Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 8 มีนาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 3
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมCase Study (ตอนพิเศษ)น้องจัมโบ้ อาสาสมัครผู้รักบุญ...ไฟคลอก...ตายแล้วไปไหนเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาอุทาหรณ์ความไม่แน่นอนของชีวิตกรณีศึกษาของอาสาสมัครของสำนักศรัทธาภิบาล วัดพระธรรมกายเขาชื่อ จัมโบ้ เกิดเมื่อวันที่ 6 กันยายน พ.ศ.2530 เสียชีวิต วันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2553 รวมอายุได้ 23ปี ด้วยสาเหตุไฟไหม้บ้าน นอนตายในห้องนอนกราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง จัมโบ้เข้ามาทำกิจกรรมกับชมรมสมาธิ(Meditation)เพื่อชีวิต มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ตั้งแต่อยู่ปีหนึ่งครับ จัมโบ้ชอบนั่งสมาธิมาก สวดมนต์ทำวัตรเช้า-เย็น และอธิษฐานจิตเป็นประจำทุกวัน อีกทั้งยังได้รับรางวัลนั่งสมาธิวันละหนึ่งชั่วโมง ติดต่อกันสามเดือน จากพระอาจารย์ที่ปรึกษาของชมรมด้วยครับ เมื่อได้รับการปลูกฝังสัมมาทิฐิจากพระอาจารย์และพี่ๆในชมรม ระดับหนึ่งแล้ว จัมโบ้ก็มารับบุญที่วัดพระธรรมกาย ในงานบุญวันมาฆบูชา ปี พ.ศ.2550 ขณะเรียนอยู่ปีสอง โดยรับบุญเป็นอาสาสมัครแผนกจักรแก้วงานบุญ หลังจากนั้นก็อุทิศแรงกายแรงใจมาช่วยงานวัดทุกวันเสาร์-อาทิตย์เลย และงานบุญใหญ่ตลอดมาจนถึงปัจจุบันนี้ครับ เมื่อเข้าวัด ปฏิบัติธรรม และเข้าใจเรื่องกฎแห่งกรรมมากขึ้นแล้ว จัมโบ้ก็เร่งสร้างบุญทุกบุญอย่างเต็มที่เต็มกำลังเลยครับ และในวันมาฆบูชาที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2553 จัมโบ้และเพื่อนๆก็ได้รับบุญทำหน้าที่อาสาสมัครดูแลพื้นที่ตักบาตร ตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง...นกกายังไม่ออกหากินเลยครับ เพื่อให้พิธีตักบาตรเป็นไปอย่างมีระเบียบเรียบร้อย ช่วงสายรับบุญดูแลบุตรหลานของสาธุชนที่ศูนย์ลูกแก้ว เพื่อช่วยให้พ่อแม่ของเด็กๆได้ปฏิบัติธรรมอย่างปราศจากความกังวล ช่วงบ่ายรับบุญลงพื้นที่ดูแลสาธุชนในลานธรรม พระมหาธรรมกายเจดีย์ พิธีกรรมจะได้ดำเนินไปอย่างเรียบร้อย และเมื่อเสร็จพิธีแล้วก็ช่วยเก็บงานด้วย ตั้งแต่เช้าจรดค่ำ จัมโบ้ใช้กำลังกายกำลังใจรักษาศรัทธาของสาธุชน ให้ทุกคนมีใจที่ผ่องใส จะได้เก็บเกี่ยวบุญไปเน็ทๆ สมกับเป็นอาสาสมัครตัวจริงดีจริงของสำนักศรัทธาภิบาล ที่มีสโลแกนว่า จัดงานบุญให้ทุกคนเข้าถึงธรรม ครับ หลังจากเสร็จงานบุญประมาณสามทุ่มครึ่ง จัมโบ้ก็เดินทางกลับบ้านที่เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ ถึงบ้านก็ประมาณเที่ยงคืน แล้วเขาก็เข้านอนตามปกติ แต่แล้วก็มีเหตุการณ์ที่ไม่มีใครเคยคาดคิดมาก่อน เกิดขึ้นเวลาประมาณตีสอง คือ...