชาย   คนกลางเป็นชาย  และคนเล็กเป็นหญิง    แต่ไม่ทราบว่าเป็นเวรเป็นกรรมอะไรค่ะ   ในช่วง 6 ปีให้หลังนี้  คุณอามีปากเสียงทะเลาะกับลูกชายคนโตและลูกสาวคนเล็กของเธออย่างรุนแรงเกือบทุกวัน  บางทีก็วันละหลายๆครั้ง   จนลูกคนโตและคนเล็กพากันเกลียดคุณอาซึ่งเป็นแม่ผู้มีพระคุณที่สุดของตัวเอง หนำซ้ำยังต่อว่าพ่อของเขาว่า “ทำไมพ่อถึงไปเลือกเอาผู้หญิงพันธุ์นี้มาเป็นภรรยา และก็ไม่น่าเกิดมามีแม่แบบนี้เลย…”  ลองคิดดูเถอะค่ะว่า  คำพูดนี้จะสร้างความปวดร้าวให้กับผู้เป็นแม่ที่รักลูกที่สุดสักเพียงใด  ซึ่งแทบทุกวัน ลูกๆของคุณอาจะพูดด่าว่าถากถางแม่ของตัวเองสารพัด ตะวาดและตะคอกแม่ต่อหน้าลูกจ้างในบ้าน ราวกับแม่เป็นเสมือนทาสคนหนึ่ง  ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ลูกจ้างในบ้านที่มีอยู่ถึง 5 - 6 คนไม่เกรงใจแม่ไปด้วย คือหากแม่จะใช้ให้ลูกจ้างทำอะไรบ้าง ลูกจ้างก็จะไม่ยอมทำให้ และหากแม่จะแสดงความเห็นอะไรขึ้นมาบ้าง   ลูกทั้งสองคือคนโตและคนเล็กก็จะแผดเสียง     ตะวาดอย่างก้าวร้าวว่า “หุบปาก ใครใช้ให้ออกความเห็น ไม่รู้เรื่องแล้วอย่าพูด…”  คือแม่จะพูดอะไรเป็นผิดหมด   และจะถูกดูถูกหาว่าโง่ เรียนน้อย หรือบางทีในขณะที่กำลังมีปากเสียงกัน  หากฝ่ายลูกกำลังถือหม้อน้ำแกงเดือดๆอยู่ในมือ ก็จะพูดว่า “เดี๋ยวกูจะเอาไอ้นี่ราดมึงเลย” บางทีก็ด่าแม่ ว่าด้วยคำหยาบจนแทบจะฟังไม่ได้ เช่นด่าแม่ว่า..ไอ้เหี้ย!! แต่ถึงแม้การทะเลาะกันจะรุนแรงสักปานใด สามีของคุณอาก็ไม่เคยห้ามปรามลูกๆที่ทำกับแม่อย่างนี้ หนำซ้ำให้ท้ายลูกเสียอีก บางครั้งคุณอาทนไม่ไหวก็จะพยายามพูดให้ลูกหยุดว่า “ทำกับแม่อย่างนี้…ระวังจะตกนรก..!!” ซึ่งลูกของคุณอาก็จะรีบสวนกลับทันควันเลยว่า “แล้วตัวเอง..จะได้ขึ้นสวรรค์รึงัย..!!”
 
การเถียงกันยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ หากลูกไม่พอใจจะอาละวาดเตะทำลายข้าวของที่เป็นของๆแม่ เช่นเตะพัดลมที่แม่ใช้เป็นประจำจนคอหักพัง แล้วก็ปล่อยให้แม่นั่งทำงานงกๆทนร้อนอยู่อย่างนั้นโดยไม่ใยดีอะไรทั้งสิ้น  ซึ่งลูกก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะว่า ด้วยเหตุผลใด   ทำไมสมาชิกในครอบครัวของคุณอาไม่มีใครห่วงใย คุณอาเลย  แม้เวลาออกไปทานข้าวนอกบ้านกัน คุณอาก็เป็นคนเดียวที่ถูกทิ้งไว้ ถึงแม้พากันกลับมาจากทานข้าวแล้วก็ไม่ยอมซื้ออาหารอะไรมาให้คุณอากินด้วย  แต่กลับซื้ออะไรติดไม้ติดมือมาฝากลูกจ้างในบ้านแทน บ่อยครั้งที่คุณอาต้องร้องไห้ บางทีร้องจนไม่มีน้ำตา ซึ่งก็สมควรอยู่หรอกค่ะ เพราะคนที่ทำกับคุณอา คือลูกแท้ๆที่คุณอารักมากกว่าชีวิตตัวเองเสียอีก คุณอาจึงได้แต่ตรอมตรมจมน้ำตาเรื่อยไปอยู่อย่างนี้...ใครที่เป็นลูกฟังไว้..อย่าทำให้คุณแม่เสียใจอย่างนี้นะจ๊ะ..ต้องรีบไปขอขมาท่าน..ไปกราบเท้าท่าน...และเข้าไปกอดท่านไม่ต้องอาย..ก่อนที่จะไม่มีท่านให้กอด...

เมื่อคุณอาคนที่สองทุกข์ตรมขนาดนี้จึงได้โทรมาระบายความทุกข์นี้ให้กับคุณอาคนที่ 3 ของลูกฟัง ท่านจึงได้แต่แนะนำให้เอาธรรมะเป็นที่พึ่ง และแอบติดจานดาวธรรมให้ แต่ภายหลังลูกๆและสามีของคุณอาเปิดไปเจอดาวธรรมโดยบังเอิญจึงอาละวาดด่าคุณอาเป็นการใหญ่และห้ามไม่ให้ดูรายการนี้อีก แต่เธอก็ได้พยายามแอบดูบ้างค่ะ  แต่ก็หาโอกาสดูได้น้อยมาก

    คุณอาคนที่ 3 ของลูก เป็นคนไม่ค่อยรวย และเป็นน้องสาวที่สนิทกับคุณอาคนที่ 2 มากที่สุด อีกทั้งยังเป็นที่ระบายความทุกข์ที่ไว้ใจที่สุดของคุณอาคนที่ 2 อีกด้วย และด้วยเหตุนี้จึงทำให้คุณอาคนที่ 3 มักจะเครียดแทนพี่สาวของเธอไปด้วย   แต่โชคดีค่ะ ที่คุณอาคนที่ 3 เป็นคนมีธรรมะ เข้าใจเรื่องบุญ เพราะมีโอกาสศึกษาธรรมะมากกว่าคนอื่น เพราะเธอยังไม่แต่งงานทำให้ไม่มีภาระและปัญหาครอบครัว ในช่วงแรกที่คุณอาคนที่ 3 มาวัดพระธรรมกายใหม่ๆ เธอจะป่วย และต้องอาเจียน เวียนหัว หรือไม่สบายทุกครั้งไป จนคนรอบข้างบอกว่าถ้ามาแล้วต้องป่วยอย่างนี้ ก็ไม่ต้องมาดีกว่า คุณอาคนที่ 3 จึงได้อธิษฐานขอกับคุณยายอาจารย์ ให้เธอหาย ซึ่งก็อัศจรรย์มากๆ ที่หายจริงๆ และไม่เป็นอีกเลย ทำให้สามารถมาวัดได้อย่างต่อเนื่องจนกระทั่งปัจจุบันนี้ค่ะ 

