ข้อความต้นฉบับในหน้า
๑๑. มีอันตรายต่อพรหมจรรย์
เมื่อประสบเหตุการณ์ใดประการหนึ่งดัง
กล่าว ทรมาฝนฝนให้บวชไป ๒ ครั้ง ครั้งเดียว
หรือให้คุณมีพระเทาท่านปารานะพร้อมกันได้
นอกจากนี้ หากกิริยาสุขдейอำนาจพระรามร่วมกันด้วย
ความผาสุก แต่เกรงว่าเมื่อเสร็จจากปารานะแล้ว
อาจมีภกุษบ้างบนต้องเดินทางจากไป จนเป็นเหตุ
ให้ไม่ได้รับความผาสุกในธรรมเหมือนเช่นเคย เพื่อ
อนุเคราะห์แก่ภกุษในขันธ์ จึงทรงอนุญาตให้เลื่อน
วันปวราณออกไปได้อีก ๑ เดือน
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้
ความสำคัญกับการปวรณา
แม้พระผู้มีพระภาคเจ้าเอง
ยังทรงให้ความ
สำคัญกับการปวรณาเป็นอย่างมาก
ดังเช่นใน
สมัยที่ พระองค์ประทับอยู่ท่ามกลางพระอรหันต์-
สาวกหมู่ใหญ่ ๕๐ รูป ณ พระวิหารบูรพาพราม
วันนั้น เป็นวันโบสถ์ ๑๕ ค่ำ ทรงรับสังสรรค์กับ
ภิกษุทั้งหลายว่า “เมื่อคืนฉันบวชไว้เป็นเวลา
หลาย พวกเธอจะไม่ตี耳น กรมอะไร ๆ ที่เป็นไป
ทางกายหรือทางวาจาของพระองค์เรายังไม่เคย การ
เมื่อครูร็องนี้แล้ว ท่านพระสารีบุตรประนม
อัญชลีไปทางพระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วได้กราบทูล
ว่า “ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าองค์คงหลาย
ดีเตียนกรมใด ๆ อันเป็นไปทางพระกายหรือทาง
พระองค์ของพระผู้มีพระภาคเจ้าไม่ได้เลย ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ เพราะว่าพระองค์ทรงยังทรงไม่เกิดขึ้น พระยั่งซึ่งยังไม่เกิดขึ้นพร้อม
ให้เกิดขึ้นพร้อมทรงบอกทางที่ยังไม่มีผู้อบา เป็น
ผู้ทรงรู้ทาง ทรงฉลาดในทาง ข้าแต่
พระองค์ผู้เจริญ สาวกทั้งหลายในบัดนี้เป็นผู้เดิน
ตามทาง”
ครั้นแล้ว ท่านพระสารีบุตร พร้อมด้วยภิกษุอันติชนสุ ๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ ในการประชุมพระสกาม ค์
ครั้งที่ ๑
พระโสดาคะพุทธเจ้า กิจทรงปวรณาภรณ์ พร้อมด้วยพระอานนท์ ๘๐ โกฏิ ในการประชุมพระสกาม ค์ ครั้งที่ ๑
พระปฐมพุทธเจ้า ทรงปวรณาเป็นวิเศษ และภิกษุอื่น ๆ จำนวน
๑๐๐,๐๐๐ โกฏิ ในการประชุมพระสกาม ค์ ครั้งที่ ๒ และทรงปวรณาอธิษฐาน พร้อมกับภิกษุผู้โดยเถิกงู จำนวน ๒๐๐,๐๐๐ โกฏิในการประชุมพระสกาม ค์ ครั้งที่ ๓
พระอัมพุทธิสัมพุทธเจ้า ทรงทําศีลปวรณา ถามมกาณกลางกิจก,๐๐๐ โกฏิ ซึ่งนิยมภายในพระชนวัน ณ กรุงสระนะ ในการประชุมพระสกาม ค์ ครั้งที่ ๑
ธรรที่ทำให้เป็นคนง่าย
ในทางปฏิบัติ แม้ภิกษาบางรูปจะได้วรณา
ให้สรรเสริญกว่ากล่าวตักเตือนตนเองได้แล้วก็ตาม