ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน

ในช่วงก่อนเข้าพรรษา พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ของเราท่านก็ได้ให้โอวาทเป็นวาทะสั้นๆ ถึงแก่ลูกพระธัมฯทุกท่านว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต...ทุกๆคนควรได้เป็นประธานกฐินที่วัดพระธรรมกาย" ดังนั้น ในวันนี้พระอาจารย์จึงมีเรื่องราวธรรมะดีๆ ในชื่อเรื่องว่า "ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน" https://dmc.tv/a18888

บทความธรรมะ Dhamma Articles > เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
[ 3 ต.ค. 2557 ] - [ ผู้อ่าน : 18255 ]
 
 

ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน

 

บทความโดย พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโร


ภาพ การเดินอัญเชิญผ้าไตรของประธานกองกฐินธรรมชัย


          ในช่วงนี้ก็อยู่ในช่วงของเทศกาลกฐิน ซึ่งในครั้งก่อนๆ พระอาจารย์ก็ได้ยกความสำคัญของกฐินมาเล่าให้ฟังกันแล้วว่า บุญกฐินเป็นบุญที่มีความพิเศษจำเพาะเจาะจงอยู่หลายประการ เช่น วัดนั้นๆ จะต้องมีพระสงฆ์จำพรรษาอย่างน้อย 5 รูปขึ้นไป นั่นคือ ก็ไม่ใช่ทุกวัดที่จะมีการทอดกฐิน บุญกฐินนั้นยังต้องทำในช่วง 1 เดือนหลังจากออกพรรษาเท่านั้น กฐินนี้เป็นเรื่องของผ้าจีวร ซึ่งเป็นผ้าที่พระภิกษุสงฆ์ท่านใช้นุ่งห่ม และเป็นอัฐบริขารในการบำเพ็ญสมณธรรม ด้วยเหตุนี้บุญกฐินจึงเป็นบุญใหญ่ มีอานิสงส์มากมาย


          และในช่วงก่อนเข้าพรรษา พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ของเราท่านก็ได้ให้โอวาทเป็นวาทะสั้นๆ ถึงแก่ลูกพระธัมฯทุกท่านว่า "ครั้งหนึ่งในชีวิต...ทุกๆคนควรได้เป็นประธานกฐินที่วัดพระธรรมกาย" ดังนั้น ในวันนี้พระอาจารย์จึงมีเรื่องราวธรรมะดีๆ ในชื่อเรื่องว่า "ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน"


          มีพุทธพจน์บทหนึ่งที่พระพุทธองค์ได้ทรงตรัสไว้ว่า 


          "บุคคลบางคนในโลกนี้  ให้ทานด้วยตน,  แต่ไม่ชักชวนผู้อื่นให้ทาน.   เมื่อเขาไปเกิด ณ ที่ใด เขาย่อมได้โภคสมบัติ,  แต่ไม่ได้บริวารสมบัติ  

 

           บางคนไม่ให้ทานด้วยตน.   ชักชวนแต่ผู้อื่นให้ทำทาน.  เมื่อเขาไปเกิด ณ ที่ใด เขาย่อมได้บริวารสมบัติ  แต่ไม่ได้โภคสมบัติ   

 

          บางคนไม่ให้ทานด้วยตน และไม่ชักชวนผู้อื่นให้ทานด้วย.  เมื่อเขาไปเกิด ณ ที่ใด  เขาย่อมไม่ได้โภคสมบัติ และไม่ได้ทั้งบริวารสมบัติ  เป็นคนยากจนเที่ยวกินเศษเดน

 

          ส่วนผู้ที่ให้ทานด้วยตนเอง และชักชวนผู้อื่นให้ทานด้วย, เมื่อเขาไปเกิด ณ ที่ใด เขาย่อมได้ทั้งโภคสมบัติและบริวารสมบัติ"

 

ภาพประกอบ ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน


          จากพุทธพจน์นี้เราก็ทราบได้ว่า ถ้าเราทำทานด้วยตนเอง เราย่อมได้ทรัพย์สมบัติ และถ้าเราชักชวนผู้อื่นให้ทานด้วย เราย่อมได้บริวารสมบัติ ดังนั้นการเป็นประธานกองกฐินธรรมชัยได้นั้น ก็มีอยู่ 2 วิธี ง่ายๆ คือ 1.ทำด้วยตนเอง และ 2.ชักชวนคนอื่นทำ 


