ชีวิตและการสูญเสียของอากง : หน้า 12/33

กฎแห่งกรรม ๒๒ กฎแห่งกรรมต ยังเป็นที่รับรองพ่อค้าและข้าราชการที่เดินทางมาติดต่อการค้า ทำธุระ หรือเยี่ยมเยือนอากงที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ดังนั้นบ้านของอากงจึงเป็น เหมือนโรงแรมที่ทุกคนมาพักได้ตลอดเวลา บริการฟรีพร้อมอาหารมื้อละ ๑๒ อย่าง รวมทั้งซักรีดเสื้อผ้าให้เสร็จสรรพ ที่สุดของทุกสิ่ง ชีวิตและความร่ำรวยของอากงนั้น ดูเหมือนกับพระเอกหนุ่มใน นวนิยายที่มีสมบัติมหาศาล ไม่มีวันที่จะยากจนตกต่ำกลายเป็นยาจก เพราะทรัพย์สินที่มีอยู่นั้นทำให้อากงคิดว่าสามารถเลี้ยงไปถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน โดยไม่ต้องทำมาหากิน แต่เหตุการณ์หาได้เป็นเช่นนั้นไม่ หลังจากอากงท่าโรงเหล้ามาได้ ๓๐ ปี ประมาณปี พ.ศ. ๒๕๑๕ - ๒๕๑๖ ท่านประมูลโรงเหล้าไม่ได้ทั้ง 3 แห่ง ธุรกิจทุกอย่างของท่านก็ ถึงกาลอวสาน ทั้งป่าไม้, เหมืองแร่ และโรงงานหินอ่อนล้วนได้รับผลขาดทุน ถูกโกง มีลูกน้องไม่ซื่อสัตย์ ลูกชายประพฤติตัวไม่เหมาะสม ไม่สามารถ บริหารงานและดูแลกิจการต่อไปได้ ปัญหาทุกอย่างล้วนประเดประดัง เข้ามาในชั่วพริบตา และเป็นผลให้อากงต้องเป็นหนี้นับสิบๆ ล้าน ไม่มี หลักทรัพย์เหลือเลย ยกเว้นแต่ที่ดินบางส่วน และไร่มะขามหวานเป็น มรดกให้ลูกหลานเท่านั้น ซึ่งทำให้อากงเศร้าโศกเสียใจและตรอมใจอย่าง มาก ด้วยไม่คิดว่าทุกสิ่งที่ตนเองได้สร้างมากับมือนั้นจะสูญสลายไปจน หมดสิ้นในยุคของตัวเอง ในที่สุดอากงได้ล้มป่วยด้วยโรคเบาหวาน และ เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๒๖ รวมอายุได้ ๖๘ ปี ชีวิตครอบครัวของอากง อากงมีภรรยา ๒ คน ซึ่งเป็นพี่น้องกัน และมีลูกทั้งหมด ๑๑ คน แม่ของดิฉันเป็นลูกของอาม่าคนที่ ๑ และมีพี่น้องด้วยกัน ๔ คน ส่วน อาม่าที่ ๒ มีลูกกับอากง ๓ คน ในสมัยที่ท่านมีชีวิตอยู่ อากงเป็นคน ใจบุญสุนทาน ทําบุญทอดกฐิน ผ้าป่าตามวัดต่างๆ เป็นประจำ เคยสร้าง พระพุทธรูปขนาดใหญ่ถวายวัดแห่งหนึ่งในจังหวัดปทุมธานี ท่านชอบ ช่วยเหลือคน และสร้างสาธารณะประโยชน์เสมอ คุณยายของดิฉัน หรืออาม่านั้นเป็นคนใจบุญ ท่านชอบทำบุญ ตักบาตรเป็นประจำทุกวัน และได้เข้าวัดพระธรรมกายครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๓๖ ท่านได้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว ทอดกฐิน ทอด ผ้าป่าและได้ร่วมบุญทุกบุญของวัดตลอดมา ท่านเสียชีวิตด้วยโรคชรา เมื่อ เดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๔๕ รวมอายุได้ ๘๕ ปี ยอดคุณแม่ ยอดกัลยาณมิตร คุณแม่ของดิฉันเสียชีวิตด้วยโรคมะเร็ง เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๑ หมอไม่ทราบว่าเป็นที่ใด เพราะเมื่อคุณหมอทำการผ่าตัดเพราะ คิดว่าคุณแม่เป็นโรคไส้เลื่อนเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑ ก็พบว่า คุณแม่เป็นมะเร็งระยะสุดท้ายแล้ว และเซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปตาม อวัยวะต่างๆ เมื่อดิฉันทราบข่าว ดิฉันก็ได้มากราบขอพรพระเดชพระคุณ หลวงพ่อ และประมาณ ๑ เดือน ก่อนท่านเสียชีวิต ครอบครัวของดิฉัน ได้พาคุณแม่มาวัดท่าบุญถวายปัจจัยกับหลวงพ่อด้วยมือท่านเอง