ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 60

อาจารย์เสนกะถูกมโหสถเย้ยกลับด้วยถ้อยคำที่เชือด เชือนเช่นนั้น ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อย แต่ก็พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ไม่แสดงออก เพื่อให้สมกับที่ตนเป็นผู้มีอาวุโสกว่า ครั้นแล้วก็ได้กราบทูลท้าวเธอต่อไปว่า “ขอเดชะ มโหสถยังเด็กเหลือเกิน ปากก็ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ผ่านโลกมาเพียงไม่กี่ปี แล้วเธอจะรู้อะไร พระพุทธเจ้าข้า” https://dmc.tv/a3130

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ทศชาติชาดก
[ 24 มี.ค. 2551 ] - [ ผู้อ่าน : 18257 ]
 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มโหสถบัณฑิต   ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี  ตอนที่ 60


        จากตอนที่แล้ว  พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำของท่านเสนกะแล้ว ก็ผ่านไปตรัสถามมโหสถบัณฑิตด้วยคำถามเดียวกันว่า   “ระหว่างคนโง่ผู้สมบูรณ์ด้วยทรัพย์และยศ กับบัณฑิตผู้ไร้โภคทรัพย์ ท่านผู้รู้สรรเสริญว่า ใครเป็นผู้ประเสริฐกว่ากัน”

        มโหสถบัณฑิตได้ทูลตอบอย่างองอาจว่า  “บุคคลผู้มีทรัพย์มาก แต่หากขาดปัญญา  จัดว่าเป็นคนพาล เขาสำคัญว่าทรัพย์เท่านั้นประเสริฐ จึงใช้สอยทรัพย์นั้นกระทำความชั่ว มิได้คำนึงถึงโลกหน้า เขาย่อมไม่ได้รับสุขในการใช้ทรัพย์ และย่อมประสบทุกข์เพราะผลแห่งกรรมชั่วนั้นในโลกหน้า

        อาจารย์เสนกะก็กล่าวตอบโต้ว่า “มหาเศรษฐีผู้มีทรัพย์ให้ใช้สอยตามต้องการ มีหรือที่จะไม่ได้รับความสุขในโลกนี้ ดูอย่างโครวินทเศรษฐีซิ แม้เป็นคนขี้เหร่ ไม่มีวิชาความรู้ใดๆ เวลาพูดน้ำลายก็ไหลยืดออกจากปาก แต่เขากลับเป็นที่นับหน้าถือตาของมหาชน เพียงเพราะเขามีทรัพย์มาก

        พระเจ้าวิเทหราชได้สดับดังนั้น ก็ทรงหนักพระทัย เพราะตัวอย่างคือโครวินทเศรษฐีนั้น ใครๆก็รู้จักทั่วบ้านทั่วเมือง  แม้แต่ดอกบัวที่เปื้อนน้ำลายของเขา ยังมีคนยื้อแย่งเอาไปเป็นเครื่องประดับเป็นที่เชิดหน้าชูตา ท้าวเธอทรงใคร่จะรู้คำกล่าวแก้ จึงหันมาตรัสถามมโหสถอีกครั้ง

        มโหสถจึงทูลแก้ว่า “ทรัพย์ย่อมอำนวยสุขให้เฉพาะผู้มีปัญญา ส่วนคนไม่มีปัญญา แม้นจะได้รับสุขบ้าง ก็เป็นสุขเล็กน้อยแต่ทุกข์มาก คนไร้ปัญญา เป็นผู้มีจิตหวั่นไหวไม่อาจรองรับความสุขที่ยิ่งใหญ่ได้ ข้าพเจ้าจึงยืนยันว่า คนมีปัญญาเท่านั้นประเสริฐ คนพาลมีทรัพย์ไม่ประเสริฐเลย”

        อาจารย์เสนกะถูกมโหสถเย้ยกลับด้วยถ้อยคำที่เชือดเชือนเช่นนั้น ก็รู้สึกขุ่นเคืองใจอยู่ไม่น้อย  แต่ก็พยายามสกัดกั้นอารมณ์นั้นไว้ไม่แสดงออก เพื่อให้สมกับที่ตนเป็นผู้มีอาวุโสกว่า ครั้นแล้วก็ได้กราบทูลท้าวเธอต่อไปว่า “ขอเดชะ มโหสถยังเด็กเหลือเกิน ปากก็ยังไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม ผ่านโลกมาเพียงไม่กี่ปี แล้วเธอจะรู้อะไร พระพุทธเจ้าข้า”  

