การสร้างบั้งไฟและประเภทบั้งไฟ : หน้า 13/40

กระซอกเผือก : ท้าวพังค์ แลงร่างมาเพื่อใหนางไฉลลงไหล ปล้องคาด : ลายรักร้อย ลายลูกพิพัฒนเท ลายลูกพิพัด ของสอร้อ เป็นดัง เกริน : เป็นส่วนที่ยื่นออก สองข้างของบุบก เป็นรูป รอบเบ็ดลายกนก สำหรับตั้งฉัตร ท้ายเกริน ราชรถาประดับส่วนท้าย ของหวางบั้งไฟ บูมบก : เป็นองค์ประกอบในงานราชรถ เพื่อสมบูรณ์ให้เป็นปราสาท ผ้าทรงนางไฉ บั้งไฟชนิดนี้เป็นบั้งไฟขนาดเล็กดไปตาม ทิศทางกำหนดใช้เส้นลวดเป็นวิธีตรงไปยังเป่า หมายที่ต้องการ ลักษณะทั่วไปเป็นบั้งไฟทำ จากกะบอกไม้ไผ่ 1 บ้อง ขนาดแล้วแต่ต้องการ โดยทั่วไปเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2 นิ้ว ยาว ประมาน 1 ฟุตทางภาคกลางและภาคอีสานเรียก ว่า “ลูกหนุ” คำยะมาหลังกำลังวิ่ง ถัดครูปอะไร ก็เรียกชื่อไปตามนั้น เป็นคนมักวิ่ง รูปว่าว แล้วแต่จะทำ รูปอะไร บางครั้งภาคเหนือเรียกว่า บอกไฟจิง 3. บั้งไฟช้าง บั้งไฟชนิดนี้ไม่มีหาง มีชื่ออีกอย่างหนึ่งว่า กระโจนหรือโหรด เป็นบั้งไฟขนาดเล็กดู เวลาไม่ต้องการให้ฟืนขึ้น ไปแต่ต้องการมีเสียงร้องคล้ายกับช้างร้อง บั้งไฟให้ใช้กระบอกไม้ไผ่มีขนาดใหญ่ที่สุดยาว เพียงเปลือยให้มีขอปิดทาง 2 ด้าน ทุบไม้ให้ แตกเล็กน้อย เจาะรู เพื่อบรรจุหัวไม้ใหม่ เตุ้นไม้ให้ เข้าสบเข้ามีทำจากหม้อนาน 3-4 อัดลงในไม้ไม่ ขนาดเล็กให้เน้น แล้วนำเอาเท่งมีมือออกมาคล้าย ข้าวหลาม ให้ได้แทนประมาณ 3 นิ้ว การจุดนั้นนิยม ต่อพวงชนบั้งไฟใหญ่ เวลา จุดชนวนจะเกิด เสียงดังเหมือนเสียงช้างร้อง นิยมวางต้อนกันเป็น