    คุณปู่ของลูก เป็นคนใจบุญ เวลาลูกไปชวนท่านทำบุญอะไรท่านก็จะทำ ท่านเคยป่วยเป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ แต่หลังจากทำบายพาสแล้วท่านอยู่ต่อได้อีก 10 ปี แต่จากนั้นท่านก็หกล้ม ศีรษะกระแทก มีเลือดออกในสมอง อาการทรุดหนักลงอีก จนต้องเข้าห้อง ICU ซึ่งในช่วงนี้เองลูกได้ทำหน้าที่ชวนให้ท่านสร้างพระธรรมกายประจำตัว โดยนิมนต์พระอาจารย์ไปรับปัจจัยถึงโรงพยาบาล โดยให้คุณปู่ถวายเองกับมือ ซึ่งหลังจากถวายเสร็จเพียง 2 คืน คุณปู่ก็มีอาการเพ้อพูดขึ้นว่า..เห็นองค์พระ..เห็นองค์พระสีทองๆ และนับจากนั้นเอง คุณปู่ก็มีอาการดีขึ้นมากอย่างน่าประหลาด จะพูดว่าเหมือนเป็นวูบสุดท้ายของชีวิตก็ว่าได้ ซึ่งทำให้ท่านอยู่ต่อมาได้อีก 6 วัน แต่ก่อนที่คุณปู่จะเสียชีวิต คุณอาคนที่ 3 ของลูกก็ได้ขอขมาลาโทษคุณปู่ โดยกระซิบบอกท่านที่ข้างๆหู จากนั้นคุณปู่ก็น้ำตาไหล และไม่นานนักคุณปู่ก็ได้จากไปอย่างสงบ ด้วยวัย 82  ปี

    คุณย่าของลูก เป็นคนขยัน ทำบุญตามประเพณี ชอบไหว้เจ้ามาก ช่วงสุดท้ายของชีวิต  คุณย่าป่วยเป็นอัมพฤตอยู่ 6 ปี    โดยมี คุณอาคนที่ 3 เป็นคนดูแลอย่างใกล้ชิด วาระสุดท้ายคุณย่าจากไปด้วยวัย 60 ปี

    ส่วนตัวลูกเอง เป็นพี่สาวคนโต และมีน้องชายที่รักมากอีก 1 คน เราทั้งสองเกิดมามีชีวิตที่เพียบพร้อมและสุขสบายทุกอย่าง เพราะคุณพ่อคุณแม่สร้างทุกอย่างไว้ให้แล้ว ลูกจึงมีหน้าที่อย่างเดียวคือเรียนหนังสือ เรียนจนกระทั่งถึงชั้นม.3 อยู่ๆลูกก็มีอาการเบื่ออาหาร ทานข้าวไม่ได้ และอาเจียนอย่างทรมานจนหมดเรี่ยวหมดแรง ต้องเข้าโรงพยาบาล ซึ่งหมอเองก็หาสาเหตุไม่พบจึงได้แต่สรุปว่าลูกเป็นโรคเครียดค่ะ  ซึ่งลูกต้องเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการดังกล่าวเช่นนี้อีกหลายครั้ง เข้าจนกระทั่งถึงช่วงที่เข้าเรียนในระดับอุดมศึกษา แล้วได้มาทำกิจกรรมชมรมพุทธตั้งแต่ปี 1 ถึง ปี 4 ซึ่งก็แปลกมากๆค่ะ ตอนช่วงที่ทำกิจกรรมชมรมพุทธนี่เอง อาการป่วยอย่างนี้ของลูกได้หายเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ ทั้งๆที่การเรียนในมหาวิทยาลัยก็หนักและเครียดกว่าเมื่อก่อนเยอะ อีกทั้งในปี 4 ต้องรับผิดชอบชมรมในฐานะประธานชมรมพุทธอีกด้วย แต่ลูกก็ไม่มีการป่วยเลย    หลังจากลูกเรียนจบแล้วก็ตัดสินใจเข้ามาเป็นอุบาสิกาที่วัด ซึ่งก็ได้รับบุญดูแลเรื่องคนเหมือนตอนที่ทำงานชมรมพุทธ เช่นดูแลน้องชมรมพุทธกว่า 50 สถาบัน เป็นพี่เลี้ยงบัณฑิตแก้ว มีน้องในความดูแลหลักร้อยตลอด คือพูดง่ายๆก็คือตั้งแต่รับบุญมา ลูกมักจะต้องมาดูแลเกี่ยวกับเรื่องคน 