        กราบทูลดังนี้แล้ว ก็หันไปมองมโหสถ ยิ้มไปพูดไปอย่างมีชั้นเชิงว่า “เอาเถอะมโหสถ พวกมนุษย์จงยกไว้ก่อน ยังไม่ต้องกล่าวถึง ดูเพียงต้นไม้ในป่าเถิด ฝูงวิหกน้อยใหญ่ที่โผบินผ่านไปมา ครั้นได้เห็นไม้ใหญ่มีกิ่งใบและผลอันอุดม มีหรือจะไม่บินเข้าหา ต่างก็จะพากันเกาะกินไม่หนีหายไปไหนเลย ข้อนี้ฉันใด คนทั้งหลายก็ฉันนั้น เขาย่อมคบหาสมาคมกับผู้มั่งคั่งเพราะต้องการทรัพย์ เหมือนฝูงนกต้องการผลาผล คนมีปัญญาแต่ไม่มีทรัพย์ อย่างไรก็ชื่อว่าคนจน ใครที่ไหนเขาจะคบหาสมาคมด้วย ข้าพเจ้าเห็นดังนี้ จึงกล่าวว่า คนมีปัญญาแต่ยากจนไม่ประเสริฐเลย คนมีทรัพย์เท่านั้นประเสริฐ”

        เหตุผลของอาจารย์เสนกะฟังดูเผินๆก็เข้าทีดี  แต่ถึงกระนั้นสำหรับมโหสถแล้ว ช่างเป็นเหตุผลที่ตื้นเขินเหลือเกิน มโหสถไม่รอช้า รีบโต้กลับอย่างอาจหาญว่า “ขอเดชะพระองค์ผู้สมมติเทพ ท่านเสนกะน่ะหรือจะรู้อะไร ก็ตนมัวจ้องมองทรัพย์แต่เพียงส่วนเดียว จึงยังมองไม่เห็นไม้ค้อนที่กำลังจะตกลงบนศีรษะ เหมือนกาที่จ้องมองอาหารในภาชนะ ที่บรรจุข้าวสุกของชาวบ้านที่เขาเทให้ หรือเหมือนสุนัขที่จ้องจะเลียนมส้มไม่มีผิดเลย  ข้าแต่มหาราชเจ้า พระองค์โปรดทรงสดับคำของข้าพระพุทธเจ้าดูบ้างเถิด พระพุทธเจ้าข้า” 

        ครั้นแล้วมโหสถจึงได้แถลงความต่อไปว่า  “ก็ฝูงชนมีความปรารถนาทรัพย์ แล้วยอมตนไปเป็นบริวารห้อมล้อมคนพาลผู้เขลาปัญญา การเป็นพรรคพวกของคนพาลเช่นนี้ไม่ดีเลย เพราะคนพาลมีบริวารเป็นกำลังเข้าแล้ว ก็จะชวนกันทำกรรมอันหยาบช้า บีบบังคับขู่เข็ญรีดไถ่เงินทองมา โดยหารู้ไม่ว่านายนิรยบาลกำลังจ้องหาโอกาส ฉุดคร่าคนเขลาผู้คร่ำครวญอยู่ เตรียมกระชากตัวไปสู่นรกอันร้ายกาจ ข้าพเจ้าเห็นดังนี้ จึงยืนยันว่า คนมีปัญญาเท่านั้นประเสริฐ คนพาลมีทรัพย์ไม่ประเสริฐเลย”

        พระเจ้าวิเทหราชได้ทรงสดับคำแก้ของมโหสถแล้ว ก็ทรงอัศจรรย์ใจยิ่งนัก เพราะมโหสถแม้ยังอยู่ในวัยเยาว์ แต่สามารถมองขาดไปถึงผลที่คนพาลจักต้องได้รับในอนาคตด้วย  จึงตรัสชื่นชมมโหสถว่า  “เออ..มโหสถเอย เธอช่างพูดได้เข้าทีจริงเชียว” ขณะเดียวกัน ก็ทรงหันมาทางอาจารย์เสนกะ พลางตรัสว่า “ อาจารย์เสนกะ ท่านล่ะจะเเก้ว่าอย่างไร”

