ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อจุติจากสวรรค์ชั้นยามาแล้ว ก็ได้บังเกิดใน
สวรรค์ชั้นดุสิต พอจุติจากดุสิต ก็เลื่อนชั้นขึ้นไป
ที่ชั้นนิมมานรดี แล้วก็ไปชั้นปรนิมมิตวสวัตตี ที่
น่าอัศจรรย์ยิ่งกว่านั้นก็คือว่า ไม่ว่าพระนางจะไป
บังเกิดบนสวรรค์ชั้นไหน ก็จะได้เป็นมเหสีของ
จอมเทพในสวรรค์ชั้นนั้นๆ จึงเป็นผู้เรืองยศ เป็นที่
รู้จักของเทพบุตรเทพธิดาในสวรรค์ทุกชั้นฟ้า เมื่อ
ลงมาเกิดในโลกมนุษย์อีกครั้ง ก็ได้เป็นพระมเหสีของ
พระเจ้าจักรพรรดิ และพระเจ้าประเทศราชตามลำดับ
มีความสุขในทุกภพทุกชาติ ไม่เคยพลัดไปเกิดใน
อบายภูมิเลย นี่เป็นเพราะผลบุญที่ได้ถวายวิหารทาน
ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระพุทธศาสนา
เมื่อมาถึงสมัยพุทธกาลนี้ ก็ได้มาบังเกิดเป็น
พระราชธิดาของพระเจ้าโกญจะ ในกรุงมันตาวดี
ได้รับการขนานนามว่าสุเมธา เป็นนารีรัตน์ผู้มีความ
งามเป็นเลิศ มีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เมื่อทรง
เจริญวัยขึ้นพระชนกชนนีจึงปรึกษากันว่า จักถวาย
พระนางแด่พระเจ้าอนิกรัตต์ แห่งกรุงวารณวดี แต่
เนื่องจากพระธิดาได้ฟังธรรมจากสำนักของภิกษุณี
อยู่บ่อยๆ จึงบังเกิดความเบื่อหน่ายในสังสารวัฏ
ทรงมีพระทัยน้อมมาทางเนกขัมมะ มีพระประสงค์
จะออกผนวชเพื่อหลีกออกจากกาม
พระนางได้ทูลบอกพระบิดาว่า “ลูกไม่ประสงค์
จะครองเรือน ลูกยินดีอย่างยิ่งในพระนิพพาน
ภพถึงแม้ว่าจะเป็นทิพย์ ก็ไม่ยั่งยืน จะกล่าวไปไย
ถึงกามทั้งหลาย ซึ่งเป็นของว่างเปล่า มีรสอร่อยน้อย
มีความคับแค้นใจมาก กามทั้งหลายเผ็ดร้อน เปรียบ
ด้วยงูพิษ ที่พวกคนเขลาพากันจิมดักดาน คนเขลา
เหล่านั้น แออัดกันในนรก ต้องเดือดร้อนเป็นทุกข์เป็น
เวลาช้านาน ลูกอยากจะออกบวช
แต่ถึงพระนางจะอ้อนวอนอย่างไร ก็ยังไม่
สามารถจะทำให้พระชนกชนนีทรงยินยอมได้ ทว่า
พระนางก็ยังคงหาวิถีทางออกผนวชให้ได้ จึงคว้า
พระขรรค์ติดพระเกศาของตัวเอง ยึดเอาพระเกศา