ธรรมเนียมเข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า Dhamma TIME เดือนตุลาคม พ.ศ.2557 หน้า 9
หน้าที่ 9 / 40

สรุปเนื้อหา

ภายหลังออกพรรษา กิริยาหลายคนเดินทางเข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า และจึงได้ถามเกี่ยวกับการอยู่ร่วมกันโดยความผาสุก แม้จะไม่มีความสุข พวกเขาก็ยังยืนยันว่ามีความสุขอยู่ร่วมกัน แต่พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสเตือนถึงความไม่จริงในคำพูดนั้น ว่าการอยู่ร่วมกันของพวกเขาเปรียบได้กับสัตว์เลี้ยงที่ไม่มีความสุข ทุกอย่างชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขและเคารพกันและกัน

หัวข้อประเด็น

-ธรรมเนียมเข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า
-ความสัมพันธ์ระหว่างผู้คน
-การอยู่ร่วมกันอย่างมีสุข
-พระพุทธศาสนาและความผาสุก

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ธรรมเนียมเข้าfo ภายหลังออกพรรษาแล้ว เป็นธรรมเนียมว่า กิริยาจะต้องเดินทางไปเข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า คันนิญกฐินนั้นจำพรรษาครบตามวาระแล้ว จึงเดินทางไปสู่พระเศวตวันเพื่อเข้าเฝ้าพระสัมพุทธเจ้า เมื่อถถวายบังคม และนั่งในที่นอมควรแก่กันแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสถามกิริยาเหล่านั้นว่า อยู่จำพรรษาอาศร่มกันด้วยความผาสุกหรือไม่ กิริยาเหล่านั้น แม้จำพรรษาร่วมกันอย่างไม่มีความสุขก็ยังกราบทูลว่า พวกตนอยู่จำพรรษาร่วมกันด้วยความผาสุก พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงตรัสถามถึงวิธีการที่จะใช้ในการอยู่ร่วมกันนั้น กิริยเหล่านั้นจึงกราบทูลเล่าเรื่องทั้งหมดให้ทรงตรัสฟัง ทรงติเตียน และห้ามประพฤติ ตามอยู่เดี๋ยวเดียวกัน จันทรทรงทราบแล้ว จึงสั่งกับกิริยู่หลายต่อ “กิริยู่หลาย ทราบว่าโมษบุรุษ พวกนี้เมื่อตออยู่จำพรรษาอย่างไม่มีความผาสุกเลย ก็ยังยืนว่า ว่าอยู่กันด้วยความผาสุก ทราบว่าโมษบุรุษพวกนี้อยู่จำพรรษากันอย่างกับพวกสัตว์เลี้ยงอยู่รวมกัน (อยู่โดยไม่มีการสุขทุกข์ของกันและกัน) อย่างแพะอยู่ร่วมกัน อย่างคนประมาณอยู่ร่วมกันแท้ ๆ ยืนยันอีกว่า อยู่จำพรรษาด้วยความผาสุก ดูก่อนกิริยู่หลาย เหตุไฉนโมษบุรุษพวกนี้จึงได้อธิบายว่า (ซึ่งปฏิบัติอย่างคนใด) ซึ่งพวกเดี๋ยวนี้ถือกัน การกระทำของโมษบุรุษเหล่านั้น ไม่เป็นที่น่าเชื่อในของกูของตนเองไง” ครั้นแล้วงจนแสดงธรรมกถา รับสั่งกับกิริยู่หลายว่า “กิริยู่หลาย ทราบว่าโมษบุรุษ พวกนี้เมื่อตออยู่จำพรรษาอย่างไม่มีความผาสุกเลย ก็ยังยืนว่า ว่าอยู่กันด้วยความผาสุก ทราบว่าโมษบุรุษพวกนี้อยู่จำพรรษากันอย่างกับพวกสัตว์เลี้ยงอยู่รวมกัน (อยู่โดยไม่มีการสุขทุกข์ของกันและกัน) อย่างแพะอยู่ร่วมกัน อย่างคนประมาณอยู่ร่วมกันแท้ ๆ ยืนยันอีกว่า อยู่จำพรรษาด้วยความผาสุก ดูก่อนกิริยู่หลาย เหตุไฉนโมษบุรุษพวกนี้จึงได้อธิบายว่า (ซึ่งปฏิบัติอย่างคนใด) ซึ่งพวกเดี๋ยวนี้ถือกัน การกระทำของโมษบุรุษเหล่านั้น ไม่เป็นที่น่าเชื่อในของกูของตนเองไง” ครั้นแล้วงจนแสดงธรรมกถา รับสั่งกับกิริยู่หลายว่า “กิริยู่หลาย ทราบว่าโมษบุรุษ พวกนี้เมื่อตออยู่จำพรรษาอย่างไม่มีความผาสุกเลย ก็ยังยืนว่า ว่าอยู่กันด้วยความผาสุก ทราบว่าโมษบุรุษพวกนี้อยู่จำพรรษากันอย่างกับพวกสัตว์เลี้ยงอยู่รวมกัน (อยู่โดยไม่มีการสุขทุกข์ของกันและกัน) อย่างแพะอยู่ร่วมกัน อย่างคนประมาณอยู่ร่วมกันแท้ ๆ ยืนยันอีกว่า อยู่จำพรรษาด้วยความผาสุก ดูก่อนกิริยู่หลาย เหตุไฉนโมษบุรุษพวกนี้จึงได้อธิบายว่า (ซึ่งปฏิบัติอย่างคนใด) ซึ่งพวกเดี๋ยวนี้ถือกัน การกระทำของโมษบุรุษเหล่านั้น ไม่เป็นที่น่าเชื่อในของกูของตนเองไง” ครั้นแล้วงจนแสดงธรรมกถา รับสั่งกับกิริยู่หลายว่า “กิริยู่หลาย ทราบว่าโมษบุรุษ พวกนี้เมื่อตออยู่จำพรรษาอย่างไม่มีความผาสุกเลย ก็ยังยืนว่า ว่าอยู่กันด้วยความผาสุก ทราบว่าโมษบุรุษพวกนี้อยู่จำพรรษากันอย่างกับพวกสัตว์เลี้ยงอยู่รวมกัน (อยู่โดยไม่มีการสุขทุกข์ของกันและกัน) อย่างแพะอยู่ร่วมกัน อย่างคนประมาณอยู่ร่วมกันแท้ ๆ ยืนยันอีกว่า อยู่จำพรรษาด้วยความผาสุก ดูก่อนกิริยู่หลาย เหตุไฉนโมษบุรุษพวกนี้จึงได้อธิบายว่า (ซึ่งปฏิบัติอย่างคนใด) ซึ่งพวกเดี๋ยวนี้ถือกัน การกระทำของโมษบุรุษเหล่านั้น ไม่เป็นที่น่าเชื่อในของกูของตนเองไง”
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More