        คนอย่างอาจารย์เสนกะไฉนเลยจะยอมจำนนโดยง่าย แม้จะถูกมโหสถจี้ตรงจุดเข้าให้ ก็ยังสามารถหลีกเข้าข้างทาง พร้อมยกข้ออุปมาอันใหม่มาประกอบอย่างมีเหตุมีผลว่า “ธรรมดาแม่น้ำทั้งหลาย ไม่เลือกว่าสายไหน เมื่อไหลไปถึงแม่พระคงคา ก็ย่อมละชื่อเดิมนั้นเสีย ใครๆต่างพากันเรียกว่า คงคา คงคา ทั้งนั้น แต่ครั้นแม่น้ำคงคาไหลลงสู่มหาสมุทรอันกว้างขวางกว่ากันเล่า ชื่อว่าคงคาก็หายไป ย่อมได้ชื่อใหม่ว่า มหาสมุทร ฉันใด

        ผู้มีปัญญาเลิศในโลก ครั้นมาถึงถิ่นของผู้มีทรัพย์เข้าแล้ว ชาติโคตรของเขาจะเป็นอย่างไร จะมีปัญญามากมายแค่ไหน แต่หากเป็นคนจนขัดสนทรัพย์ ชื่อเสียงของเขาย่อมไม่ปรากฏเลย คงปรากฏแต่เพียงชื่อเสียงของบุคคลผู้มีทรัพย์เท่านั้น อานุภาพแห่งทรัพย์ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ข้าพเจ้าจึงกล้ายืนยันว่าคนมีปัญญาเป็นคนเลว ผู้มีทรัพย์เท่านั้นเป็นผู้ประเสริฐ”

        มโหสถรับฟังข้ออุปมาของท่านเสนกะแล้ว ก็มิได้หวาดหวั่นต่อวาทะนั้นแต่อย่างใด กลับโต้ตอบอาจารย์เสนกะทันควัน พลิกกลับด้วยข้ออุปมาที่เหนือกว่าว่า  “ท่านอาจารย์เสนกะ ท่านกล่าวว่ามหาสมุทรเป็นที่รวมของแม่น้ำน้อยใหญ่ที่ไหลไปรวมกัน แต่ท่านก็อย่าลืมสิว่า แม้นมหาสมุทรนั้นจะซัดสาดเกลียวคลื่นอยู่ทุกเวลานาที ราวกับจะถาโถมแผ่นดินให้ถล่มทลายลง แต่ต่อให้พันคลื่นแสนคลื่นโหมกระหน่ำระลอกแล้วระลอกเล่า ก็ยังไม่อาจทำให้ล้นฝั่งได้เลย ฝั่งย่อมสามารถสกัดกั้นคลื่นไว้มิให้พังทลายลงได้  คลื่นย่อมไม่อาจเอ่อล้นฝั่งได้ฉันใด
 

        ไม่ว่าในกาลไหนๆ หากมีกิจอันใด หรือมีข้อสงสัยในประโยชน์และมิใช่ประโยชน์ คนทั้งหลายย่อมพากันไปพึ่งพาผู้มีปัญญาทั้งนั้น ใครเลยจะมองข้ามคนมีปัญญาไปได้

        ส่วนคนผู้ที่มีทรัพย์มากแต่ไม่มีปัญญา เพราะเหตุที่ทรามปัญญา เขาจึงไม่อาจกระทำกิจนั้นให้สำเร็จลุล่วง หรือกำจัดความสงสัยนั้นได้ เมื่อถึงคราวอับจนปัญญาเข้า ต่างก็จะพากันไปพินอบพิเทาคนมีปัญญา เพื่อรับทราบข้อวินิจฉัยอันลึกซึ้ง  ข้าพเจ้าเห็นอย่างนี้ จึงยืนยันว่า คนมีปัญญาเท่านั้นประเสริฐ คนพาลมีทรัพย์ไม่ประเสริฐเลย” 
 
        คำโต้กลับของมโหสถ พร้อมทั้งอุปมาที่ชัดเจน ทำให้อาจารย์เสนกะถึงกับสะอึก เพราะแม้ตนเองก็ยังเคยได้พึ่งพาปัญญามโหสถ แต่ว่าท่านเสนกจะมีเหตุผลใดมาค้านอีกนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
 
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 

http://goo.gl/tNcWv


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 2 ต้นเหตุแห่งเภทภัย
      ทศชาติชาดก เรื่อง ภูริทัต ตอนที่ 1 การสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 202
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 201
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 200
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 199
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 198
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 197
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 196
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 195
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 194
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 193
      ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 192




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related