          ในส่วนของการทำบุญด้วยตนนั้น เป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายมาก คือเพียงเราสละความตระหนี่ออกจากใจ แล้วนำทรัพย์ที่เรามีมาร่วมบุญกฐิน ซึ่งถ้าคนทั่วไปก็จะร่วมบุญตามกำลังศรัทธา แต่สำหรับท่านประธานกองกฐินธรรมชัยแล้ว ก็จำเป็นจะต้องทำตามจำนวนที่ทางวัดกำหนดไว้ ซึ่งมาถึงตรงนี้ถ้าใครที่มีปัจจัยพร้อม สามารถทำบุญกฐินเองได้ ก็เป็นโอกาสในการสร้างบุญใหญ่ที่จะติดตัวเราไปข้ามภพข้ามชาติ ก็สามารถทำบุญกฐินได้เลย หากเรามีทรัพย์แล้วจิตอันเป็นกุศลเกิดแล้ว ก็ควรเร่งทำบุญ เพราะหากเราไม่นำทรัพย์นั้นมาทำบุญ ทรัพย์นั้นก็จะแปรเปลี่ยนไปเป็นอย่างอื่น และที่สำคัญคือ ถ้าเราทำบุญช้า เจตนาในการทำบุญของเราก็ลดน้อยลง เราก็จะได้บุญน้อยลงด้วย ดั่งเรื่องราวที่มีมาในสมัยพุทธกาล ณ กรุงสาวัตถี ในเรื่องของ "พราหมณ์เอกสาฎก" เรื่องก็มีอยู่ว่า


 

เอกสาฎก ผู้ชนะความตระหนี่

 

          ในครั้งนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทรงแสดงธรรม มหาชนเป็นอันมากได้ชักชวนกันไปฟังธรรม เมื่อพราหมณ์เอกสาฎกได้สดับข่าวนั้นแล้ว เนื่องจากพราหมณ์นั้นมีผ้านุ่งอยู่ผืนเดียว นางพราหมณีก็มีผ้าเพียงผืนเดียวเหมือนกัน แต่ทั้งสองคนมีผ้าห่มคลุมอยู่ผืนเดียวเท่านั้น 


          ในวันนั้นทั้งสองจึงตกลงกันว่าจะให้นางพราหมณีไปฟังธรรมในเวลากลางวัน ส่วนพราหมณ์เอกสาฎกจะไปฟังธรรมในเวลากลางคืนเพราะเนื่องจากทั้งสองมีผ้าห่มอยู่เพียงผืนเดียว จึงไม่สามารถออกไปพร้อมกันได้ 


          เมื่อถึงเวลาเย็น ช่วงนั้น พระบรมศาสดาประทับนั่งบนธรรมาสน์ ตรัสพระธรรมกถา เมื่อพราหมณ์ก็ได้นั่งฟังธรรมอยู่ท้ายสุดของมหาชน ได้เกิดความปีติในพระธรรมเทศนานั้นแผ่ซาบซ่านไปทั่วร่างกาย 


ภาพ พราหมณ์เอกสาฎกนั่งฟังพระธรรมเทศนาอยู่ท้ายสุดของบริษัท

 

          ในปฐมยามนั่นเอง พราหมณ์นั้นปรารถนาจะบูชาพระศาสดา จึงดึงผ้าห่มของตนออกมา ด้วยตั้งใจว่าจะถวายแด่พระศาสดา ขณะนั้น อกุศลจิตคือความตระหนี่พันดวงเกิดขึ้นในใจพราหมณ์นั้น พราหมณ์กลับคิดว่า "ถ้าเราจักถวายผ้าสาฎกนี้, นางพราหมณีก็จักไม่มีผ้าห่ม  เราก็จักไม่มีผ้าห่มเช่นกัน อย่าเลย เราอย่าถวายเลย", จึงไม่ได้ถวายผ้าแด่พระศาสดา แต่ยังคงนั่งฟังธรรมอยู่นั้นเอง 


          ในขณะนั้น กุศลจิตที่ประกอบด้วยสัทธาดวงหนึ่งเกิดขึ้นอีก แต่อกุศลจิตคือความตระหนี่พันดวงก็เกิดขึ้นครอบงำกุศลจิตนั้นอีก ความตระหนี่อันมีกำลังมากกว่าของพราหมณ์นั้นคอยกีดกันสัทธาจิตไว้ 