หลังจากลูกเข้าวัดแล้ว ลูกก็ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับครอบครัวและที่บ้านจนทุกคนเข้าใจวัด ทำบุญทุกบุญที่ลูกชวน และดู DMC แต่ในช่วงระยะหลังนี้คุณแม่ไม่ค่อยจะยอมนั่งสมาธิ(Meditation)เลยค่ะเพราะท่านมักจะบ่นว่าปวดเอวปวดขาและเป็นโรคนอนไม่หลับ แต่เมื่อลูกชวนท่านทำบุญอะไรท่านก็ทำบุญทุกบุญที่ลูกชวนค่ะ...ลูกรู้ค่ะว่าท่านรักลูกมากและลูกก็รักท่านมากเช่นกัน..เพราะเราทั้งสองยังไม่เคยลืมช่วงเวลาที่ประทับใจเลย...นั่นคือช่วงเวลาที่อากาศไม่อาจผ่านค่ะ...
 
ลูกขอเรียนถามคำถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อดังนี้ค่ะ

1.    บุพกรรมใดทำให้อาคนที่2 ต้องมีปากเสียงกับลูกคนโตและคนเล็ก   , คุณอาและลูกสองคนนี้ผูกเวรกันมาหรือไม่อย่างไร , คุณอาต้องแก้ไขบุพกรรมนี้อย่างไร และควรจะแก้ไขเหตุการณ์ในปัจจุบันนี้อย่างไรคะ

2.    บุพกรรมใดทำให้คุณอาคนที่ 2 ถึงถูกกีดกันไม่ให้ดูดาวธรรม , ต้องแก้ไขอย่างไรเพื่อให้คุณอาคนนี้สามารถมาวัดและมีธรรมะเป็นที่พึ่งได้มากกว่านี้คะ

3.    เหตุใดสามีของคุณอาจึงให้ท้ายลูกทั้ง 2 และลูกของคุณอาทั้ง 2 จะต้องไปรับใช้วิบากกรรมนี้อย่างไร และการทำกรรมกับแม่แบบนี้บาปหนักเท่ากับ หรือ ต่างจากทำกับพระอรหันต์หรือไม่ อย่างไรคะ

4.    บุพกรรมใดทำให้คุณอาคนที่ 3 เป็นโสดและไม่รวย และบุพกรรมใดทำให้ในช่วงแรกที่มาวัดพระธรรมกายคุณอาคนที่ 3 ต้องป่วยทุกครั้ง และทำไมจึงหายได้หลังจากอธิษฐานขอกับคุณยายอาจารย์คะ

5.    บุพกรรมใดทำให้คุณปู่เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบ และสามารถอยู่ต่อได้หลังจากทำบายพาสถึง 10 ปี , ทำไมคุณปู่ถึงเพ้อเห็นองค์พระสีทองค่ะ , และทำไมคุณปู่ถึงมีอาการดีขึ้นทันทีหลังจากที่ได้สร้างพระ และอยู่ต่อมาได้อีก 6 วัน

6.    ตอนคุณปู่ใกล้เสียชีวิต คุณอาคนที่ 3 ได้ขอขมา  คุณปู่รับรู้ไหมคะ ถ้ารับรู้คุณปู่คิดอย่างไร , ในกรณีของคนใกล้ตาย ควรจะขอขมาดี หรือพูดให้ท่านนึกถึงบุญดีคะ และตามหลักวิชชาแล้วควรขอขมาตอนไหนถึงเหมาะสมคะ

7.    ก่อนตายคุณปู่มีคตินิมิตอย่างไร ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศหรือมีอะไรอยากฝากบอกไหมคะ

