การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนา : หน้า 25/44

การสวดมนต์มีความหมายอย่างไร? พระพุทธเจ้ามีทั้งบรรเทา ร้อยแก้ว และ ร้อยกอง 1 คาถามี 2 บรรทัด 4 วรรค รวมกันเป็น 1 คาถา คำว่า "อาคม" แปลว่า พระสูตรในหลายๆ ครั้ง เราได้ยิน 2 คำ นี้รวมกันเป็นคำว่า "คาถาอาคม" การสวดมนต์ในพระพุทธศาสนามีมาตั้งแต่ สมัยพุทธกาล เป็นการสวดในสิ่งที่พระพุทธเจ้าได้ทรงสอนไว้เพื่อไม่ให้สิ่งในคำสอนนั้นๆ และ ทบทวนในสิ่งที่พระพุทธองค์ได้ตรัสไว้แล้ว เพราะในครั้งพุทธกาลยังไม่มีพระไตรปิฎก จึงต้องใช้การท่องจำ หลังพระพุทธนิพพานก็การสวดคาถานพระ-"ไตรปิฎก" ครั้งที่ 1 ก็ยังใช้การท่องคำสั้นๆท่อติดต่อกัน มา เรียกว่า "มู ปู " (หมายถึง การท่องด้วยปาก การด่ำต่อเนื่องกันมาด้วยการสอนแบบปากต่อปาก) ดังนั้น จึงมีการคัดเอาคำสอนที่สำคัญมาสอดสร้อยเป็นเนจินต์ คำสอนสำคัญเหล่านี้กลายเป็นบทสวดมนต์ในที่สุด ในบางคราวพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงอพารได้พระภิญญาสายยพุทธมนต์ให้พระพุทธองค์ฟัง เช่น บทโพชฌงค์ 7 ทำให้พระองค์อาการอาพาสทิ้งลง จะนับเป็นพระสวดมนต์จึงมีอานุณามาก นับแต่มนพระภิญญาสี่เรื่อยมาปีเป็นการทบทวนคำสอนของพระพุทธเจ้า บทสวดมนต์และคาถามีความแตกต่างกันอย่างไร? บทสวดมนต์ คำว่า "คาถา" แปลว่า ร้อยกอง คำสอนของ หลายท่านอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมในแต่ละวัดจึงไม่เหมือนกัน บางก็บรม้งน้ำมันต์ บางก็บลายสัญลักษณ์ แต่บทที่ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้ความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกัน ความแตกต่างของบุญพิธีในแต่ละวัด? หลายท่านอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมในแต่ละวัดจึงไม่เหมือนกัน บางก็บรม้งน้ำมันต์ บางก็บลายสัญลักษณ์ แต่บทที่ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้ความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกัน - บทสวดมนต์ คำว่า "คาถา" แปลว่า ร้อยกอง คำสอนของ หลายท่านอาจเคยสงสัยกันว่า ทำไมในแต่ละวัดจึงไม่เหมือนกัน บางก็บรม้งน้ำมันต์ บางก็บลายสัญลักษณ์ แต่บทที่ไม่มี เมื่อเป็นเช่นนี้ความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกันความ ศักดิสิทธิ์ก็ยังคงไว้ แต่เป็นเช่นกัน