           เมื่อพราหมณ์นั้นกำลังคิดว่า "เราจะถวายดี หรือไม่ถวายดี"   มัชฌิมยาม ล่วงไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นพราหมณ์ก็ไม่อาจจะถวายได้  เมื่อถึงปัจฉิมยาม พราหมณ์คิดว่า "ถ้าเรายังประมาทอยู่ มีความตระหนี่อยู่ประมาณเท่านี้ เราก็ไม่อาจจะพ้นจากอบายภูมิทั้ง 4 ไปได้ เราจะถวายผ้าสาฎกผืนนี้" ว่าแล้วก็สละความตระหนี่ออกจากใจ เดินถือผ้าสาฎกไปวางถวายไว้แทบพระบาทของพระบรมศาสดา ด้วยความปลื้มปีติใจ ทำให้พราหมณ์เปล่งเสียงดังขึ้น 3 ครั้งว่า "เราชนะแล้ว เราชนะแล้ว ชิตังเม ชิตังเม"

 

ภาพ พราหมณ์ถวายผ้าสากฎซึ่งตนมีเพียงผืนเดียว ด้วยความปีติใจจึงกล่าวคำว่า "ชิตังเม"


          พระเจ้าปเสนทิโกศลกำลังทรงฟังธรรม ได้สดับเสียงนั้นแล้ว จึงให้ราชบุรุษไปสอบถามดู พระราชาได้ทราบเรื่องราวทั้งหมด ทรงดำริว่า "พราหมณ์ทำสิ่งที่บุคคลทำได้ยาก เราจักทำการสงเคราะห์แด่พราหมณ์นั้น" จึงรับสั่งให้พระราชทานผ้าสาฎก 1 คู่


          พราหมณ์ก็ได้ถวายผ้าสาฎกนั้นแด่พระตถาคต พระราชาจึงรับสั่งให้พระราชทานมากขึ้นเป็นทวีคูณ คือ 2 คู่ 4 คู่ 8 คู่ 16 คู่ พราหมณ์ก็ได้ถวายผ้าเหล่านั้นแด่พระตถาคตอีก พระราชาจึงรับสั่งให้พระราชทานผ้าสาฎกอีก 32 คู่แก่เขา


          ในครั้งนี้พราหมณ์จึงถือเอาผ้าสาฎก 2 คู่ และถวายผ้าสาฎก 30 คู่แด่พระตถาคต ฝ่ายพระราชาทอดพระเนตรเห็นดังนั้น จึงได้พระราชทานผ้ากัมพล 2 ผืนมูลค่าหนึ่งแสน  และพระราชทานสิ่งของมีค่าอย่างละ 4 มีช้าง 4 ม้า 4 สตรี 4 ทาสี 4 บุรุษ 4 บ้านส่วย 4 ตำบล เป็นต้น 


ภาพ พราหมณ์เอกสาฎกได้รับพระราชทานสิ่งของมากมายอย่างละ 4


          ความอัศจรรย์ได้บังเกิดแก่พราหมณ์นั้น เพียงชั่วครู่เดียวพราหมณ์ได้สมบัติมากมาย ทำให้ภิกษุทั้งหลายพากันสนทนากันในเรื่องนี้ พระศาสดาเสด็จมา จึงตรัสว่า "ภิกษุทั้งหลาย ถ้าพราหมณ์นี้ได้ถวายผ้านั้นแก่เราในปฐมยามไซร้ เขาจะได้สิ่งของมีค่าอย่างละ 16, ถ้าเขาได้ถวายในมัชฌิมยาม เขาจักได้สิ่งของมีอย่างละ 8, แต่เพราะว่าพราหมณ์ถวายในเวลาจวนใกล้รุ่ง เขาจึงได้สิ่งของมีต่างๆ อย่างละ 4, แท้จริง ถ้าบุคคลคิดจะทำบุญแล้ว ไม่ควรให้ความคิดนั้นเสื่อมไป ควรทำบุญในทันทีนั้นเอง, เพราะว่า บุญกุศลที่ทำช้า เมื่อบุญส่งผล ย่อมให้ให้สมบัติช้าเหมือนกัน เพราะฉะนั้น พึงทำบุญในขณะที่จิตอันเป็นกุศลนั้นเกิดขึ้นทันที"  เมื่อจบพระคาถามหาชนเป็นอันมากได้บรรลุธรรม มีพระโสดาบันเป็นต้น


