ส.ค.ส. : ​ค้นหาหนังสือธรรมะ หน้า 3628 / 3693

จะทำให้ไปรเกิดใน ตรากุสูง เพราะว่ามีความอ่อนน้อม ถ่อมตน บุคคลที่ควรบูชา พอเนิ่นนต์ท่านนั่งแล้วเกิดกุศลสรณ์ทราอยากจะทำทาน เพื่อความตระหนี่ เฉคดอยากจะเอาไทยธรรมถวายท่าน มีน้ำอยากถวาย น้ำ มีตัดหารอ

การทำทานและการถวายในศาสนาพุทธมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการถวายภัตตาหารและน้ำด้วยจิตที่เลื่อมใสว่าจะช่วยให้เกิดฐานะดีในภพเบื้องหน้า การคิดที่จะทำดีมีอานิสงส์มากมาย นอกจากจะทำให้เกิดในตรากุสูงแล้ว ยั

พอถวายภัตตาหารเสร็จแล้ว ขอให้ท่านแสดงธรรม และเราก็ตั้งใจฟังธรรม เราจะได้งดงับัญญา จะเฉลียวฉลาด เพราะฉะนั้น ทุกวันพระไปทำ ๕ อย่างนี้ให้ครบ เห็น สมณะแล้วเลื่อมใส พนฺมมือไหว นิมนต์ท่านมาบ้าน ปูอาสนะให้ท่

บทความนี้พูดถึงการถวายภัตตาหารและการฟังธรรมในวันพระ โดยมีการแนะนำให้ทำ 5 อย่างหลักเพื่อสร้างบุญให้กับตนเอง ฟังธรรมจากพระสงฆ์เพื่อสร้างปัญญาและความเฉลียวฉลาด และอธิบายถึงอนิสงส์ที่จะเกิดขึ้นเมื่อเราทำค

วัณไม่ใช่รัก "วันพระ" ให้ไปเข้าวัดใกล้บ้านเรานะ ไปฟังธรรม ปฏิบัติธรรม แล้วก็ทำบุญ ทำอย่างนี้ให้เป็นเรื่องปกติ แล้วพาลูกหลานตัวเล็กต่อน้องเข้าวัดฟังธรรม ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบุญด้วย อย่างนี้จึงจะถูกหลักว

การเข้าวัดเป็นวิธีการที่ดีในการฟื้นฟูวัฒนธรรมชาวพุทธ โดยเฉพาะในวันพระที่ควรไปฟังธรรมและทำบุญ ที่วัดจะเป็นสถานที่สงบที่ประดิษฐานพระรัตนตรัย โดยที่ญาติโยมไม่ควรนำสิ่งที่ไม่เหมาะสมเข้ามาในวัด เพื่อรักษาค

วันพระต้องไปวัด เราชาวพุทธต้องหยุดวันพระ ไปวัด ไปฟังธรรม ปฏิบัติธรรม บำเพ็ญบุญกุศลถวาย ๑๐ ประการ หรืออย่างน้อยก็ ๓ ประการ คือ ทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา เป็นต้น และทุกครั้งที่ไปวัด อยู่

เราชาวพุทธต้องหยุดวันพระเพื่อไปวัดฟังธรรมและปฏิบัติธรรม โดยการทำบุญ 10 ประการ เช่น การทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา การเตรียมภัตตาหารไปถวายพระและทำความสะอาดวัดเป็นสิ่งสำคัญ. เราควรนำสิ่งดีๆ เข้าไปในวัดและ

อานิสงส์ การใส่ชุดขาวไปวัด เราชาวพุทธเวลาไปวัดหรือไปร่วมงานบุญต่างๆ ควรแต่งกายด้วยชุดขาวๆ ที่สุขภาพเรียบร้อย การสวมใส่ชุดขาวๆ ไปวัดจะมีอานิสงส์ คือ 1. ชุดขาวจะทำให้เรามีจิตสงบในการเป็นอุบาสก อุบาส

การใส่ชุดขาวไปวัดมีอานิสงส์หลายประการ เช่น ช่วยทำให้จิตใจสงบและเข้าถึงธรรมได้ง่าย สร้างความเสมอภาคในหมู่ผู้ร่วมทำบุญ ไม่มีการประกวดกันในด้านทรัพย์สิน ช่วยส่งเสริมการปฏิบัติธรรมและการทำความดีโดยรวม เหม

