ข้อความต้นฉบับในหน้า
SUPER MONK (ซูปเปอร์ มังค์)
พุทธบุตรนักปราชญ์แห่งคีรีวงศ์
เรียบเรียงโดย วิกานดา ลิมป์ธนาภิลัคน์
“ความประทับใจ คือ ที่หลวงพ่อมีวันนี้ได้ ก็เพราะ มีหลวงพ่อวัด
ปากน้ำ ไม่มีหลวงพ่อวัดปากน้ำ หลวงพ่อก็คงไม่ได้ไปอยู่กรุงเทพ
อรุณรุ่งของเช้าวันใหม่มาเยือนอีกครั้ง เผยให้
เห็นสีทองอร่ามตาขององค์พระเจดีย์ ที่ประดิษฐานอยู่
บนยอดเขาดาวดึงส์ แห่งเมืองนครสวรรค์ได้อย่างชัดเจน
เป็นภาพที่นำความปลื้มปีติแก่ผู้พบเห็นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เช่นเดียวกับการเผยแผ่ธรรมะแห่งองค์สมเด็จพระสัมมา
สัมพุทธเจ้าไปสู่สาธุชนทั้งหลายของพุทธบุตรแห่งบุญ
สถานนาม “คีรีวงศ์"
พระเดชพระคุณหลวงพ่อ เมตตาเล่าถึงสภาพวัด
ให้ฟังว่า “ที่วัดคีรีวงศ์ เดิมมีพระธุดงค์พบซากวัตถุ
โบราณก็สงสัยว่าจะเป็นวัดร้าง จึงแจ้งกรมการศาสนา
และกรมศิลปากรทราบและมาสำรวจปี พ.ศ. ๒๕๐๗
สำหรับพระธุดงค์ชวนญาติโยมมาสร้างกุฏิเล็ก ๆ อยู่
๔-๕ หลัง แต่ถูกต่อต้านจากประชาชนที่เขาครอบครอง
ที่อยู่ ก็เลยอยู่ไม่ได้ องค์อื่นน่ะไม่มีใครอยากมาหรอก
สมัยนั้นอยู่บนป่าบนเขา น้ำประปา ไฟฟ้าไม่มี สถานที่
วัดคีรีวงศ์นี้มีเนื้อที่มาก มีปัญหาเกี่ยวกับเรื่องที่ดินถ้าหาก
มาพัฒนาให้เจริญแล้ว ก็สามารถทำประโยชน์ให้แก่
พุทธศาสนาและประชาชนได้มาก หลวงพ่อตั้งใจจะ
สร้างสำนักปฏิบัติธรรม ก็เลยตัดสินใจเสี่ยงบารมีรับ
นิมนต์มา”
นอกจากนี้นายสนิท กมุทชาติ ซึ่งเป็นช่าง
ก่อสร้างวัดคีรีวงศ์ได้เล่าว่า “วัดคีรีวงศ์นี้เป็นวัดที่มีแต่ป่า
มีศาลากุฏิเล็ก ๆ มุงสังกะสีเป็นเพิงเล็กๆ ไม่ใหญ่โตมุง
กระเบื้องอย่างนี้หรอก”
เมื่อครั้งยังเป็นสามเณร พระเดชพระคุณพระ
วิกรมมุนีหรือสามเณรบุญรอดในขณะนั้น ได้มีโอกาสไป
ศึกษานักธรรมบาลีที่วัดปากน้ำภาษีเจริญ โดยการ
สนับสนุนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดปากน้ำภาษีเจริญ
(สด จนฺทสโร) จนสามารถสอบเปรียญธรรมประโยค ๓
ได้สําเร็จ
ต่อมาเมื่อท่านได้รับมอบหมายให้มาฟื้นฟูวัดคีรีวงศ์
ซึ่งเป็นวัดร้างที่มีกลุ่มคนหลายกลุ่มเข้ามาครอบครอง
และแสวงหาผลประโยชน์อยู่ก่อนแล้ว แต่ท่านก็ยังคง
มุมานะ ทำงานเผยแผ่พระพุทธศาสนาอย่างต่อเนื่อง
ท่ามกลางความขัดแย้ง โดยมีเมตตาธรรมเป็นเกราะ
ป้องกันภัย
อุปสรรคที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจอนั้นมีทั้ง
ปัญหาจากภายในและภายนอก พระเดชพระคุณหลวงพ่อ
เล่าว่า “ตอนที่หลวงพ่อมาอยู่ ๓ เดือนนั้น มีปัญหา
ภายในก็มีทหารกับแม่ชีมาตั้งตัวเป็นผู้วิเศษมาหาผล
ประโยชน์ ส่วนปัญหาภายนอกก็ถูกต่อต้านจากคนที่
ต้องการครอบครองที่ดิน พอออกพรรษาหลวงพ่อจึง
ประกาศยกเลิกไม่ให้มีการรักษาคนป่วย ไม่ให้เสดาะ
เคราะห์ต่อชะตาอีก ต้องการจะมุ่งสร้างเป็นสำนัก
ปฏิบัติธรรมเผยแผ่ธรรมะ
ตอนนั้นยังไม่ได้เป็นวัด ไม่มีกำแพง มีผู้ครอบ
ครองที่ดินวัดอยู่ จะขายที่ดินในเขตวัดให้คนอยู่อาศัย
หลวงพ่อก็ห้าม เขาก็ไม่เชื่อ หลวงพ่อเลยคิดทำกำแพง
ป้องกันไม่ให้คนมารุกล้ำ มีคนหนึ่งที่เป็นข้าราชการ
ตำรวจซึ่งมีบ้านติดกำแพงมาคัดค้าน ตอนกลางคืนเรา
ปักหลักไว้ แล้วเขาก็มาถอนทิ้ง กลางวันเราก็ให้ช่างทำต่อ
จนมีปัญหาคือ เขากั้นปิดทางไม่ให้คนเดิน ต้องร้องเรียน