          จากเรื่องนี้จะเห็นได้ว่า การจะทำบุญด้วยตนเองนั้นก็เป็นสิ่งที่ต้องต่อสู้กับกิเลสในใจ ก็คือความตระหนี่ของเราเองเช่นกัน เพราะว่าบุญกับบาปนั้นชิงช่วงกันอยู่ตลอดเวลา เพียงแค่ความคิดว่าเสียดาย กลัวว่าถ้าทำไปแล้วจะลำบาก ความคิดเหล่านี้คือความคิดของฝ่ายบาปที่มาตัดรอนกำลังของฝ่ายกุศลในการทำบุญ นั่นคือ ทำให้เจตนาฝ่ายกุศลมีกำลังน้อยลง บุญที่ได้ก็น้อยลงไปด้วย ดังนั้น ถ้าหากคิดจะเป็นประธานกองกฐินธรรมชัยแล้ว ก็อย่ารอช้า รีบมาถวายกฐินก่อน โดยไม่ต้องรอให้ถึงวันทอดกฐิน ทำบุญอย่างเร็วๆไวๆ ให้สมดั่งพุทธพจน์ที่ว่า 


"บุคคลพึงรีบขวนขวายในการทำบุญ พึงห้ามจิตจากบาป

 เพราะว่าถ้าทำบุญช้าแล้ว ใจย่อมยินดีในบาป"

 

ภาพ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงพระธรรมเทศนา


          เพราะฉะนั้น อย่าประมาทว่าเรามีทรัพย์แล้วจะทำบุญเมื่อไรก็ได้ หากมีทรัพย์พร้อมแล้ว ควรรีบนำมาทำบุญ เพราะไม่รู้ว่าภัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอัคคีภัย โจรภัย อุบัติภัย ว่าจะเกิดขึ้นกับเราเมื่อใด และที่สำคัญคือต้องระวังว่า "จิตใจของเราเอง" จะมีอกุศลธรรมมาครอบงำเมื่อใด ซึ่งถึงตอนนั้นเราอาจจะไม่ได้ทำบุญเลยก็เป็นได้ ซึ่งน่าเสียดายโอกาสเป็นอย่างมาก แต่ถ้าเรารีบทำบุญเปลี่ยนทรัพย์หยาบให้เป็นอริยทรัพย์ภายในแล้ว ก็มั่นใจได้เลยว่า เราก็ได้บุญอย่างเต็มที่แน่นอน และก็จะได้เป็นประธานกฐินธรรมชัยตามที่ได้ตั้งใจไว้


 

กฐินธรรมชัยชวนได้ทุกคน

 

          ส่วนผู้ที่ยังไม่มีความพร้อมทางด้านทรัพย์ ที่จะมาเป็นประธานกองกฐินธรรมชัย หรือมีความพร้อมในระดับที่ทำเองได้ แต่ยังไม่ถึงเป้าตามที่ตั้งไว้ ก็ยังมีวิธีที่สามารถเป็นประธานกองกฐินได้ ก็คือ ไปชักชวนบุคคลที่เรารักให้มาร่วมบุญกฐินธรรมชัยด้วยกัน


          ซึ่งการจะชวนคนอื่นให้ทำบุญนั้น ก็ต้องใช้กำลังใจอย่างมากเลยทีเดียว เพราะถ้าถามว่า "ทำบุญเอง กับชวนคนอื่นทำบุญ อันไหนง่ายกว่ากัน?" ก็ตอบได้เลยว่า ทำเองง่ายกว่า นั่นคือการจะชวนคนทำบุญนั้นต้องสวมหัวใจยอดกัลยาณมิตรจริงๆ คือ มีความตั้งใจจะนำสิ่งดีๆ ไปให้กับคนที่เรารักอย่างแท้จริง 


          ดังเรื่องราวของพระอรหันต์รูปหนึ่ง เมื่อบุญส่งผล ได้ฟังคาถาเพียงบทเดียว ก็สามารถบรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์พร้อมทั้งปฏิสัมภิทาทั้งหลายได้ เรียกว่าเป็น สุขาปฏิปทา ขิปฺปาภิญฺญา ก็คือ ปฏิบัติได้สะดวกและตรัสรู้ได้อย่างรวดเร็ว นั่นก็คือเรื่องของ "สันตติมหาอำมาตย์" เป็นเพราะบุพกรรมที่ท่านได้เคยกระทำไว้ในสมัยของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระนามว่า วิปัสสี เรื่องราวก็มีอยู่ว่า