วันพระต่อละนิวรณ์ จะนิวรณ์ ๕ ได้ ลัดที่สุด คือ นึกถึงพระในตัว นึกถึง พระแล้ว เรื่องแพะๆ ก็ไม่เข้ามา มีแต่องค์พระไสย อยู่ในตัว ถ้าเรานึกถึงเรื่องมาราคะ กามฉันทะมันก็เกิด นึกถึงเรื่อง โรรธคนั้น คนนี้ มั

วันพระต่อละนิวรณ์ ๕ นั้น สามารถทำได้ง่ายที่สุดโดยการนึกถึงพระในตัว ซึ่งช่วยให้เราหลีกเลี่ยงความคิดด้านลบ เช่น ความโกรธหรือความกังวล เมื่อเรานึกถึงองค์พระไสยในตัวก็จะช่วยให้ใจสบายและมีความสุข การรู้ธรร

ปฏิบัติสะดวก บรรลุเร็ว วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกพระองค์ทรงสูู้สู้อุตตตรสมามสัมโภภิญาณ เป็นวันที่พระ นิพพานตลอดแสนโกฐิร้วกวลา อนันต์จักรวาลหมดเลย ท่านจะส่งผังสำเร็จ ส่งบุ

วันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสู้สู้อุตตตรสมามสัมโภภิญาณ ส่งผังสำเร็จให้ผู้ปฏิบัติธรรม เพื่อให้เข้าถึงธรรมได้สะดวกและเร็ว ในวันพระใหญ่ ที่มีพระจันทร์เต็มดวงนั้น จะเป็นช่วงเวลาที่ด

มหัศจรรย์วันพระ ในทรรศนะโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา โดย หลงพ่อริมมิชัย (ไชบุลย์ ธมมโชโย) ที่ปรึกษา พระครูสมุห์ณรงค์ ทนจิตโต พระมหาสมเกียรติ วรไสโล ป.ธ.9 พระไชยศ ยสวีโล พระครูใบฎีกาอำนวยศักดิ์ มุน

หนังสือ 'มหัศจรรย์วันพระ' เขียนโดยหลวงพ่อริมมิชัย นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับความสำคัญของวันพระในชีวิตประจำวัน ในมุมมองของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา. เรียบเรียงโดยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการศึกษาโด

มหาทศะกับฝนรัตนชาติน ในทรรศนะโรงเรียนอนุบาลฝนในฝันวิทยา โดย หลวงพ่อม่วงชโย (คุณครูไม่ใหญ่) ที่ปรึกษา พระครูสมุห์ณรงค์ ทนฺตจิตฺโต พระมหาสมเกียรติ วรโลส ป.ธ.๙ พระไชยยศ ยสโล

บทความนี้นำเสนอแนวคิดเกี่ยวกับมหาทศะในแง่มุมต่าง ๆ ผ่านการถ่ายทอดของหลวงพ่อม่วงชโย โดยมุ่งเน้นการศึกษาในบริบทของโรงเรียนอนุบาลฝนในฝันวิทยา พร้อมกับมีการรวมตัวของคณะผู้บริหารและที่ปรึกษาหลายท่านที่ให้ค

คำนำ ชีวิตของมหาทคุตะ บุคคลผู้สุดแสนจะยากจนที่ไม่ยอมแพ้ต่อชะตากรรม ได้ใช้ช่วงปัญญาและพลังบวกทรัพย์ด้วยความวิริยะอุตสาหะ แล้วยังอาจทำการใหญ่จารนพระพุทธองค์ตรับตะหารจนสำเร็จ หนังสือเล่มนี้มีเรื่องรา

คำนำนี้พูดถึงชีวิตของมหาทคุตะ บุคคลที่ยากจน แต่เอาชนะความยากลำบากด้วยความวิริยะอุตสาหะ จนกลายเป็นมหาเศรษฐี หนังสือเล่มนี้นำเสนอเรื่องราวที่น่าศึกษาเกี่ยวกับบุญ อธิษฐานจิต และการสร้างผนวรรษชาติ สถานการ

