ข้อความต้นฉบับในหน้า
พระภิกษุสงฆ์ต้องทำร่วมกันในวันสุดท้ายของการอำลาพระพุทธเจ้า คือ ในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน ๑๕ หรือในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 (สำหรับผู้จำพรรษาในพระวรฺาหลังก์)
วิธีปวารณา
ผู้มีพระภภาคเจ้าทรงอนุญาตให้ภิกษุ ตั้งแต่ 5 รูปขึ้นไปทำวัตรร่วมกัน โดยเมื่อองค์มัปวารณา ให้ภิกษุเหล่านี้น่มประชุมกัน แต่งอาบัติอดกันแล้ว ให้ภิกษุนี้หนึ่งสวดประกาศตั้งถึญติ (การประกาศให้สง ฤทธารบเพื่อทำกิจร่วมกัน) ให้สง ฤทธารบโดยเริ่มต้นจากภิกษุผู้มีพระภภาคเจ้ามา ไปจนถึงภิกษุผู้มีพระราชน้อยที่สุดตามลำดับ
ภายในระหว่างการปวารณา ทุกรูปต้องนั่งกระหย่ง รูปไหนปวารณาสิ้นแล้วจะนั่งบนอาสนะได้
วันทำวัตร
ต่อมา ภิกษุทั้งหลายสงสัยว่า วันปวารณามีวัน คือวันไหว้ไปกราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์รับสั่งว่า ภิกษุทั้งหลายวันปวารณานี้มี 2 วัน คือ วันขึ้น 14 ค่ำ และวันขึ้น 15 ค่ำ
อาการในการทำวัตร
ต่อมา ภิกษุทั้งหลายสงสัยว่า อาการทำวัตรนั้นว่าไง จึงนำเรื่องไปราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ก็รับสั่งว่า กาวทำวัตรมี 4 อย่าง คือ แยกพวกกันทำวัตรโดยไม่มีชอบธรรม พร้อมเพรียงกันทำวัตรโดยชอบธรรม แยกพวกกันทำวัตรโดยชอบธรรม และพร้อมเพรียงกันทำวัตรโดยชอบธรรม ซึ่งพระองค์ทรงอนุญาตให้ทำวัตรเฉพาะที่พร้อมเพรียงกันทำโดยชอบธรรมเท่านั้น
พุทธานุญาตอื่นๆ
ภายหลังมีก็บางรูปไม่สบาย ไม่สามารถมาร่วมทำวัตรได้ จึงทรงอนุญาตให้ภิกษุผู้ไม่สบายนั้น ใช้ให้ภิกษุอื่นทำวัตรแทนตนได้
ต่อมาภิกษุเกิดสงสัยอีกว่า หากมีก็ไม่ถึง 5 รูป ควรทำวัตรอย่างไร พระพุทธองค์จึงมีพระรํงพุทธพุทธานุญาตให้ อาวุโสที่มีภิกษุอยู่นิ่ง รูป 1 รูป หรือ 2 รูป ทำวัตรกันเองเป็นคน และหากมีเพียงรูปเดียว ให้ถือฐานเป็นส่วนบุคคล คือ ตั้งใจ วันนี้เป็นวันมหาวารของเราและ หากมีเหตุว่ามีบางประการ ที่จะทำวัตร 3 ครั้งไม่ได้ เช่น เมื่อมีเหตุอันตายหรือความไม่สะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งใน 10 อย่างเกิดขึ้น คือ
1. พระราชาเสด็จมา
2. โจรผงลัน
3. ไฟไหม้
4. น้ำหลากมา
5. คนนมาก
6. Œิษแสงภิกษุ
7. สัตว์ร้ายเข้ามา
8. ผู้รายเลี้่ยงเข้ามา
9. ภิกษุจะถึงแก่อสัญกรรม