ข้อความต้นฉบับในหน้า
วิญญาณฤษฎุหรือใจค่ายอยู่ในกายเนื่องในภายภาค ถ้ามีแต่วาญาณฤทธิ์ไม่มีกายวิญญาณฤทธิ์เรียกว่า ศพ ถ้ามีแต่วิญญาณฤทธิ์ร้อนเรียกว่าสมองหรือชุดพิจารณา ซึ่งแล้วแต่จะเรียกกันนี้มาดูลักษณะของใจที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งไว้ อสัริ (อะสะรีริ) ใจไม่ใช่กาย เป็นคนละส่วนกับกาย ไม่มีสรีระหรือไม่มีโครงสร้างที่จับต้องได้ เอกชฌ (เอกะแฌ) ใจลักษณะเป็นดวง เที่ยวไปดวงเดียว เพราะฉะนั้นที่จะดวง เกิดขึ้นดวงหนึ่งแล้วดับ เวลาก็เกิดดอึกดั่งเดิมนามเท่านั้น ต่อเนื่องกันเป็นสาย แต่ละดวงมีอำนาจในการคิด ๑ ดวงคิด ๑ เรื่อง เพราะฉะนั้น คนเราในเวลาคิดจะคิดได้แต่ละเรื่อง เวลาก็จะคิดได้แต่ละเรื่อง เวลาเราดูทีวี เราเห็นภาพแล้วได้ยินเสียงด้วย เหมือนว่ามันเกิดขึ้นพร้อมกัน ความจริงแล้วใจคงที่ใดยินเสียงกับใจดวงที่เห็นภาพเป็นคนละดวงกัน แต่เกิดต่อเนื่องกันรวดเร็วจนกระทั่งเราแยกไม่ออก เมื่อใจเกิดขึ้นทีละดวง คิดได้ทีละเรื่อง จึงเป็นโอกาสให้เรา มีความสามารถที่จะเลือกคิดได้ว่าจะคิดเรื่องดีหรือไม่ดี สิ่งนั้นอยู่ที่การฝึกของตัวเรา คูหาเลย (คุหละยัง) ใจถ้าคือกายเป็นบ้านที่อยู่ ใจต้องมีบ้านอยู่ ไม่ร้อน ไม่อึดอัด อาจจะเทียวไปไกล ๆ แม้ตัวนั้นอยู่ที่ไหนก็ตามใจเทียวไปถึงดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดวงดาว แต่ไปไม่ได้เหมือนเราปล่อยว่าวไป คือลายโยงไว้ ไปไกลถึงไหนก็แล้วแต่ ถึงเวลาแล้วต้องกลับมาบ้าน ทรวงคม (ทรงคะมัง) ใจชอบเที่ยวไปได้แต่ในที่ไกล ๆ ตัวนั่งอยู่ ใจเที่ยวไปถึงบ้านและกลับมาเรียบร้อยแล้ว ไปหลายเที่ยวแล้วตั้งแต่เช้า ไม่ว่าบ้านเขาหรือบ้านน้ำข้ามทะเล ก็ไปได้ แม้สุดจะไปดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ แต่เชวะแบวเดียว กะพริดภีเดียวก็ไป-กลับมาแล้ว สุทุทัล (สุทุทะสง์) เห็นใจได้ แต่ทำได้แสนยาก ทุนิทะคฺคะ (ทุนิคนิคะงัง) หากคิดเลยไปแล้ว ควบคุมใจง่าย เมื่อมีอะไรมาเหยียบ ยังใจ ให้คิดไปแล้ว ยากที่จะกลับ นี่คือธรรมชาติของใจ ลูฐ (ละฺ) ใจเกิดดับเร็วมาก ทนใช้คำว่า ลัดนี้มือเดียว ใจเกิดดับเป็นล้าน ๆ ครั้งต่อ ลัดนี้มือคือเราจนไม่รู้จะเร็วอย่างไร เราจนระทั่งสงเกตไม่ออก เพราะเกิดดับเร็วเหลือเกิน เท่ากับว่าทุกลมหายใจเข้าออก ใจเราดึก-มิดตลอดเวลา โดยที่เราเองไม่รู้ ผนทน (ผนะแนง) ดืนธนูในอาวรณ์ที่หลาย มักคิดเรื่องที่ไม่ควรคิดอยู่ตลอดเวลา ใจคิดอยู่จะอะไรได้เดี๋ยวเดียว เรียกว่าไปคิดอย่างอื่น คิดเรื่องที่ไม่ควรจะคิด คิดหมกหมุ่นในเรื่อง รูป เสียง กลิ่น รส และสัมผัสที่นำใจอยู่ตลอดเวลา จปล (จะปะลึ้ง) ไม่ดำรงอยู่ในอาวรณ์เดียว ชอบเปลี่ยนเรื่อง คิดวัดแก้วเหมือนอย่างกับลง ลิงโดกจากึงไม่งหนึ่งไปอีกหนึ่งเร็วอย่างไร ใจของเราก็ชอบคัดวัดแก้วเหมือนลงเคลื่อนไหวบนกิ่งไม้อย่างนั้น คิดได้เป็นร้อย ๆ เรื่อง แต่ไม่จบสักเรื่องหนึ่ง ผลสุดท้ายเอาด้อไรไม่ได้