8.    บุพกรรมใดทำให้คุณย่าเป็นอัมพฤต  , ทำไมคุณอาคนที่ 3 ต้องมามีหน้าที่ในการดูแลคุณย่าด้วยคะ , คุณย่าตายแล้วไปไหน ตอนนี้ท่านเป็นอย่างไร ได้รับบุญที่อุทิศไหม  , คุณย่าชอบไหว้เจ้ามาก  ตอนนี้ตายแล้วท่านคิดอย่างไรกับบุญสร้างองค์พระคะ   และคุณย่าอยากให้ทำบุญสร้างองค์พระไปให้อีกไหมคะ

9.    บุญใดทำให้ลูกและน้องชาย เกิดมาในครอบครัวที่เพียบพร้อมทุกอย่างคะ และบุพกรรมใดทำให้ลูกทานข้าวไม่ได้และอาเจียนอย่างหนัก ลูกเป็นโรคเครียดจริงหรือไม่คะ  ลูกต้องกลับมาเป็นอีกหรือไม่คะ และต้องทำบุญประเภทไหนถึงจะแก้วิบากกรรมนี้คะ

10.    เหตุใดลูกมักจะต้องมารับบุญเกี่ยวกับการดูแลคนมาโดยตลอด ลูกเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาในรูปแบบใด มีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม เคยเข้าถึงพระธรรมกายไหมคะ และได้ลงมาสร้างบารมีกับหมู่คณะกี่รอบคะ

11.    บุพกรรมใดคุณแม่จึงเป็นโรคปวดขา  และนอนไม่หลับ ต้องแก้ไขอย่างไร และลูกต้องทำอย่างไรเพื่อให้ทั้งคุณแม่และคุณพ่อมาวัดทุกอาทิตย์คะ   และคุณแม่ยอมนั่งสมาธิคะ

12.    คุณแม่ คุณพ่อ น้องชาย และคุณอาคนที่ 2 และ 3 เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมามากน้อยต่างกันแค่ไหน น้องชายมีบุญบวชตลอดชีวิตไหมคะ 
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง


 
ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที 
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1.    “คุณอาคนที่  2”   มีปากเสียงกับลูกคนโตและคนเล็กเพราะ.....กรรมในอดีตของคุณอาคนที่  2  ที่ชาติหนึ่งเกิดเป็นผู้ชาย มีนิสัยเกเร   ชอบด่าว่าพ่อแม่ด้วยคำหยาบคาย  ,  ทั้งมีนิสัยเจ้าชู้     เมื่อมีภรรยาก็เหยียบย่ำดูถูก , ด่าว่า , กดขี่ภรรยาเสมอ     อีกทั้งมีทาสรับใช้อยู่ในบ้านซึ่งเป็นพี่น้องกัน  ,  ท่านได้กดขี่ข่มเหงทาสทั้งสองอยู่เสมอ   จนทั้งคู่คิดแค้นผูกเวรว่า   สักวันหนึ่งจะต้องทำตอบแทนแค้นนี้ให้ได้    
 
 
  • ดังนั้นเมื่อมาเจอกันชาตินี้   ทาสทั้ง  2  ก็มาเกิดเป็นลูกคนโตและคนเล็ก  ,  ส่วนท่านมาเกิดเป็นแม่    และกรรมก็บันดาลให้มาโดนบ้างจ่ะ !    
 
  • ก็ให้อดทนและให้อภัย   เวรจะได้ระงับ     แล้วก็สั่งสมบุญทุกบุญ   อธิษฐานจิตให้พ้นจากวิบากกรรมนี้ไปจ่ะ !
 
2.    “คุณอาคนที่  2”   ถูกกีดกันไม่ให้ดูดาวธรรม   เพราะ.....ในอดีตก็ไม่เคยทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนทำความดี     แถมกีดกันคนไม่ให้มาทำความดีอีกด้วย   มาส่งผลจ่ะ !    
 
