ข้อความต้นฉบับในหน้า
ย้อนกลับไปกลับมาอย่างนốiสักกึดเดือน เสร็จแล้วจึงท่องอย่างอันอีก ก็ทิ่นอหนเดียวกัน
ฉนกระท่อกาการ ๓๙ ขึ้นใจ นาเท่าไรจึงขึ้นใน นานะ ๙ เดือน นี้เป็นการกำหนดอย่างกลาง
เมื่อสายยาย (ทอง) ด้วยจาวอย่างนี้ตั้งร้อยครั้ง พันครั้ง หมื่นครั้ง แสนครั้ง ฯ
เพราะว่าระเบียบแห่งกรรมฐาน ย่อมชำนาญการสาธยายด้วยวาจา
จิตย่อมไม่ว่างพล่านไปข้างเน้นซ้ำซ้ำนี้ พึงทองด้วยปากฉันใด
พึงทำการทองแม่ด้วยใจฉันนั้นเหมือนกัน การทองด้วยปากเป็นปัจจัยแห่งการทองใจ
การทองจำใจเป็นปัจจัยแห่งการแทงลอด ซึ่งว่าโดยลักษณะ
ส่วนคำว่า โดยสิ คือ พึงกำหนดสีแห่งผมเป็นต้น ฯล
เมื่อสายยายอาการ ๓๒ ปรากฏพร่องในโมนาวาร์ มีอาจให้สำเร็จเป็นอุณหภูมิ คือ
เป็นดวงขึ้นมาได้ ก็ให้นกดเป็นส่วน ๆ ไป เช่น วิธีพิจารณาผมของเขา อันว่าสกคือผมนี้ มีอยู่
๘๐ ล้านบาทโดยประมาณ ถ้าจะพิจารณาโดยสีซึ่งมีสีดำเป็นปกติ
ที่มีสีขาวนั้นอาจค่ายความรำคาญเมียดียื่น
ถ้าพิจารณาโดยสันฐานก็พิจารณาโดยต้นเรียงหลายเรียงดูดังชั้น
ผมนี้เกิดในที่เตียงบน บนศีรษะนี้ แถว ๆ ที่ข้างบน ระหว่างนี้
ผมงอกในหน้องอุ่น ๆ อันผูกกระไหล่ของเราท่านทั้งปวงที่อยู่แห่งผมนี้ขนกกำหนดโดยสุดแห่งหน้าผาก ข้างหลังกำหนดโดยหลุมแห่งคอ
ข้างทั้งสองกำหนดโดยหมวกคู่ทั้งสอง ผมกำหนดตราก่อนจะลงไปในหนังหุ้มศรีษะนั้น
มีประมาณเทบปลายแห่งเมล็ดขาวเปลือก ผมนี้เกิดขุมละเส้น จะบังเกิดด้วย ๒ เส้น ๓ เส้น หาได้ไม่ ผมนี้มีความปฏิญาณ ๕ ประการ
ปฏิญาณโดยสิ คือ พิจารณาโดยว่า บุคคลลักษณ์โดยใจด้วยข้าว ยาถู และข้าวสวย
สิ่งของทั้งปวงที่ชอบใจบริโภคนัน ถ้าเห็นวัตถุใด เหมือนผมตกลงในสิ่งของอันดุรนีโภคนัน
สำคัญว่าเป็นผมตนนี้ก็ยอมแตกพึง ยอมชัง เมื่ออยู่ในกานนั้นเป็นที่รัก ครรออกจากกายแล้ว
พึงเป็นที่เกลียดชัง พึงพิจารณาเป็นปฏิฏูกโดยสิ้นสุดนี้
ปฏิฏูกโดยสิ คือ พิจารณาโดยว่า บุคคลลักษณ์ด้วยข้าว ยาถู และข้าวสวย
สิ่งของทั้งปวงที่ชอบใจบริโภคนัน ถ้าเห็นวัตถุใด เหมือนผมตกลงในสิ่งของอันดุรนีโภคนัน
สำคัญว่าเป็นผมตนนี้ก็ยอมแตกพึง ยอมชัง เมื่ออยู่ในกานนั้นเป็นที่รัก ครรออกจากกายแล้ว
พึงเป็นที่เกลียดชัง พึงพิจารณาเป็นปฏิฏูกโดยสิ้นสุดนี้
ปฏิฏูกโดยสิ้นสุด นั้น พึงพิจารณาให้เห็นว่า เมื่อบริโภคโภชนาหารสิ่งสิ่งหนึ่ง ถ้าพบจะวัตถุดุอันเดียว มีสัญฐานด้วยผม สำคัญวามแล้วก็มีความเกลียดชัง หยิบทั้งเสียบ้าง
คายทั้งเสียบ้าง เพราะเหตุล่ำคำผม นี้เป็นที่รักแต่เมื่อยังติดอยู่ในกาย
ครั้นปราศจากกายแล้วก็เป็นที่เกลียดชัง จะว่าไปถึงผมเลย จนแต่เส้นไหมบ้วน เป็นดังที่มีสัญฐานเหมือนด้วยผม ที่บุคคลลักษณ์วิมันนั้น ยังว่าเป็นที่เกลียดชังเป็นหนักหนา fordiนั้น
พึงพิจารณาให้เห็นเป็นปฏิฏูกโดยสันฐานจดูพรรณานะวันนี้