ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในอีกซีกโลกหนึ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายภายใต้สงครามการเข่นฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในทวีปแอฟริกา เฟรด
เอมมานูเอล หรือเฟรมมา เยาวชนผู้เข้าร่วมโครงการชาวยูกันดา หลังจากที่เริ่มนั่งสมาธิกับพีซเรฟโวลูชัน
ก็เกิดความคิดดีๆ ที่จะนำสมาธิไปสอนในค่ายผู้ลี้ภัยสำหรับชาวคองโกที่ชื่อ “นากิเวล” และ “กิซูลา” ซึ่ง
อยู่ห่างจากเมืองหลวงคัมปาลาของยูกันดาไปทางตะวันตก ใช้เวลาเดินทางด้วยรถ 6 ชม. ผู้ลี้ภัยในค่ายทั้ง
สองต่างก็เต็มไปด้วยความเครียด รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง และผิดหวังในชีวิต ซึ่งในทีแรกผู้คุมค่ายไม่เห็นด้วย
และกล่าวว่า ไม่นานมานี้มีการระบาดของอหิวาตกโรค และมีคดีข่มขืนถึง ๑๓ คดี ผู้ลี้ภัยเหล่านี้ไม่น่าจะมี
สภาพจิตใจดีพอที่จะเรียนสมาธิ เฟรมมาต้องใช้เวลามากทีเดียวที่จะอธิบายว่าสมาธิจะดีต่อผู้ลี้ภัยอย่างไร
เฟรมมาได้เริ่มแนะนำสมาธิ โดยให้เด็กๆ นึกถึงสิ่งที่พวกตัวเองชอบ ซึ่งหลังจากการนั่งสมาธิพวกเด็กๆ
กล่าวว่า “นาซิเกีย มวิถี อีนา ปูมูซิกา” (Nasikia Mwili Ina Pumuzika) ซึ่งเป็นภาษาสวาฮิลี แปลว่า
ร่างกายของพวกฉันสดชื่นขึ้น และยังกล่าวต่ออีกว่า “ทูนา ทากา อามานี" ซึ่งแปลว่าพวกเขาต่างต้องการ
สันติภาพจริงๆ
เยาวชนที่ผ่านการคัดเลือกได้เดินทางมาร่วมกันปฏิบัติธรรมในโครงการ The Middle Way รุ่นพิเศษ
โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑-๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ ณ สวนป่าหิมวันต์ อ.ภูเรือ จ.เลย และมีผลการ
ปฏิบัติธรรมที่ดีตั้งแต่วันแรกๆ เช่น แอนนิตา นุส จากแอฟริกาใต้ อายุ ๒๖ ปี เล่าว่า เมื่อเริ่มนั่งสมาธิ
ทำใจผ่อนคลายได้ไม่นาน เธอก็รู้สึกเหมือนมือหายไป ต่อมาแขนหาย และสุดท้ายตัวก็ละลายหายไปด้วย
ใจเข้ากลางได้มากขึ้น รู้สึกเหมือนศูนย์กลางกายไม่มีจุดสิ้นสุด ศูนย์กลางกายมีแสงสว่างมากกว่า
พระอาทิตย์ แต่ขนาดเล็กเหมือนดวงดาว วันต่อมาดวงดาวนั้นขยายขนาดขึ้นเท่าลูกเทนนิส และตรงกลาง
นั้นก็มีจุดขนาดเท่าดวงดาวที่สว่างมากกว่าลูกเทนนิสปรากฏขึ้นมาเรื่อยๆ หลังจากนั่งสมาธิ เมื่อแอนนิตา