 

สันตติมหาอำมาตย์ ผู้ทำหน้าที่ยอดกัลยาณมิตร

 

          ท่านบังเกิดเป็นเด็กหนุ่มในตระกูลสัมมาทิฏฐิในนครพันธุมดี เมื่อทราบว่าพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นแล้วในโลก จึงอยากจะให้มหาชนได้รู้จักคุณของพระรัตนตรัย และได้สั่งสมบุญข้ามภพข้ามชาติ อยากจะให้มหาชนได้มาฟังธรรม จะได้มีพระรัตนตรัยภายในเป็นที่พึ่ง


          คิดดังนั้นแล้วก็ออกจากบ้านด้วยเท้าเปล่า ไม่มีใครบอกให้ทำหรือบังคับแต่อย่างใด ได้เที่ยวชักชวนมหาชนทั้งที่รู้จักและไม่รู้จัก ให้ไปทำบุญกุศลกัน โดยได้ป่าวประกาศว่า “พระสัมมาสัมพุทธเจ้าอุบัติขึ้นในโลกแล้ว ขอพวกท่านได้มาทำบุญกุศลกันเถิด จงสมาทานอุโบสถศีล ถวายทาน และหาโอกาสไปฟังธรรมกันเถิด รัตนะอย่างอื่นที่จะประเสริฐเหมือนกับพุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ สังฆรัตนะ ไม่มีอีกแล้ว ขอท่านทั้งหลายจงทำสักการบูชาพระรัตนตรัยกันเถิด”


พุทธประวัติ - ได้รับพยากรณ์

ภาพ มานพหนุ่มประกาศคุณของพระรัตนตรัย

ชักชวนมหาชนให้มาฟังธรรมกับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


          พระเจ้าพันธุมดี เมื่อสดับเสียงของเด็กหนุ่มคนนั้น ก็รับสั่งให้เรียกมาเข้าเฝ้า ตรัสถามว่า “พ่อหนุ่ม เธอเที่ยวทำอะไรหรือ” เมื่อทรงทราบความทั้งหมด จึงพระราชทานม้าที่ฝึกแล้วอย่างดีเป็นยานพาหนะ


          เด็กหนุ่มก็ได้ใช้ม้านั้นทำหน้าที่กัลยาณมิตรทุกวัน และยิ่งทำได้ไกลกว่าเดิมอีก พระราชาทราบว่าเด็กหนุ่มนี้ยังคงประกาศคุณของพระรัตนตรัยอยู่ จึงพระราชทานรถม้าให้เป็นพาหนะคู่ใจ ต่อมาก็ได้พระราชทานช้าง 1 เชือก และเสื้อผ้าอาภรณ์ทุกอย่าง จะได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรได้อย่างสะดวกสบาย 


          ผลแห่งการทำหน้าที่ชักชวนคนให้ทำความดีครั้งนั้น ทำให้มีมหาชนทั้งใกล้และไกลมากมายได้พบเส้นทางสายกลาง เมื่อเขาเหล่านั้นได้ทำทาน ได้ฟังธรรมจากพระพุทธเจ้าก็บรรลุธรรมกันเป็นจำนวนมาก เขาได้ทำการป่าวร้องให้มหาชนเห็นคุณค่าของพระรัตนตรัยอยู่นานถึง 80,000 ปี เมื่อละโลกไปแล้ว ทำได้ไปสู่สุคติสวรรค์ มีวิมานใหญ่โตโอฬาร รัศมีกายสว่างไสว

 

          และที่พิเศษคือ มีกลิ่นจันทน์ฟุ้งออกจากกายของท่าน กลิ่นอุบลฟุ้งออกจากปาก มีกลิ่นปากหอมทุกภพทุกชาติ เพราะผลบุญที่ได้ทำหน้าที่บอกข่าวอันเป็นสิริมงคล เพื่อให้ทุกคนมาฟังธรรม และเข้าถึงพระรัตนตรัยภายในตัว ภพชาตินี้บังเกิดเป็นสันตติมหาอำมาตย์ ทำให้ท่านได้บรรลุธรรมหมดกิเลส เป็นพระอรหันต์ แทงตลอดในธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอย่างง่ายดาย 


