ข้อความต้นฉบับในหน้า
ได้รับการถ่ายข้อความเป็นภาษาไทย
ได้รับ ก็ต้องการให้มีความมั่นคง ไม่เสื่อม หรือตกไป ส่วนผลร้าย ๆ ก็อยากให้พ้น ๆ หรือจบสิ้น ไปโดยเร็ว
ในมิติที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีธรรมพระองค์มีพระอยู่ เสด็จไปโปรดมนุษย์และอมนุษย์ ในแว่นแคว้นต่าง ๆ ผู้สนใจถามคำถามเกี่ยวกับการพัฒนาชีวิตให้ดีขึ้นตามควร ทำอย่างไรบ้าง อะไรจะเป็นหลักประกันให้ได้รับประโยชน์และความสุขในชีวิตนี้และเมื่อโลกไปแล้วได้บ้าง ซึ่งผู้สนใจถามนี้เป็นมนุษย์ ยักษ์ ทั้งคนที่มีครอบครัวสร้างฐานะได้แล้ว และคนที่เริ่มสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างฐานะ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเป็น หลักธรรมที่ทำแล้วเป็นเหตุให้ได้รับประโยชน์ ได้ความสุขในชาตินี้ในปัจจุบัน ได้แก่ สัจจสัมปทา สีลสัมปทา จากสัมปทา และปัญญาสัมปทา หรือเรียกว่า เป็นบุคคลิม ศรีทา ศีล จากจะ และ ปัญญา
คนย่อมประสบความสุข ความเจริญ ความสำเร็จทั้งทางโลกและทางธรรม เพราะประกอบเหตุแห่งความเป็นคนดี และคนจะดีได้งด้วยความรับผิดชอบทั้ง ๓ ด้าน คือ
๑. รับผิดชอบต่อความเป็นคนของตนเอง ด้วยการเคร่งธรรมิกส์ ๕ ซึ่งก็คือ ศีล ๕ ข้อแรกของศีล ๕
๒. รับผิดชอบต่อสังคมที่เราอยู่ร่วมกัน รักษาความชอบธรรมโดยเน้นอดีต ๕ ได้แก่ ฉันทะ โทษคดี ภาคดี มหาคดี
๓. รับผิดชอบต่อเศรษฐกิจ คือ ปิดทางเสื่อมของทรัพย์โดยไม่เจือเกี่ยวกับอบายมุข ๖
๔. รับผิดชอบการสร้างคนดีให้สังคม ด้วยการทำหน้าที่ต่อที่ดี ๖ คุณสมบัติ ๖ เหล่านี้เกิดขึ้นในตัวผู้ใด ผู้นั้นย่อมมั่นใจได้ว่าจะมีชีวิตที่ดีทั้งดีปัจจุบัน และอนาคตภายใน แต่เราก็ราบกันว่าไม่มีอะไรมาเกิดจากฟ้าหรือโคลนซึ่งมาจากดินและน้ำ แล้วบันดาลให้คุณสมบัติเหล่านี้เกิดในตัวเราได้ เราต้องประกอบเหตุจึงจะเกิดเป็นผลขึ้นมา และคุณสมบัติทั้ง ๑๖ นี้จะเกิดขึ้นในตัวเราได้ ก็อย่างที่ฝึกหรือแบบฝึกหัดจาก “มรรคาสัมมาสิทธ” ซึ่งพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแสดงแก่กาวัยขัย เมื่อตรัสแล้ว พระองค์ทรงบอกให้ยึดไปถามสมณพราหมณ์เหล่านี้ดูว่า ใในโลกนี้จะอะไรเลัยงไปว่าจะจงจะ ทะนุ ขันธ์ จา คะ ยังกุูลตอบพระบรมศาสดาว่าไม่จําเป็นต้องไปถามใครอีกแล้ว เพราะวันนี้ได้รับคำตอบชัดเจนจากพระพุทธองค์แล้ว
ดังนั้น หากต้องการชีวิตที่ดีกว่าเดิม ก็ต้องเริ่มฝึกนึษจากมรรคาสมาร โดยที่จะศึกษาและฝึกฝนตามมรรคาวาสนธรรม ๔ ประกอบนี้ เมื่อลงต้นต้องเป็นผู้ศรัทธาเชื่อในการตรัสรู้ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่พระองค์ตรัสรู้ได้โดยชอบด้วยพระองค์เอง เมื่อตรัสรู้แล้ว ด้วย