ข้อความต้นฉบับในหน้า
เป็นสงฆ์ตนะ คำว่า “สงฆ์…”4
“พระรัตนตรัยเป็นแก้วจริง ๆ หรือเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปรัชญ์ เข้าใจตามอัณฑระแล้ว เป็นอันเปรียบด้วยแก้ว ถ้าเป็นทางปฏิบัติ เข้าใจตามปฏิบัติแล้วเป็นแก้วจริง ๆ ซึ่งบ่นว่าประเสริฐเลิศค่ำว่าถึงญาณกรัตนะและอวิญญาณกรัตนะซึ่งมีในไตรภพ ลบัตรนะในไตรภพทั้งหมดสิ้น…”5
“อรห เป็นพระคุณรัตนา (ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า) มียะแสดงดังต่อไปนี้ ... อรห เป็นนมิดกมาม เกิดขึ้นเองพร้อมกับพระอรหันต์บูรณะโพธิญาณ อรห เป็นคำที่พวกเราปฏิบัติธรรมต์ตุ้นกันหน้าหนานา ถึงแก่ได้มาว่าใช้เป็นบทบริหารมาวนในเมื่อยังสมาธิ ฉะนั้นจึงขอนำมาแปลไว้ในนี้ เพื่อจะได้ชมซึ่งพระคุณนามข้อไว้บ้าง แต่การจะพรรณนาให้สิ้นสุดได้ เมื่อคิดเทียบแล้วก็เท่ากับอากาศในปีนก กล่าวคือบรรดาอากาศทั้งหลายในสากลโลก มีกากสุดคุณน i แต่ก็เฉพาะอากาศเท่าที่เป็นนกกระ พอขนะบินหนหนึ่ง จะมีอากาศอยู่ในระหวางปีนกเดียวในจำนวนอากาศทั้งหลาย ฉันได้ฉันนั้น… อรห แปลสั้น ๆ ว่า ไกลว่า ควร เป็นองค์น้อยอยู่ “ไกล” หมายความว่าไกลจากกิเลสหรือพันจากกิเลสเสียแล้ว… ไกลตรงกันข้ามกับปุญชนเรา ซึ่งยังใกล้ติดกิเลส พระองค์บริสุทธิ์อยู่ผูดผ่องดั่งแพงทองงามพูนทุ หรืออื่นนัยหนึ่งว่าใสนเหมือนดวงแก้วอันหาคำมิได้ สมคว้า “พุทธรณะ”6
เราจะแพบว่า เนื้อความในพระธรรม-เทคนิคที่พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) แสดงไว้ดังกล่าว (รวมทั้งในท่อน ฯ อีกเป็นอันมาก) ย่อมเป็นการนั้นตรงกันได้ว่า เนื้อความในคาถาธรรมภาย ที่กล่าวถึงโคตรภูญาณ มรรคญาณ ผลญาณ นั้นมีความเชื่อมโยงเป็นอันหนึ่งอันเดียว กับพระธรรมายของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างแน่นอน โดยแสดงถึงความเป็นภายแห่งอริยมรรค อริยผล รวมทั้งวิมุตติด้วย ซึ่งพระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ก็แสดงไว้อย่างชัดเจนว่า “วิมุตติ
พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)