 
  • จะให้มาวัดศึกษาธรรมะ   ก็ต้องมีใครไปชักชวนให้ท่านมาวัด     โดยที่ยังไม่ให้ทางบ้านรู้จะได้ไม่มีใครขัดขวาง     เมื่อท่านได้มาวัดมาศึกษาธรรมะได้ปฏิบัติธรรมะจนเข้าถึงที่พึ่งภายในแล้ว     ท่านจะอยู่ตรงไหนก็ไม่มีความทุกข์ใจจ่ะ !
 
3.    “สามีคุณอาคนที่  2”   ให้ท้ายลูก  2  คน   เพราะ.....กรรมเก่าของคุณอาคนที่  2  ดังกล่าว   แล้วได้บันดาลให้มาเจอสามีและลูกแบบนี้จ่ะ !
 

  • ลูกคุณอาคนที่  2  ทั้ง  2  คน   จะมีวิบาก  คือ  เมื่อใกล้ตายก็จะเห็นกรรมนิมิตที่ทำกับมารดาอย่างนี้     ก็จะทำให้คตินิมิตดำมืด แล้วก็ดำดิ่งไป “มหานรกขุม  4”   
 
  • จะถูกนายนิรยบาลเอาคีมเหล็กร้อนมาดึงลิ้นออกแล้วตัดด้วยมีด  ,  แล้วถอนฟันออกทีละซี่และเอาแปรงลวดเหล็กร้อนทะลวง   เป็นต้น     ตายเกิดนับครั้งไม่ถ้วนอยู่ยาวนานหลายพันล้าน ๆ ปี  ,  แล้วก็ไปตามขั้นตอนของการลงทัณฑ์เมื่อกรรมเบาบางลง  คือ  มาจากอุสสทนรก  ,  ยมโลก   แล้วก็มาเป็นอสุรกายที่พิกลพิการครึ่งสัตว์ครึ่งคนตามที่ตัวด่าคุณแม่ของตัว  ,  ปากก็จะมีหนอนชอนไชทุกข์ทรมานมาก   เป็นต้น
  • เป็นกรรมหนักมากเหมือนทำกับพระอรหันต์จ่ะ !
 
4.    “คุณอาคนที่  3”   เป็นโสดและไม่รวย   เพราะ.....ในอดีตเคยมีครอบครัวและมีความทุกข์จากการมีครอบครัว     ดังนั้นจึงอธิษฐานว่า   ภพชาติต่อไปขออย่าได้มีครอบครัว   และให้ได้อยู่เป็นโสดจ่ะ !    
  • ส่วนที่ไม่รวย   เพราะทำทานมาน้อยจ่ะ !

  • ช่วงแรกมาวัดพระธรรมกายท่านป่วย     แต่มาหายในภายหลังจากที่ขอบารมีธรรมของคุณยายอาจารย์   เพราะ.....กรรมในอดีตที่เคยฆ่าสัตว์ทำอาหารมาส่งผลขวางกันการทำความดี     ต่อมาเมื่อบุญที่เคยทำความดีในอดีตอยู่บ้างมาส่งผล   รวมกับบารมีธรรมของคุณยายอาจารย์ช่วย   จึงหายได้จ่ะ !
 
5.    “คุณปู่” เป็น “เส้นเลือดหัวใจตีบ”   แต่เมื่อทำบายพาส   อยู่ต่อมาได้อีก  10 ปี   เพราะ.....กรรมในอดีต ได้ฆ่าสัตว์ทำอาหาร, ฆ่าสัตว์ไหว้เจ้า   และใช้แรงงานสัตว์หนักเกินไปมาส่งผล     แต่บุญที่ทำในปัจจุบันที่ตัวลูกชวนทำอย่างสม่ำเสมอมาส่งผล   ให้ท่านมีชีวิตรอดต่อมาอีก  10  ปีจ่ะ !
 

  • ท่านเพ้อเห็นพระสีทอง   และมีอาการดีขึ้นทันทีที่สร้างพระและอยู่ต่อมาได้อีก  6  วัน   เพราะ.....ใจท่านผูกพันกับบุญที่สร้างพระ   จึงทำให้ท่านเห็นกรรมนิมิตเป็นพระสีทอง   และอาการดีขึ้น เพราะบุญสร้างพระมาหล่อเลี้ยงเอาไว้     แต่อายุสังขารของท่านอยู่ได้แค่นั้น   แล้วก็หมดอายุขัยจ่ะ !
 
