ข้อความต้นฉบับในหน้า
คืนนแล้วใต้ท้องพระคล้ายต่อบ่าวา บัดนี้ก็ประกบจิต คิดอยู่เท่านหนอน มองด้วยตาอธรรมมกาย แล้วทงเห็นกิฎู ปัญจจิตคือต้องอยู่ ณ ป่าอิสมณคุณควาใน เห็นดูขึ้นมาที่ศูนย์กลางกาย อ๋อ..อยู่ป่าอิสมณคุณทุกวัน (พวกเราทุกคนที่นั่งอยู่เมื่อปฏิบัติได้ มีสิทธิที่จะเห็นอย่างพระองค์) การเข้าสังธรรมภาวะ มีเป็นขั้นเป็นตอนอยู่ 3 ระดับ
1. เห็นธรรมกาย
2. ได้ธรรมกาย
3. เป็นธรรมกาย
เห็นธรรมกายเป็นอย่างไร พอใจจงปักเห็นด้วยตนธรรมกายบี้บี้อยู่กลางกาย แต่ว่าหยุดอยู่มันน่าเพลาหายไปอย่างนี้เราเรียกว่าเห็นธรรมกาย คงจะให้เห็นก็ต่อเมื่อจงเดินไปพักผึ่งหนึ่งจะเป็นอยู่ใหม่ คือเห็น 7 หาย 7 จงอยู่ไม่นาน คำว่า ได้ธรรมกาย คือมีเมื่อไหร่ก็เห็นเมื่อนั้น แต่ผลสุดท้ายล
ลักษณะอันหนึ่ง จะยืน จะนั่ง จะนอน ก็เห็นธรรมกายโลวอยู่ภายใน มีอะไรจะมากระทบไมร้คาเทอเพราะตัวตนมีความรู้สึกเป็นพระ อยู่เต็มดวงเลย อย่างนี้เรียกว่าเป็นธรรมกาย
สำหรับพระสังสมบุญทำและพระองค์นั้น ด้วนเป็นธรรมกาย และเป็นอดีตจากมัดเก็บดีดซาดไปเลย เพราะฉะนั้นพระองค์ก็มีปัญญาคือกิจกัน เห็นซะเน้นไปว่าบัญญัติธรรม(เห็น) ไม่ใช่ ประเด็นนี้ให้ไปในพระองค์ ประทับใจ ณ ดูก่อนประเทศตามสมควรแก่พุทธรินแล้วเห็นจิกว้าไปนพพระนพราวเดษ มุกดูปไปรถามจิตร์
ตามธรรมบาลแล้ว พระสังสมบุญท่านทุกองค์ จะทำงานทุกวัยด้วยเหตุผล เรื่องจะทำอะไรตามจินกัน ไม่มีเพราะว่าทางมคติเตล ล่งบานก็นะต่อไร้มิประโยชน์ของสัตว์โลกเป็นที่ตั้ง ทรงเน็ดอธารธรรมมากว่า ถ้าเดินไปจะเจอ คุญผู้นึ่งเป็นนชนบูรษชะกะ ชื่อปุ๋เป่ ทรงแน่นไปว่า อุปมา ให้บูผา สื่ออธิทิปาเชื่อไปว่า ถาพพระองค์แล้วจะจับคำคอนี้ไม่ได้ แต่จะเป็นดิษย์ติดตัวไปได้จะเกิดรัษฎา แตะดปัญญายังไม่พอจะรับธรรมได้ เพราะฉะนั้นทรงดำเนินไปในอุปจายัถเห็นภาพหนอ แล้ววันหนึ่งข้างหน้า ก็จะสามารถธรรมกับพระองค์ แล้วจะได้ตั้งธรรม เพราะฉะนั้นแทนที่พระองค์ท่านจะไปนะ ไปน ึงกลับคืน
อุปลูกได้พระองค์ผู้พระอภาคเจ้าเด็ดดำนำทางจะใครต่ามาแน่ๆ ครับแต่อดูกันไว้แต่พระผู้มีพระภาคเจ้า คุณอาจดู ใส่นิ้วของท่านนั่นล่ะ มงกุฎของท่านฐ์อคง ดูด่อน อาจดูทำบ่งชุคใดใด เพราะไม่ว่าวีเป็นพระพุทธเจ้าก็แล้วว่า อาจจะ
คำว่า อาวุโส นั่นจริง ๆ แล้ว แต่เอามืออ่อน ถ้ากันต ถ้ามีอายุมาก ถ้าพกกาชาวบ้านคือ เมื่อปะฐิกาเจอพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้วพูดว่าอย่างไร น้องชาย ก็ไม่รู้ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้า อาวุโส