เกิดเหตุไฟไหม้ขึ้นที่บ้านของจัมโบ้ บริเวณชั้นสอง บ้านของจัมโบ้เป็นบ้านสองชั้น ชั้นล่างก่อด้วยปูนแต่ชั้นบนเป็นไม้เสียส่วนใหญ่ ทำให้ไฟไหม้ได้ง่าย ผู้ใกล้ชิดก็คาดว่า น่าจะเกิดจาก จัมโบ้อาจจะจุดธูปเทียนเพื่อบูชาพระในห้องพระ เนื่องจากเป็นวันมาฆบูชา เพลิงเลยไหม้ประมาณสี่สิบนาที หลังเพลิงสงบแล้ว ปรากฏว่าจัมโบ้ซึ่งติดอยู่ในห้องนอน เสียชีวิตอยู่บนเตียง สภาพศพนอนหงายท้อง โดนไฟไหม้ทั้งตัว แต่ไม่ได้ไหม้เกรียม มีฝ้าเพดานหล่นลงมาทับร่าง ซึ่งการตายของจัมโบ้เป็นข่าวสะเทือนใจที่ลงบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์หลายฉบับ และที่น่าสะเทือนใจมากสำหรับคุณพ่อคุณแม่ คือ การสูญเสียลูกครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะเมื่อปี พ.ศ.2549 พี่ชายคนกลางของจัมโบ้ก็เสียชีวิตเพราะถูกไฟช๊อต ในห้องนี้เหมือนกัน ทำให้ตอนนี้ท่านเหลือลูกชายคนโตเพียงคนเดียว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับจัมโบ้ซึ่งเป็นคนใกล้ตัว ได้ตอกย้ำคำสอนของพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่ว่า ความตายไม่มีนิมิตหมาย ให้ลูกๆซาบซึ้งยิ่งขึ้น ทุกคนจะต้องเร่งสร้างบารมีให้มากขึ้น อยากทำความดีก็ต้องรีบทำกันเสีย เพราะไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหน ตายไปแล้วก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว ดังเช่น จัมโบ้ เขาเคยตั้งใจว่า เมื่อเรียนจบจะมาบวชเอาบุญให้พ่อแม่ เขาตั้งใจอย่างนี้มาหลายปี ตอนนี้บวชไม่ได้แล้ว ก่อนหน้านี้ จัมโบ้ตั้งใจที่จะบวชถึงสองครั้ง ครั้งแรกในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา แต่คุณแม่ยังไม่อนุญาต โดยให้เหตุผลว่า ให้เรียนจบเสียก่อนจะได้บวชนานๆ ครั้งที่สองจะบวชรุ่นแสนรูปที่ผ่านมา แต่วิชาที่เรียนมีปัญหาจึงไม่ได้บวช นอกจากนี้ จัมโบ้ยังตั้งใจจะสมัครเข้าโครงการบัณฑิตอาสา ไปช่วยงานหมู่คณะด้วยครับ แต่ตอนนี้โอกาสของจัมโบ้สิ้นสุดลงไปแล้ว พร้อมๆกับลมหายใจที่ขาดหายไป พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ นับจากนี้ต่อไป ลูกไม่อยากให้มีใครในโลกนี้ ขัดขวางการบวชของใครเลยครับ เพราะเราไม่สามารถจะรู้ได้ว่า ถ้าผัดผ่อนเวลาออกไป เขาผู้นั้นจะมีชีวิตถึงวันนั้นหรือไม่ ถ้าเขาตายไป ก็เท่ากับเราไปตัดบุญใหญ่ของเขาโดยมิได้มีเจตนา คนเราจะให้สิ่งที่ดีที่สุดกับคนที่เรารัก ไม่ใช่หรือครับ ซึ่งสิ่งนั้นก็คือ บุญที่จะติดตัวทุกคนไปได้ ลูกขอกราบเรียนถามพระเดชพระคุณหลวงพ่อ ดังนี้ครับ 1.ความจริงแล้วไฟไหม้เพราะอะไรครับ เป็นดังที่สันนิษฐานกันหรือเปล่าครับ 2.บุพกรรมใด ทำให้จัมโบ้เสียชีวิตเพราะเหตุไฟไหม้ และทำไมคุณพ่อคุณแม่จึงมีลูกชายที่เสียชีวิตเพราะไฟถึงสองคนครับ 3.