          ท่านสาธุชนทั้งหลาย.... พระอรหันต์ในกาลก่อนได้อุทิศตนเพื่องานพระพุทธศาสนา ทำตนเป็นประดุจสะพานให้ผู้คนได้เดินข้ามไปพบกับแสงสว่างแห่งธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้ทำตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีให้เราได้ศึกษากันแล้ว เราเองในฐานะลูกพระธัมฯก็ต้องเดินตามแบบอย่างพระอรหันต์ในกาลก่อน โดยออกทำหน้าที่กัลยาณมิตร แจ้งข่าวชักชวนบุคคลอันเป็นที่รักของเรา ให้มาร่วมบุญกฐินธรรมชัย บุญกุศลใหญ่ก็จะเกิดกับเราอย่างมากมายเลยทีเดียว

 


บุคคล 3 ประเภท  

 

          เมื่อเราออกไปชวนคนทำบุญ ก็ย่อมพบกับปัญหาอุปสรรคเป็นเรื่องธรรมดา ตรงนี้พระเดชพระคุณหลวงพ่อคุณครูไม่ใหญ่ท่านได้เคยเล่าไว้ในโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ว่า เมื่อเราไปชวนคนทำบุญ เราจะเจอกับคน 3 ประเภทด้วยกัน ก็คือ 

 

                    1.อินทรีย์แก่กล้า ชวนแล้วทำบุญเลย 

                    2.อินทรีย์ปานกลาง ชวนทำบุญแล้วเฉยๆ

                    3.อินทรีย์อ่อน คือ ชวนแล้วไม่ทำปฏิเสธและยังแถมคำพูดน่ารักๆ ให้เราฟังอีก

 

 

 

พระเทพญาณมหามุนี (หลวงพ่อธัมมชโย)

ภาพ คุณครูไม่ใหญ่ โรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา


          " ความเกรงใจเป็นสิ่งที่ดี แต่ถ้าจะชวนใครสร้างบารมี ไม่ต้องเกรงใจ เราไม่ได้ชวนเขาไปดื่มเหล้า เจ้าชู้ เล่นการพนัน เพราะฉะนั้นชวนไปเลย ซึ่งก็จะเจอคน 3 ประเภท ที่อินทรีย์แก่กล้า พอบอกปั๊บ ทำทันที ถ้าอินทรีย์ ปานกลาง พอได้ฟังแล้วขอคิดดูก่อน ส่วนที่อินทรีย์อ่อน ๆ ประเภทนี้ก็จะปฏิเสธพัลวัน ทำไมต้องชวนทำบุญบ่อย ๆ อย่างนี้อินทรีย์ยังอ่อนอยู่ ถูกความตระหนี่ได้ช่องครอบงำ แต่ก็ยังพอมีแสงสว่างเล็ดลอดผ่านให้ไปถึงเขาได้ วันนี้แม้เขายังไม่เข้าใจ แต่วันข้างหน้า สิ่งที่เราได้มอบให้เขา เมล็ดพืชที่เราเพาะไว้ในดวงใจเขา ที่ชวนเขาสร้างบารมีก็จะเจริญเติบโตขึ้น และวันนั้นเขาก็จะคิดได้ เพราะฉะนั้นเราไปทำหน้าที่ ไปชวนเขาเถิดประเสริฐนัก คนมีตั้งหลายพันล้านคน ชาตินี้เราจะชวนคนสร้างความดีได้สักล้านคนไหม เราต้องคิดว่า จะต้องชวนคนให้มาสร้างความดีให้ได้เป็นล้านคน เคยคิดอย่างนี้ไหม "

พระเทพญาณมหามุนี

๙ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๐


          เมื่อเราไปชวนคนทำบุญก็หลีกเลี่ยงกับคน 3 ประเภทนี้ไม่ได้ เมื่อเจอคนประเภทอินทรีย์ยังอ่อนอยู่ก็อย่าได้ท้อใจ ให้ถือว่าจะทำให้เราได้บุญบารมีเพิ่มเร็วขึ้น และสิ่งที่เราชวนไว้ในวันนี้ย่อมไม่สูญเปล่า เพราะเราได้เพาะเมล็ดพันธุ์แห่งความดีไว้ในใจของเราแล้ว ในวันหน้าหากเขาได้เข้าใจในเรื่องบุญกุศลมากขึ้น เขาก็จะคิดถึงเรา