บทนำ “มหาทุตตะ” หมายถึง ผู้ที่ยากจนมาก ความเป็นอยู่ขาดแคลนขาดผิดเคือง มีชีวิตอยู่ด้วยการรับจ้างทำงานเล็กๆ น้อยๆ หรไม่ก็อิ่มเดนของพระภิษุ คือ เมื่องพระภิษุขับฉันต์ตาหารเสร็จแล้ว มหาทุตตะจะรอรับประทานขอ

บทนำนี้เล่าเรื่องราวของมหาทุตตะ ผู้ที่ประสบความยากจน ต้องอาศัยการรับประทานอาหารที่เหลือของพระภิษุ จนวันหนึ่งได้รับโชคลาภจากพระอินทร์ที่มาให้ความช่วยเหลือมหาทุตตะให้ร่ำรวยขึ้นจากการเป็นมหาเศรษฐีประจำเม

ยอดกัลยาณิมิตร *ครั้งหนึ่งในยุคสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงพระนามว่า ก็สะละ พระองค์ทรงกำลังแสดงธรรมเรื่องอานิสงส์ของการให้ทานว่า บางคนในโลกนี้ทำทานด้วยตัวเอง แต่ไม่ชวนคนอื่นทำเพราะเกรงใจ กลัวเขาเสี

ในยุคไทยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ก็สะละได้แสดงธรรมเกี่ยวกับอานิสงส์ของการให้ทาน คนที่ทำทานแต่ไม่ชวนผู้อื่นจะได้รับทรัพย์มาก แต่ต้องทำงานหนักเพราะไม่มีคนช่วยแบ่งเบาภารกิจ เศรษฐีที่จะร่ำรวยต้องแลกเปลี่ยนด้วย

บางคนไม่ทานด้วยตนเอง แต่ชวนคนอื่นให้ทำ มีหัวใจผู้นำบูญยอดกล้าทานมิทร แต่ไม่มีหัวใจของผู้ให้ เห็นคนอื่นให้แล้วปลื้ม ส่วนตัวเองเก็บบังใจเอาไว้เผื่อเศรษฐกิจตกต่ำ เผื่อมีความจำเป็นต้องใช้จ่ายในยานหน้า บุค

บทความนี้สำรวจความสำคัญของการทำทานและการมีหัวใจของผู้นำ โดยเปรียบเทียบบุคคลที่ทำทานด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นเทียบกับผู้ที่มีเพียงใจรักษาไว้เพื่ออนาคต บทความยังเสนออานิสงส์ในภพชาติถัดไปสำหรับผู้ที่ทำท

ส่วนบางคนที่ไม่ทำทานด้วยตัวเองแล้วยังห้ามคนอื่นทำด้วย จะต้องกลายไปเป็นคนยากจน ลำบาก ฝืดเคือง และยังไม่ค่อยมีใครคอย ช่วยเหลืออีกด้วย เมื่อพระภิกษาสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมจบ มีมานพหนุ่ม ผูมีบุญท่านห

บทความนี้กล่าวถึงผลของการไม่ทำทานและการห้ามคนอื่นทำ ซึ่งนำไปสู่ความยากจนและลำบาก ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการทำทาน โดยเฉพาะเมื่อมีมานพหนุ่มที่มีบุญได้ถวายสังฑทานแก่พระสงฆ์ 20,000 รูป ในวันรุ่งขึ้นที่พ

พลิกชีวิตเพราะมีลายาณิฏตร เมื่อแบ่งทีมออกไปเชิญชวนให้ผู้มีบุญมาร่วมกันเลี้ยงพระให้ครบทตามจำนวนแล้ว มานพหนุ่มผู้มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ท่านนั้นก็ไปชักชวนผู้คนมาร่วมเป็นเจ้าภาพ โดยไม่เลือกว่าผูมีฐานะอย่างไร

เรื่องราวของมานพหนุ่มที่มีหัวใจอันยิ่งใหญ่ ที่ได้เชิญชวนผู้คนจากทุกชั้นชนมาร่วมเป็นเจ้าภาพในการเลี้ยงพระถึง 20,000 รูป สร้างความร่วมมือในการทำบุญที่ยิ่งใหญ่ โดยไม่แยกแยะว่าผู้มีฐานะอย่างไร ซึ่งแสดงให้