ก่อนเสียชีวิต จัมโบ้ทรมานมากไหมครับ เขาคิดอะไรบ้างครับในตอนนั้น ตอนนี้รู้สึกตัวหรือยังว่าเสียชีวิตแล้ว และกำลังทำอะไร อยู่ที่ไหน นึกถึงบุญได้หรือเปล่าครับ 4.บุพกรรมใด ทำให้จัมโบ้โดนขัดขวางไม่ให้บวชถึงสองครั้งครับ 5.ถ้าใครอยากบวชแต่มีคนมาขัดขวาง จะมีวิธีแก้ไขอย่างไรครับ 6.การขัดขวางคนไม่ให้บวช นอกจากจะทำให้ตนเองถูกขัดขวางไม่ให้บวชบ้างในอนาคตแล้ว มีวิบากกรรมอื่นๆอีกไหมครับ 7.ถ้าจัมโบ้ได้บวชตั้งแต่ซัมเมอร์ที่ผ่านมา วันนี้จะยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ครับ บุญบวชจะตัดรอนวิบากกรรมได้มากน้อยเพียงใดครับ 8.อานิสงส์การทำหน้าที่อาสาสมัครและการทำกิจกรรมของชมรมสมาธิเพื่อชีวิต มศว.ในการชวนคนมาทำหน้าที่อาสาสมัคร จะช่วยให้จัมโบ้กลับดุสิตบุรี วงบุญพิเศษ เขตใน ได้หรือไม่ครับ 9.สมาชิกของชมรมสมาธิเพื่อชีวิต มศว.สร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไรครับ อะไรทำให้สามารถจัดตั้งชมรม และชักชวนคนมาทำหน้าที่อาสาสมัครได้เป็นจำนวนมากครับ และในอนาคตจะสามารถตามขุนพลของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ กลับมาได้มากกว่านี้ เยอะไหมครับ 10.น้องๆในชมรมที่จะบวชในช่วงซัมเมอร์นี้ ตั้งใจจะบวชให้พี่จัมโบ้ จัมโบ้จะได้รับผลบุญนี้เพียงใดครับ ฝันในฝันหลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ทีแล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ1.สาเหตุที่เกิดไฟไหม้ ก็เป็นเพราะเกิดอุบัติเหตุจากเทียนซึ่งจุดบูชาพระเอาไว้ ทำให้เกิดไฟลุกขึ้นมาไหม้บ้าน2.บุพกรรมที่ทำให้จัมโบ้เสียชีวิตด้วยเหตุไฟไหม้ คือ ในอดีตเมื่อพุทธันดรที่แล้ว จัมโบ้เคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช ได้รับคำสั่งให้ไปเผาคลังเสบียงของข้าศึกเพื่อตัดกำลัง ซึ่งก็สามารถปฏิบัติภารกิจได้สำเร็จ คือ สามารถเผาคลังเสบียงซึ่งอยู่ในค่ายของข้าศึกนั้นได้ ซึ่งในการปฏิบัติภารกิจครั้งนั้น ก็ได้ทำให้ทหารฝ่ายข้าศึกที่เฝ้าอยู่ เสียชีวิตไปด้วยด้วยบุพกรรมนี้ จึงทำให้มาเป็นวิบากกรรมที่มาตัดรอนให้จัมโบ้เสียชีวิตเร็ว 
คุณพ่อคุณแม่มีลูกที่เสียชีวิตด้วยไฟถึงสองคน เพราะคุณพ่อคุณแม่ในชาตินี้ ในหลายๆชาติก่อน เคยร่วมอนุโมทนาบาปกับการกระทำของผู้อื่น ที่ไปเผาบ้านของหมู่บ้านคู่อริที่ขัดแย้งกันในเรื่องการใช้แหล่งน้ำ อีกทั้งยังมีส่วนร่วมในการช่วยเตรียมอุปกรณ์น้ำมันที่เป็นเชื้อเพลิงในการเผาบ้านด้วย ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนั้นได้มีการสูญเสียชีวิตเกิดขึ้น (แต่ในชาตินั้น คุณพ่อคุณแม่ไม่ได้เป็นสามีภรรยากัน)ด้วยบุพกรรมนี้เอง จึงมีวิบากกรรมที่ดึงดูดให้มาเจอกันกับคนที่มีกรรมคล้ายๆกัน 