          การทำหน้าที่ผู้นำบุญยอดกัลยาณมิตร จึงมีความสำคัญต่อโลกเป็นอย่างมาก ยังมีผู้ที่ไม่ทราบข่าวการทำบุญกฐินธรรมชัยอีกเป็นจำนวนมาก ใครที่เป็นมนุษย์ ฟังภาษาคนรู้เรื่อง เราก็สามารถไปชวนเขาทำบุญได้ ยิ่งสมัยนี้เทคโนโลยีทันสมัย มีทั้งโทรศัพท์มือถือ สมาร์ทโฟน คิดถึงใครตอนนี้ ยกหูชวนทำบุญก็ยังได้ และอย่าลืมหลักวิชชาทุกๆ ครั้งที่ทำหน้าที่กัลยาณมิตร อย่าลืมนั่งสมาธิทำใจให้ใส อธิษฐานจิต และทุกครั้งต้องปลื้มทั้งก่อนทำ ขณะทำ และหลังจากทำไปแล้ว บุญจากการชวนคนทำบุญกฐินธรรมชัยครั้งนี้ เราก็จะได้บุญอย่างเต็มที่

 

อานิสงส์ของการชักชวนทำบุญกฐินธรรมชัย 

 

                    1.ย่อมได้เกิดในร่มเงาของพระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกาย ในปฏิรูปเทส ที่แวดล้อมด้วยผู้มีศีลธรรม

                    2.ย่อมมีครอบครัวดี เป็นครอบครัวแก้วครอบครัวธรรมกาย มีบริวารมากมาย บริวารเหล่านั้นก็เชื่อฟังตั้งอยู่ในโอวาท

                    3.ย่อมเป็นที่รักที่เคารพที่นับถือที่เกรงใจของมหาชนและเทวดาทั้งหลาย เป็นผู้นำของมหาชนในการสร้างความดี มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ มีฤทธิ์มีเดช มีอานุภาพอย่างไม่มีประมาณ

                    4.ย่อมเป็นผู้มีดวงปัญญาสว่างไสว ฉลาดทั้งทางโลก และทางธรรม ความทรงจำดี มีปฏิภาณว่องไว

                    5.ย่อมมีทรัพย์สมบัติมากมาย อาชีพ หน้าที่การงาน รวมทั้งกิจการเป็นหลักฐานมั่นคงตลอดไป

                    6.ย่อมแคล้วคลาดจากอัตรายทั้งหลาย ทั้งอัคคีภัย โจรภัย อุทกภัย ราชภัย และศัตรูหมู่พาลทั้งหลายไม่อาจมากล้ำกลายได้

                    7.ย่อมมีร่างกายแข็งแรง สมส่วน สง่างาม ไม่เจ็บ ไม่ป่วย ไม่ไข้ อายุขัยยืนยาวนาน

                    8.เป็นผู้มีจิตใจอาญหาญร่าเริงในบุญ ละโลกไปแล้ว ย่อมไปบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์ 

                    9.มีดวงตาเห็นธรรม ได้บรรลุมรรคผลนิพพานโดยง่าย

 

ภาพ อานิสงส์การชักชวนทำบุญกฐินธรรมชัย ย่อมเป็นที่รักของมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย


          เมื่อทราบอานิสงส์ของการชวนคนทำบุญกฐินธรรมชัยเช่นนี้แล้ว ก็อย่ารีรอ เริ่มต้นด้วยตนเองก่อน คือทำบุญกฐินธรรมชัยเองก่อน แล้วก็เริ่มชักชวนทิศ 6 ของเรา ตั้งแต่ มารดาบิดา ครูบาอาจารย์ บุตร ธิดาสามี ภรรยา มิตรสหาย คนรับใช้ หรือบริวารต่างๆ ให้มาร่วมทำบุญกฐินธรรมชัยด้วย พระอาจารย์มั่นใจว่าถ้าทุกๆ ท่านได้ทำตามที่ได้เล่ามาตั้งแต่ต้น คือทั้งทำบุญเองและชักชวนผู้อื่นทำบุญอย่างไม่ย่อท้อแล้ว เชื่อแน่ว่าทุกๆ ท่าน ก็สามารถเป็นประธานกองกฐินธรรมชัยได้สำเร็จอย่างแน่นอน สมดังชื่อเรื่องในวันนี้ว่า "ประธานกฐินธรรมชัย เป็นได้ทุกคน"


