ข้อความต้นฉบับในหน้า
คราวนี้เงียบ ไม่มีเสียงตอบ ต่างคนหันมองหน้ากันไปมาแล้วยิ้ม จากนั้นก็มีเสียง
หัวเราะร่าเริงดังออกมาแทนคำตอบ ได้ยินหลวงพ่อพูดให้กำลังใจน้องๆ ทุกคนว่า “เรา
เกิดมาสร้างบารมีนะลูกเรายังอยู่ในวัยที่แข็งแรงก็ต้องนำความแข็งแรงมาใช้ให้เกิดประโยชน์
ให้เป็นบุญกุศลติดตัวเราไป หลวงพ่อขออนุโมทนากับลูกๆ ทุกคน”
แล้วหลวงพ่อได้ให้พรต่ออีกยาว แล้วบริเวณที่รับบุญนั้นก็ดังลั่นด้วยเสียง สาธุ!
แล้วหลวงพ่อก็ขึ้นรถเตรียมเดินทางต่อ
เกือบเที่ยงคืน รถแล่นใกล้ถึงทางแยกที่เดิม ผมนึกเดาอยู่ในใจอีกครั้งหนึ่งว่า หลวงพ่อจะให้
เลี้ยวกลับเข้ากุฏิเลย หรือจะให้ไปดูงานที่จุดอื่นต่อ หากไปต่อ ก็ทำให้ผมนึกคิดไปว่าจะ
เป็นอย่างไรถ้าในหนึ่งวันเวลาเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งเท่าเป็น ๔๘
ชั่วโมง
หลวงพ่อก็คงมีเวลาทำงานพระศาสนาได้อีกหลายอย่าง และนั่นก็ทำให้ผมนึกอยาก
ถามหลวงพ่อขึ้นมาอีกครั้งเช่นกันว่า “หลวงพ่อเหนื่อยไหมครับ?”
แต่ไม่กล้า! ยังไม่กล้าที่จะถามตอนนี้ เพราะรู้สึกว่า....ยังมีเวลา
เวลาในการสร้างบารมีนั้นมีพร้อมเสมอสำหรับทุกคนที่คิดเริ่มต้น แล้วจะส่งผลเมื่อได้หมั่น
สั่งสมทำไปอย่างต่อเนื่อง
แต่เวลาจะไม่เกิดประโยชน์ใดเลยกับคนที่ประมาท
ลองย้อนกลับไปดูว่า เด็กบางคนเกิดมาก็หมดเวลาเพราะเสียชีวิตทันทีเลยก็มี
เพื่อนวัยเดียวกับเราบางคนเกิดประสบอุบัติเหตุเวลาที่เหลืออยู่แม้มีแต่ก็ไม่สมบูรณ์เสียแล้ว
ครั้นจะมานั่งขัดสมาธิเหมือนกับคนทั่วไปก็ทำไม่ได้ เพราะกระดูกขาหัก ซึ่งยังมีอีกหลายๆ
ตัวอย่างที่เราพบเห็น และได้บอกเราว่า อย่าได้ประมาท หากเรายังคิดว่า....ยังมีเวลา
คำว่า “มีเวลา” คำ ๆ นี้ผมรู้สึกว่าเป็นเหมือนหลุมพราง หากเราไม่ประมาทก็ทำให้
เราก้าวข้าม เดินต่อไปข้างหน้าได้ แต่ถ้าหากไม่ทันสังเกต หรือไม่ทันระวังตัว ก็
สามารถทำให้เราพลาดท่า ตกลงไปยังก้นหลุมของคำ ๆ นี้ได้เช่นกัน
เพราะรู้ว่า...ยังมีเวลา เราจึงคิดเลื่อนสิ่งที่จะทำอยู่ออกไปก่อนไม่เห็นจะต้องรีบทำให้
เสร็จในตอนนี