3.ก่อนเสียชีวิต จัมโบ้ทรมานมาก คิดอะไรไม่ออก กลัว และเจ็บปวด ผ่านไปสามสี่วันแล้วก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่า ตัวเองนั้นตายแล้ว ซึ่งในช่วงแรกที่เป็นกายมนุษย์ละเอียดยังรู้สึกเหมือนถูกไฟคลอกอยู่ จึงร้องโหยหวน หลังจากนั้นก็ค่อยๆสงบลง แต่ก็ยังไม่มีสติ แล้วจู่ๆก็มีพระมาหา พระได้นำเอากายละเอียดของจัมโบ้ไปไว้ที่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ และพระองค์นั้นก็บอกกับเจ้าตัวว่า จัมโบ้...ตายแล้วนะกายละเอียดจึงได้รู้สึกตัว แล้วกราบพระ จากนั้นพระก็สั่งให้นั่งธรรมะ แล้วให้นึกถึงบุญอยู่ที่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์นี้เจ็ดวัน ขณะนี้ยังอยู่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ 
4.บุพกรรมที่ทำให้จัมโบ้โดนขัดขวางไม่ให้บวชถึงสองครั้ง คือ ในหลายๆพุทธันดรก่อน ตอนลงมาสร้างบารมี เคยมีเพื่อนรักที่สนิทกันมากซึ่งทั้งสองคนชอบไปเที่ยวโน่นเที่ยวนี่ และชอบทำกิจกรรมด้วยกันตลอด จนกระทั่งเพื่อนคนนั้นคิดจะบวช และได้มาชวนจัมโบ้ในชาตินั้นด้วยว่าให้บวชพร้อมกัน แต่จัมโบ้ในชาตินั้นยังสนุกกับชีวิต ยังอยากเที่ยวอยู่ จึงบอกเพื่อนกลับไปว่า เดี๋ยวค่อยบวชก็ได้ ไปเที่ยวกันก่อนแล้วค่อยกลับมาบวชเพื่อนปฏิเสธไม่ได้ จึงจำต้องจำใจ ทำให้ต้องเลื่อนการบวชออกไปอีก ซึ่งทำอย่างนี้ถึงสามครั้ง จนกระทั่งครั้งสุดท้าย เพื่อนไม่ยอมตามใจ จึงไปบวชก่อน จัมโบ้ในชาตินั้นก็ยังตามไปแซวเล็กๆน้อยๆว่า หนีมาบวชนี่ ถือว่าทิ้งเพื่อน ด้วยวิบากกรรมนี้ เมื่อมาส่งผล ทำให้มีอุปสรรคมาขัดขวางการบวชของตัวเอง 
5.ถ้าใครอยากบวช แต่มีคนขัดขวาง จะมีวิธีแก้ไขวิบากกรรมนี้ ดังนี้...ให้ไปตามคนมาบวชเยอะๆในชาตินี้ และอธิษฐานบุญที่ไปตามคนบวช และทุกๆบุญที่ทำว่า ขอให้ได้บวชอย่างนี้บ้าง อย่าได้มีอุปสรรคมาขัดขวางเลย ขอให้มีความพร้อมในทุกๆด้าน และขอให้ได้บวชอย่างง่ายๆ ให้อธิษฐานถี่ๆเยอะๆบ่อยๆ ซ้ำแล้วซ้ำอีกจนกว่าผังจะหนาแน่น
6.วิบากกรรมของผู้ที่ขัดขวางผู้อื่นไม่ให้บวชนั้น นอกจากจะทำให้ตนเองมีผังถูกขัดขวางไม่ให้บวชในอนาคตแล้ว ยังมีผลทำให้ผู้นั้น อาจต้องพลัดไปเกิดในหมู่ของคนพาล ที่มีความคิดผิดเห็นผิด ทำให้ห่างไกลจากกัลยาณมิตร และเมื่อผู้นั้นคิดผิดเห็นผิด ก็มีสิทธิ์ทำความผิด ผลสุดท้ายก็จะพลัดไปตกในอบายได้ในที่สุด
7.ถ้าสมมุติว่าจัมโบ้ได้มีโอกาสบวชเมื่อช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาจริงๆ การบวชในครั้งนี้จะต้องเป็นครั้งสุดท้าย นั่นคือจัมโบ้จะต้องบวชไม่สึก เมื่อบวชแล้วต้องตั้งใจปฏิบัติธรรมตามพระธรรมวินัยอย่างเคร่งครัด และสำคัญที่สุด จัมโบ้จะต้องนั่งธรรมะให้เข้าถึงพระภายใน จนสามารถทำวิชชาปราบมารได้ถ้าบวชแล้วจัมโบ้สามารถทำอย่างนี้ได้ อานิสงส์จากการบวชก็จะกลายเป็นผลบุญที่เข้มข้น มาตัดรอนวิบากกรรมดังกล่าวที่ขัดขวางการบวชจากหนักเป็นเบา (ยกเว้นไปเก็บผังเหล่านี้หมด) และจะช่วยสามารถยืดระยะเวลาในการส่งผลของวิบากกรรม คือ ยืดการบวชออกไปได้ จะสามารถบวชแล้วอยู่ได้ยาว แต่ก็ไม่พ้นที่จะต้องมาเป็นอย่างนี้ คือ จากที่จะต้องตายก็อาจจะแค่ได้รับบาดเจ็บ 