6.    ตอนคุณปู่ใกล้เสียชีวิต   คุณอาคนที่  3  ได้ขอขมา , ท่านก็ไม่ค่อยได้รับรู้แล้วจ่ะ !    
  • การจะขอขมาควรทำตอนผู้มีพระคุณยังแข็งแรงและรู้ตัวดีจ่ะ !    
  • แต่เมื่อท่านใกล้จะละโลกแล้ว     ควรแนะนำเรื่องบุญกุศลและธรรมะ   จึงจะถูกหลักวิชชาจ่ะ !
 
7.    ก่อนตายคุณปู่มี “คตินิมิต”  สว่าง   เพราะใจท่านนึกถึงบุญออก   ทำให้บุญส่งผล    
  • ตายแล้วด้วยการหลับแล้วตื่นขึ้นกลางวิมานทองของชั้น “ดาวดึงส์  เฟส  3”   เป็นเทพบุตรสุดหล่อ     ด้วยบุญที่ทำในพระพุทธศาสนาและหมู่คณะจ่ะ !    
 
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว   
  • ท่านมีความปลื้มปีติยิ้มแย้มแจ่มใสชมทิพยสมบัติและท่านฝากมาบอกว่า   เพราะลูกและหลานคนนี้   จึงทำให้ท่านได้มาอยู่ตรงนี้จ่ะ !
 
8.    “คุณย่า” เป็นอัมพฤกษ์   เพราะ.....กรรมที่ฆ่าสัตว์ทำอาหารและไหว้เจ้าทั้งอดีตและปัจจุบันมาส่งผลจ่ะ !
  • คุณอาคนที่  3  มาดูแลท่าน   เพราะ.....ท่านไม่มีครอบครัวอีกทั้งเป็นคนมีความกตัญญูกตเวทีจ่ะ !
  • คุณย่าตายแล้ว   ก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้ว    ไม่อาจรับบุญได้จ่ะ !
 
9.    ลูกและน้องชาย   เกิดมาในครอบครัวที่มีความเพียบพร้อมทุกอย่าง   เพราะ.....ในอดีตทั้ง  2  คน   ได้ทำทานเอาไว้ดี   และได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนคนทำความดี    เมื่อทำบุญแล้วก็อธิษฐานจิตล้อมกรอบเอาไว้ดี  ,  บุญนี้จึงนำมาเกิดในครอบครัวที่เพียบพร้อมทุกอย่างจ่ะ !
 

  • ตอนเด็กลูกทานข้าวไม่ได้และอาเจียนอย่างหนัก  เพราะ.....มีนิสัยข้ามชาติมา   ที่เมื่อทำอะไรแล้วมักจะจริงจัง   ตั้งใจมากเกินไป     จึงทำให้ “เครียด” โดยไม่รู้ตัว

  • ลูกก็ต้องนั่งธรรมะแผ่เมตตาให้มาก ๆ  ,  ใจก็จะได้ใส ๆ   ไม่เป็นโรคเครียดอีกจ่ะ !     อีกทั้งให้สั่งสมบุญทุกบุญ   แล้วนึกถึงแต่เรื่องบุญและธรรมะจ่ะ !
 
