คุณธรรมและลักษณะผู้ที่ควรเป็นที่รัก วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ตุลาคม พ.ศ.2550 หน้า 43
หน้าที่ 43 / 84

สรุปเนื้อหา

บทความนี้เสนอความสำคัญของคุณธรรมและลักษณะของคนที่น่ารักน่าเคารพ โดยเริ่มจากความสะอาดภายในที่ส่งผลต่อบุคลิกภาพภายนอก เช่น การมีมารยาทและสุขภาพที่ดี นอกจากนี้ ยังพูดถึงคุณธรรมของความเคารพและการเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้ชีวิต รวมทั้งการติดต่อสัมพันธ์ที่ดีในสังคม เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดีในการพัฒนาตนเองและผู้รอบข้าง การประพฤติที่เหมาะสมกับฐานะ การมีเมตตา การช่วยเหลือผู้อื่น และการสอนให้คนรอบข้างมีการพัฒนา ล้วนเป็นแนวทางในการสร้างโลกที่ดีขึ้น

หัวข้อประเด็น

-ลักษณะของคนที่น่ารัก
-ความสำคัญของความสะอาด
-คุณธรรมที่ควรมีในสังคม
-การสร้างบรรยากาศที่ดี
-การเป็นที่เคารพในฐานะครูและผู้มีอำนาจ
-การให้ความสำคัญกับการพัฒนาตนเองและผู้อื่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ให้ฝังแน่นอยู่ในใจของเราอย่างมั่นคง ได้แก่ ประการที่ ๑ ปิโย แปลว่า เป็นที่รักใคร่พอใจ หรือเป็นคนน่ารัก ග โดยปกติแล้ว แม้ใครจะมีความรู้ ความสามารถ มีคุณธรรมมากน้อยเพียงใด ก็ไม่อาจแสดงให้เห็น ได้ตั้งแต่แรกพบ แต่สิ่งแรกที่จะดึงดูดสายตาคน ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกว่าเป็นคนน่ารัก น่าเข้าใกล้ คือ ความสะอาด เริ่มตั้งแต่ความสะอาดของร่างกาย ไปจนถึง ความสะอาดของเสื้อผ้า สิ่งของเครื่องใช้ แต่ภายนอก จะสะอาดได้ต้องมาจากภายใน คือ ใจที่สะอาด การรักษาศีล ๕ อย่างเคร่งครัดเป็นพื้นฐาน สำคัญ ที่จะสะท้อนความสะอาดจากภายในออกมา ยังบุคลิกภายนอก สิ่งที่ตามมาจากความสะอาด คือ ความสว่าง ความกระจ่าง ความสงบ อีกทั้งยังมีความสง่า มี มารยาทที่นุ่มนวล มีความเรียบง่าย ไม่มีจริต ยิ้มแย้ม แจ่มใส สรุปคือ มีบุคลิกดี มีมารยาทงาม สุขภาพ พลานามัยแข็งแรง ท่าทางกระปรี้กระเปร่า ไม่อืดอาด ยืดยาด อุปมาเหมือนพระจันทร์ในคืนวันเพ็ญ คือ มีทั้งความสว่างและความเย็นอยู่ในตัว ประการที่ ๒ ครุ แปลว่า เป็นที่เคารพ ลักษณะของคนที่น่าเคารพ คือ เป็นคนที่ ประพฤติตนเหมาะสมกับฐานะที่ตนเองเป็น เช่น เป็นครูก็ประพฤติตนให้สมกับที่เป็นครู เป็นต้น เป็นคนมีเหตุมีผล หนักแน่นมั่นคงในคุณธรรม เหมือนขุนเขา คุณธรรมที่สำคัญคือ ไม่ลำเอียง และยังต้องประกอบ ด้วยพรหมวิหาร ๔ อีกด้วย นั่นคือ เมตตา คือ การบำเพ็ญตนเป็นกัลยาณมิตร เพื่อหวังจะให้ผู้อื่นเป็นสุขกันทั้งบ้านทั้งเมือง กรุณา คือ เมื่อเห็นใครตกทุกข์ได้ยากก็ไม่นิ่ง ดูดาย ต้องเข้าไปให้ความช่วยเหลือ แก้ไข ประคับ ประคองกันขึ้นมา มุทิตา คือ ดีใจเมื่อเห็นผู้อื่นได้ดี อุเบกขา คือ ทั้งไม่ลำเอียง ทั้งมีความยุติธรรม รวมทั้งวางเฉยได้เมื่อถึงคราวที่ผู้อื่นตกทุกข์ได้ยาก แล้วเราได้พยายามช่วยเต็มที่แต่ช่วยไม่ได้ แทนที่ จะเป็นทุกข์ใจ ก็วางเฉยได้ แล้วเดินหน้าทำความดี ต่อไป m ประการที่ ภาวนีโย แปลว่า เป็นผู้ควร สรรเสริญ หรือน่าเทิดทูน คนที่จะน่าเทิดทูนนั้น มีลักษณะชัดเจน คือ ทำอย่างไรก็พูดอย่างนั้นและพูดอย่างไรก็ทำอย่างนั้น เปี่ยมไปด้วยภูมิปัญญาทั้งทางโลกและทางธรรม ในทางโลกนอกจากจะมีวิชาความรู้ในการใช้ ประกอบอาชีพหาเลี้ยงชีวิตตนเองได้แล้ว เขายัง สามารถเป็นที่พึ่งให้กับผู้อื่นได้ด้วย ไม่ว่าจะด้านฝีมือ การทำงาน ด้านความรู้ เป็นคลังความรู้ คือเป็นที่ ปรึกษา หาวิธีแก้ปัญหาที่ติดขัดให้กับผู้อื่นได้ ส่วนทางธรรมก็สามารถช่วยให้คำแนะนำใน การดำเนินชีวิตอย่างถูกต้อง โดยยึดหลักธรรมเป็น แนวทางในการแก้ไขปัญหาต่างๆ รวมไปถึงสามารถ ชี้แนะเรื่องการประพฤติปฏิบัติธรรมด้วย ประการที่ ๔ วัตตา แปลว่า เป็นผู้ฉลาดพูด หรือฉลาดในการตักเตือนพร่ำสอน คนส่วนมากในโลกนี้มักบ่นกันว่า สิ่งแวดล้อม ไม่ดี ทำให้ไม่มีโอกาสทำความดี หรือจะทำอะไรก็ ติดขัดไปหมด แต่ที่ถูกต้องนั้นเราต้องย้อนกลับมาดู ที่ตัวเราก่อน สิ่งแวดล้อมดีๆ จะเกิดขึ้นมาได้อย่างไร ถ้าเราไม่เริ่มต้นสร้างขึ้นมา และการสร้างนั้นก็ต้อง อาศัยการสอนและการฝึกฝนคนรอบตัวเรา ให้เขา สามารถพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น ต่อมาบุคคลเหล่านั้น ก็จะมาเป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับเราต่อไป เราเองก็ เป็นสิ่งแวดล้อมที่ดีให้เขา พึ่งพาอาศัยกันอย่างนี้จึง จะมีโอกาสสร้างคุณงามความดีได้อย่างเต็มที่ ผู้ที่อ่านตำรามามาก หรือท่องจำหลักธรรมได้
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More