          สำหรับวันนี้พระอาจารย์ก็ขออำนวยอวยพรให้ทุกๆ ท่าน จงมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสมบูรณ์ มีดวงปัญญาสว่างไสว คิดสิ่งใดให้สมปรารถนา ปฏิบัติธรรมะได้เข้าถึงพระธรรมกายโดยง่ายโดยเร็วพลันทุกท่าน เทอญ 


ขอให้เจริญในธรรม

พระมหาทศพร ปุญฺญงฺกุโ

 

อานิสงส์การทำบุญทอดกฐิน

ทำบุญ


http://goo.gl/84rH6m


พิมพ์บทความนี้



บทความอื่นๆ ในหมวด

      เพลงวันสงกรานต์
      คำขวัญวันเด็ก 2567 รวมคำขวัญวันเด็กทุกปี
      โอวาทหลวงพ่อธัมมชโย เนื่องในวันเข้าพรรษา
      พระประวัติ "สมเด็จพระสังฆราช” องค์ที่ 20 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
      โทษภัยของบุหรี่ ทำไมต้องมีกิจกรรมเทเหล้าเผาบุหรี่
      วัดพระธรรมกาย เชิญชวนประชาชน ร่วมสวดธรรมจักร ถวายพระกุศลแด่สมเด็จพระสังฆราช ในเวลา 19.00 น. พร้อมกันทั่วโลก
      โครงการธัมมจักกัปปวัตตนสูตร [ประวัติความเป็นมาของโครงการ]
      วันสงกรานต์ 2566 ประเพณีวันสงกรานต์ ประวัติความเป็นมาวันสงกรานต์
      สำนักงานแม่กองบาลีสนามหลวง ประกาศผลสอบบาลีสนามหลวง ประจำปี 2566
      กิจกรรมเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ระหว่างกรกฎาคม – กันยายน พ.ศ. ๒๕๖๓
      กิจกรรมส่งเสริมศีลธรรม ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๒ "เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์"
      วัดพระธรรมกาย มูลนิธิธรรมกาย จัดกิจกรรมถวายพระพรชัยมงคล และถวายพระราชกุศลแด่สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ
      Be Part of History in the Making




   ค้นหา บทความธรรม    

  ฝันในฝันวิทยา
  สารพันธรรมะ
  ปกิณกธรรม
  ผลการปฏิบัติธรรม
  โครงการฟื้นฟูศีลธรรมโลก
  ธรรมะบันเทิง
  ข่าว
  ข่าวประชาสัมพันธ์
  ข่าวบุญฝากประกาศ
  DMC NEWS
  ข่าวรอบโลก
  กิจกรรมเว็บ dmc.tv
  Scoop - Review DMC
  เรื่องเด่นทันเหตุการณ์
  Review รายการ DMC
  หนังสือธรรมะ
  ธรรมะเพื่อประชาชน
  ที่นี่มีคำตอบ
  หลวงพ่อตอบปัญหา
  อยู่ในบุญ
  สุขภาพนักสร้างบารมี
  นิทานชาดก
  CaseStudy กฎแห่งกรรม
  กฎแห่งกรรม
  เรื่องราวชีวิต
  เหลือเชื่อแต่จริง
  อุทาหรณ์สอนใจ
  ฮอตฮิต...ติดดาว
  วิบากกรรม...ทำให้ทุกข์
  บุญเกื้อหนุน
  ปรโลกนิวส์
  ธรรมะและสมาธิ
  พุทธประวัติ
  สมาธิ
  ผลการปฏิบัติธรรมนานาชาติ
  ทศชาติชาดก
  พุทธประวัติและวันสำคัญ
  บทสวดมนต์
  ศัพท์ธรรมะ ภาษาอังกฤษ
  มหาปูชนียาจารย์
  อานุภาพมหาปูชนียาจารย์
  ประวัติ
  กิจกรรม
  ธุดงค์สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์
  About DMC
  เกี่ยวกับ DMC
  DMC GUIDE
  มือถือ Mobile
  คู่มือเว็บ www.dmc.tv
  มาวัดพระธรรมกาย
   ค้นหา บทความธรรม    

ธรรมะที่เกี่ยวข้อง - Related