10.    ลูกต้องมารับหน้าที่ดูแลคนมาตลอด   เพราะ.....ในอดีตชอบทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนคนทำความดีและดูแลคนมาคล้ายชาตินี้  ,  โดยเฉพาะพุทธันดรที่ผ่านมา   ได้เป็น “กุลบุตร” ในตระกูลเศรษฐี     ได้ออกบวชตามพระราชาองค์ที่ออกบวชจนตลอดชีวิต  ,  ได้มีหน้าที่ “เผยแผ่” มีผลการปฏิบัติธรรมเข้าถึงองค์พระ  ใส ๆ กลับดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ   ได้ลงมาสร้างบารมี  2  รอบและได้บวชเป็นพระทั้ง  2  รอบ    
 
 

  • แต่เจอวิบากมาร   ที่มารเอากรรม   กาเมเจ้าชู้ที่ใกล้จะหมดกำลังจะส่งผลแล้ว   เอามาเสริมเติมต่อวิบากกรรมกาเมเข้าไปอีก    จึงทำให้ชาตินี้มาเป็น “ผู้หญิง”     แต่ก็ยังมีนิสัยในการประพฤติพรหมจรรย์     จึงได้มาสร้างบารมีตั้งแต่ยังเยาว์วัยและได้ประพฤติพรหมจรรย์จ่ะ !

 
11.    คุณแม่เป็นโรค “ปวดขา”  ,  “นอนไม่หลับ”   เพราะ.....กรรมในอดีตได้เกิดในสังคมเกษตรกรรม   ได้ผูกมัดขาสัตว์เพื่อฆ่าขายและส่งสัตว์ขายให้เขาเอาไปฆ่า   จึงทำให้ปวดขา     แล้วท่านเกิดความเครียดเกี่ยวกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ    จึงทำให้ท่านนอนไม่หลับจ่ะ !
 

  • ลูกก็ต้องเป็นกัลยาณมิตรให้ท่านทั้งสอง   ด้วยใจที่ใส  , เยือกเย็น   อีกทั้งทำบุญทุกครั้งก็อธิษฐานจิต   ให้ท่านได้มีส่วนแห่งบุญนี้   และให้บุญนี้ไปดลบันดาลให้ท่านเกิดกุศลศรัทธามาเข้าวัดสร้างบารมีจ่ะ !   
  • ให้แนะนำคุณแม่นั่งห้อยขาบนเก้าอี้ทำสมาธิ ค่อย ๆ แนะนำให้กำลังใจท่านไปเรื่อย ๆ จ่ะ !
 
12.    คุณพ่อ  ,  คุณแม่  ,  น้องชาย  และคุณอาคนที่  2  ,  3  เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาแบบ “กองเสบียง” จ่ะ !
 

  • น้องชายมีบุญบวช “ช่วงสั้น”  ,  แต่ก็มีบุญ “บวชช่วงยาว” บ้าง     แต่ผังยังไม่หนาแน่น  ,  ชาตินี้ถ้าจะบวชตลอดชีวิตก็ต้องใช้กำลังใจสูง  ,  ตั้งใจมั่นให้แน่วแน่   ให้อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี  ,  มีกัลยาณมิตรดี ๆ นั่นแหละจ่ะ !

  • ชาตินี้มาเจอกันแล้ว     ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ แล้วอธิษฐานจิต     ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ !

 

http://goo.gl/Fky7q

กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

"วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)



พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      Case Study โรคมะเร็งลำไส้และภาวะลำไส้อุดตัน (คุณแม่ชื้น)
      Case Study โรคปอดติดเชื้อ (คุณพ่อกิตติ)
      Case Study โรคมะเร็งต่อมน้ำเหลือง (คุณพ่อวิศิษฎ์)
      Case Study โรคมะเร็งท่อไต (โยมแม่นุชชดา)
      ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 16 (ตอนจบ)
      Case Study วิบากกรรมใดทำให้ไปเป็นสัมภะเวสี (คุณพ่อหัน)
      วิบากกรรม "คนหาปลา" ตอนจบ
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 2 (ตอนจบ)
      Case Study โรคมะเร็งลำไส้ (อุบาสกปองสิชฌ์) ตอนที่ 1
      Case Study โรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (พระจุมพล)
      วิบากกรรมน้ำท่วมปอด (คุณแม่พยอม)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 3 (ตอนจบ)
      Case Study โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ (โยมพ่อเกษมศักดิ์) ตอนที่ 2




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related