เมื่อมหาตะเล่าให้ฟังว่า “วันนี้ฉันรับปากกับผู้มีบุญท่านหนึ่งว่า จะเลี้ยงพระ ๑ รูป ในวันรุ่งขึ้น ก็เลยดีใจ ฝ่ายภรรยารู้สึกงุนงง เนื่องจากทุกวันก็แทบจะหาเลี้ยงตนเองไม่พออยู่แล้ว บางทีต้องไปขอเขากิน แล้ว

เรื่องราวเกี่ยวกับมหาตาที่รับปากเลี้ยงพระแม้ต้องเผชิญกับความยากลำบากทางการเงิน ภรรยาของเขารู้สึกงุนงง แต่อุปสรรคไม่ได้หยุดยั้งความตั้งใจในการทำความดี ในใจของเขายังคงขับเคลื่อนด้วยศรัทธา แม้จะมีความยาก

ใช่ปัญญาหาทรัพย์ เมื่อมหาคตะตัดสินใจถวายภัตตาหารพระ รูปแล้ว จึงหาว่ากับภรรยาว่า ทำอย่างไรถึงจะมีทรัพย์มาล่วงพระ เนื่องจากกำลังทรัพย์ไม่มีมีเพียงเรียบแรง จิตตกลงกันว่าจะไปทำงานรับจ้างที่บ่านเศรษฐี และจ

ในเนื้อเรื่องนี้ มหาคตะและภรรยาได้ตัดสินใจถวายภัตตาหารพระ แม้ว่าเงินทุนไม่เพียงพอ แต่พวกเขาได้ทำงานรับจ้างที่บ้านเศรษฐีเพื่อเพิ่มพูนความมั่งคั่ง และเตรียมความพร้อมในการถวายพระด้วยภาชนะที่มีอยู่ โดยพวก

มหาทุดตะได้เข้าไปพบท่านเศรษฐี และแจ้งว่าสมความประสงค์ที่จะขอทำงานเพื่อแลกกับอาหาร ท่านเศรษฐีจึงถามถึงสาเหตุ และเมื่อตราบว่าจะมหาทุดตะรับเลี้ยงพระ ๑ รูปในวันรุ่งขึ้น ท่านเศรษฐีจึงกล่าวประหลาดใจว่ามหาทุ

เรื่องราวเกี่ยวกับมหาทุดตะที่เข้าไปพบท่านเศรษฐีเพื่อขอทำงานแลกกับอาหาร โดยมีความตั้งใจที่จะเลี้ยงพระในวันรุ่งขึ้น แม้ว่าจะมีอุปสรรคจากการยังชีพด้วยอาหารที่เหลือจากพระ แต่มหาทุดตะมั่นใจถึงความตั้งใจจริ

สมองสามีภรรยาดำรงทำงานด้วยอาการร่าเริง มหาทุตะค่าฟื้นไปก็ร้องเพลงไป ส่วนภรรยาตำครกกระเดื่องไปก็ร้องเพลงไปเรื่อยๆ ร้องไปรำไป ทำงานด้วยความปลื้มปิติ เศรฐฐีจึงถามว่า ทำไมเขาถึงร่าเริงเหลือเกิน มหาทุตะตอบ

เนื้อหาเล่าเรื่องราวของมหาทุตะและภรรยาที่ทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข มีการร้องเพลงและรำไปตามการทำงาน พลังบวกที่แสดงออกนี้ส่งผลให้เศรฐฐีและภรรยารู้สึกเลื่อมใสในความตั้งใจทำดีและได้รับค่าจ้างที่สูงกว่าค่

พระอินทร์ทรงมีส่วนในบุญ ขณะทีมหาคุตะเดินถือปลาตะเพียนที่จะนำมาประกอบอาหาร กลับบ้านนั้น พระอินทร์จึงเป็นเทวราชแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ทรงรู้สึกว่าสมองของพระองค์เกิดความกระด้างขึ้น จึงทรงตรวจตราด้วยทิพย์

ในขณะที่มหาคุตะถือปลาตะเพียนกลับบ้าน พระอินทร์ทรงรู้สึกว่าจำเป็นต้องลงมาช่วยในการปรุงอาหารเพื่อให้รสชาติเลิศสมกับการน้อมถวายแด่พระองค์ โดยพระอินทร์ได้แปลกายเป็นคนธรรมดาเพื่อเข้ามาเกี่ยวข้องในเทศกาลนี้