8.ถ้าจัมโบ้สามารถนึกทบทวนบุญที่ตนเองเคยทำไว้สมัยที่มีชีวิตอยู่อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นบุญจากการทำหน้าที่เป็นอาสาสมัคร หรือบุญจากการร่วมทำกิจกรรมของชมรมสมาธิฯอย่างเต็มที่ ก็จะเป็นผลทำให้ผลบุญเหล่านั้นได้ช่องส่งผล ทำให้จัมโบ้สามารถกลับดุสิตบุรีได้ เพียงแต่ไม่ได้เข้าไปอยู่ในเขตในซึ่งในขณะนี้ จัมโบ้กำลังนั่งสมาธิ นึกทบทวนบุญที่ตนเองได้ทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิต อยู่หน้าพระมหาธรรมกายเจดีย์ 
9.สำหรับสมาชิกของชมรมสมาธิเพื่อชีวิต มศว.นั้น ในพุทธันดรที่ผ่านมา กลุ่มของเพื่อน พี่ๆน้องๆ ในชมรม ก็เคยได้สร้างบารมีกับพระมหาเถระอดีตพระราชามาก่อน ในชาตินั้นบางคนก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช บางคนก็เป็นพ่อค้านักธุรกิจ บางคนก็เป็นชาวไร่ชาวสวน หรือถ้าจะพูดง่ายๆคือมีหลากหลายอาชีพนั่นเอง ซึ่งแต่ละคนต่างก็ได้มารวมตัวกันสร้างความดี และทำหน้าที่กัลยาณมิตรกันเป็นกลุ่ม จึงทำให้แต่ละคนเกิดความผูกพันกันอย่างเหนียวแน่นดังนั้น เมื่อแต่ละคนได้มาเกิดสร้างบารมี และมีโอกาสได้มาเจอกันในภพชาตินี้ จึงเป็นผลทำให้เกิดความรู้สึกคุ้นเคย และมีโอกาสมารวมตัวกันสร้างบารมีเป็นกลุ่มอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในอนาคตกลุ่มของลูกก็สามารถที่จะขยายงาน ขยายเครือข่ายให้ใหญ่ และมีสมาชิกให้มากกว่าในตอนนี้ได้ เพราะในความจริงแล้ว ยังมีสมาชิกที่เคยร่วมสร้างบารมีในพุทธันดรที่ผ่านมาอีกหลายคนที่ยังมาไม่ถึง อีกทั้งยังมีสมาชิกใหม่ที่กำลังรอคอยกลุ่มของลูกอยู่ เพื่อไปทำหน้าที่ชี้ทางสว่างให้พวกเขาเหล่านั้นอีกด้วย ดังนั้น ลูกๆทุกคนจะต้องทำหน้าที่กันอย่างเต็มที่เต็มกำลังเต็มความสามารถ เพราะในขณะนี้ยังมีชาวโลกอีกเป็นจำนวนมากที่กำลังรอคอยความหวังจากพวกเราทุกคน 
10.ถ้าน้องๆในชมรม มีความตั้งใจที่จะบวชให้กับจัมโบ้ในช่วงซัมเมอร์นี้ อานิสงส์ผลบุญในครั้งนี้ก็จะส่งผลทำให้จัมโบ้มีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องใสมากขึ้น รัศมีกายก็จะสว่างไสวมากขึ้น และที่สำคัญผลบุญนี้ก็จะมีส่วนช่วยไปตัดรอนวิบากกรรมของจัมโบ้ได้อีกด้วย อีกทั้งยังช่วยส่งผลทำให้ภพชาติต่อไป อุปสรรคที่จะมาขัดขวางการบวชของจัมโบ้ ลดน้อยลงไปอีกด้วยนอกจากนั้น ผู้ที่บวชให้จัมโบ้ในครั้งนี้ ก็จะมีผังบวชที่หนาแน่น ทำให้การบวชในภพชาติต่อไปจะบวชได้ง่ายขึ้น ไม่มีใครขัดขวาง มีแต่คนคอยสนับสนุนการบวช ชม Video Scoop น้องจัมโบ้ อาสาสมัครผู้รักบุญ...ไฟคลอก...ตายแล้วไปไหน
http://goo.gl/VcZfK
พิมพ์บทความนี้
