ข้อความต้นฉบับในหน้า
กฎแห่งกรรม ต๖
กฎแห่งกรรม แต๗
บุญบาป จนกระทั่งราวปี
พ.ศ. ๒๕๔๘ คุณพ่ออายุ ๖๒
ปี ได้หกล้ม หมอจึงผ่าตัด
เปลี่ยนกระดูกสะโพกให้คุณ
พ่อใหม่ แล้วใส่เหล็กให้แทน
ต่อมามีผลการตรวจจาก
ห้องแลป ออกมาว่า พ่อเป็น
มะเร็งระยะสุดท้ายที่ลำไส้
บริเวณไส้ติ่ง และลามเข้าไปในกระดูกแล้ว เมื่อดิฉันทราบอย่างนี้ ก็
แทบเสียสติ คือได้แต่ร้องไห้อย่างเดียว ทานข้าวก็ร้องไห้ ขับรถมาวัด
ก็ร้องไห้ ขับรถกลับจากวัดก็ร้องไห้ น้ำตาได้ไหลอาบแก้มตลอดเวลา
หลายเดือน
นับแต่นั้นพ่อต้องมารักษาที่กรุงเทพบ่อยๆ ดิฉันจึงได้ชวนคุณพ่อ
มาวัดพระธรรมกาย ถวายภัตตาหารเพล ใส่บาตร ชวนเพื่อนๆ กัลยาณมิตร
ไปคุยเรื่องบุญนิมนต์พระอาจารย์ไปสอนสมาธิบ้าง ถวายผ้าไตรกับหลวงพ่อ
ทำบุญสร้างพระธรรมกายประจำตัว ซึ่งดูเหมือนทุกอย่างกำลังดำเนินไป
ด้วยดี แต่อนิจจา...อยู่ๆ ก็เหมือนโดนล้มกระดาน คุณพ่อเกิดแอนตี้ขึ้นมา
และเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ปฏิเสธบุญทุกรูปแบบ โดยที่ดิฉันก็ไม่ทราบ
สาเหตุแน่ชัด...
ช่วงนั้นดิฉันจึงทุกข์ใจมากแต่ก็โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีโอกาสพาคุณพ่อ
มากราบ “คุณครูไม่ใหญ่” ซึ่งท่านเมตตาแนะนำ ให้พ่อปฏิบัติธรรมให้
เห็นองค์พระภายในตัว ในช่วงนั้นเอง ทุกๆ คนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
ให้ใช้คีโม เพราะหากไม่ใช้คีโม คุณพ่อจะอยู่ได้ไม่เกิน 5 เดือน ดิฉันจึง
ตัดสินใจให้แพทย์ใช้คีโมในการรักษาคุณพ่อซึ่งทำให้คุณพ่อมีอาการแพ้มาก
สุดท้ายแม่เลี้ยงกับคุณพ่อก็ได้ปรึกษากันและชวนกันกลับไปรักษาตัวที่
จังหวัดอุบลราชธานี ไม่ยอมมารักษาที่กรุงเทพฯ อีกเลย
ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ๑ สัปดาห์ พ่อฝันเหมือนจริงว่า เห็นคนเดิน
ผ่านหน้าห้อง ๒ คน พ่อลุกไปถามเขาว่า มาหาใคร แต่เขาไม่ตอบ ได้
แต่เดินผ่านไป และได้เดินกลับมาดูที่ห้องคุณพ่ออีก ในวันที่คุณพ่อจะ
เสียชีวิต คุณหมอได้ถามว่าจะให้คนไข้ใส่เครื่องช่วยหายใจหรือไม่ ดิฉัน
จึงให้แม่เลี้ยงถามพ่อเอาเองว่า พ่อจะใส่สายช่วยหายใจไหม คุณพ่อ
ตอบว่าไม่ใส่ และแล้วท่านก็สิ้นลมจากไปด้วยอาการสงบ
เนื่องจากดิฉันไปวัด
เป็นประจํา และได้ศึกษา
เรื่องบุญจนเข้าใจ จึงทราบ
ว่าผู้ตายนั้นสามารถรับบุญ
ได้ หากเราทำบุญและอุทิศ
ส่วนกุศลไปให้ท่าน ดิฉันจึง
ตั้งใจทำบุญทุกบุญ โดยปิด
บัญชีเงินฝากที่คุณพ่อ
สะสมไว้ให้ตั้งแต่ดิฉันเป็น
เด็กจนถึงวันที่คุณพ่อป่วย
และได้ทำบุญกฐินรายวัน
และทำบุญทุก ๆ บุญ โดย
เฉพาะบุญเกี่ยวกับการ
ถวายภัตตาหาร ถวาย