ชีวิตและธุรกิจของอากงในเพชรบูรณ์ กฎแห่งกรรม ความจริงของชีวิตที่ต้องศึกษา หน้า 11
หน้าที่ 11 / 33

สรุปเนื้อหา

ในเรื่องนี้เล่าถึงอากงที่อาศัยในจังหวัดเพชรบูรณ์ พบกับอุปสรรคในการคมนาคม แต่ท่านก็มีความขยัน อดทน จนสามารถสร้างธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะโรงยาและโรงเหล้า ที่ทำให้ท่านได้ชื่อว่าเป็นมหาเศรษฐีท่านแรกของจังหวัด ท่านยังเป็นที่เคารพจากเพื่อนมนุษย์ มักช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อน เป็นที่รู้จักในวงการค้าของภาคเหนือ อดีตเจ้าพ่อแห่งธุรกิจที่ถูกกฎหมาย

หัวข้อประเด็น

-ชีวิตของอากง
-ธุรกิจในเพชรบูรณ์
-ความขยันและอดทน
-การช่วยเหลือผู้คน
-อิทธิพลทางการค้าในภาคเหนือ

ข้อความต้นฉบับในหน้า

กฎแห่งกรรม ๒๐ ๒๔๗๗ โดยมาตั้งรกรากที่จังหวัดเพชรบูรณ์ สมัยก่อนนั้นการคมนาคม ไปมายังไม่สะดวก ต้องเดินขึ้นเขา ลงเขาและข้ามเขาโดยใช้เวลาเป็น แรมเดือน แต่อากงก็ไม่ย่อท้อ ด้วยความขยัน อดทน มานะบากบั่น หนัก เอาเบาสู้ ประกอบกับท่านมีหัวทางการค้าขายตามวิสัยคนจีน ทำให้ท่าน เป็นทั้งพ่อค้าขายหมู ขายของชำของกิน ของใช้ และยาเส้น ในที่สุดท่านสามารถตั้งตัวได้และเป็นเจ้าของธุรกิจอีกหลายอย่าง เช่น โรงเรียนเอกชนประจำจังหวัดเพชรบูรณ์ โรงสีข้าว ๓ แห่ง โรงทำ น้ำแข็ง สวนส้มเขียวหวาน และสวนมะขามหวาน นับพันๆ ไร่ มีเหมืองแร่ เหมืองหินอ่อน และเป็นเจ้าของโรงงานหินอ่อนของเอกชนเป็นรายแรก ของประเทศไทย ทำธุรกิจป่าไม้ รวมทั้งโรงยาฝิ่น ซึ่งในสมัยนั้นถือว่าเป็น สิ่งที่ถูกกฎหมาย และโรงเหล้าสัมปทานจากรัฐบาลอีก ๓ จังหวัดในภาค เหนือ แม้จะมีธุรกิจหลายอย่าง แต่สิ่งที่ทำเงินให้ท่านมากที่สุดคือ โรงยา ฝิ่น และโรงเหล้า กองเงินกองทอง ในสมัยนั้น จังหวัดเพชรบูรณ์ยังไม่มีธนาคาร ท่านต้องเอาเงินใส่ กระสอบข้าวสารเป็นกระสอบๆ โดยไม่มีเวลานับและแยกธนบัตรเป็น ชนิดต่างๆเมื่อมีเวลาว่างก็จะเทเงินจากกระสอบมากองรวมกันเพื่อนำมานับ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้อากงติดอันดับมหาเศรษฐีของเมืองไทยในเวลานั้น และ มีรถเบ็นซ์รุ่น 280 S เป็นรายแรกของจังหวัดเพชรบูรณ์ สำหรับผู้ที่อยู่ในวงการค้าทำธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะในภาคเหนือ ตั้งแต่จังหวัดนครสวรรค์ถึงเชียงใหม่ ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก “เถ้าแก่ฮ้อเตี้ยะ” กฎแห่งกรรม ๒ ด้วยอากงไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ มีความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ ใจกว้าง มีเมตตา ท่านจึงเป็นที่เคารพนับถือของทุกคน เพื่อนสนิทรุ่นเดียวกับท่าน ล้วนเป็นผู้ก่อตั้งและเป็นเจ้าของธนาคารชื่อดังชั้นนำของประเทศไทย และ บางท่านเป็นเจ้าของกิจการโรงเหล้าที่รู้จักกันทั่วไปในปัจจุบันนี้ เจ้าพ่อหรือพ่อพระ ในสมัยนั้นหากใครไม่ได้รับความเป็นธรรมหรือถูกราชการกลั่นแกล้ง ก็จะมาขอให้อากงช่วย ท่านก็ยินดีช่วยทุกรายไม่เคยปฏิเสธ ส่วนใครที่ เดือดร้อนเรื่องเงินทองก็มาขออากงได้โดยไม่ต้องใช้คืน เช่น ข้าราชการ ชั้นผู้ใหญ่บางท่าน มาขอเงินจากอากงเพื่อส่งลูกไปเรียนต่อต่างประเทศ หรือบางคนก็มาขอยืมและรับปากว่าจะใช้คืนในภายหลัง หรือบางคนก็ เอาที่ดินมามัดจำไว้ก่อน ในที่สุดอากงก็ไม่เคยได้เงินคืนจากคนเหล่านั้น หรือแม้แต่ที่ดินที่เขาเอามามัดจำไว้ หรือนำมาใช้คืนเงินที่ยืมไป แต่ด้วย ความใจดีของท่าน อากงก็มักจะปฏิเสธไม่รับที่ดินนั้นๆ ซึ่งต่อมาที่ดิน เหล่านั้นล้วนมีมูลค่าสูงขึ้นอีกหลายสิบเท่า พ่อของดิฉันเคยถามอากงว่า “อากงเคยให้เงินช่วยเหลือคนไปแล้ว ไม่ได้รับคืน คิดเป็นเงินสัก ๑๐ ล้านบาท ได้ไหม” อากงตอบด้วยอันเสียง ดังว่า “ฮัวฮีหนอก๊ะเก่ง (แปลว่า “สื้อคิดว่าแค่นั้นเองหรือ”) ถั่วะช่วยคน ไปเป็นเงินมากกว่า ๓๐ ล้านบาท” ความใจดีมีเมตตาชอบช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ของอากงจึงทำให้ ท่านเป็นที่พึ่งของคนยาก นอกจากการให้ความเหลือด้านการเงินแล้ว คุณแม่ของดิฉันได้เล่าให้ฟังว่า บ้านของอากงเป็นตึกแถว ๕ ชั้น ๗ คูหา
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More