ข้อความต้นฉบับในหน้า
บุคคลใดในโลกพร้อมทั้งเทวโลก ที่จะประเสริฐกว่าดอกคามไม่มี"
อุปาทิเจกเป็นผู้โชคดีที่ได้พบพระสัมมาสัมพูเจ้าเป็นปฐมก่อนใคร เมื่อได้ฟังพระสัมมาสัมพูวาทเช่นนี้ บังเกิดความเลื่อมใส จึงกล่าวขึ้นชมว่า "เราไม่มีความสงสัยในถ้อยวาทของท่านแต่ประการใด เราใคร่จักถวายทานแต่ท่านผู้มีปริสุทธิมากในยามากตามว่า พระอนุตติน"
พระบรมศาสดาผู้ทรงพระมหากษัตริย์ยิ่งใหญ่ มีพระประสงค์จะให้พระนามนี้ติดแน่นในใจของอาชีวก จึงตรัสสั้นๆว่า "บุคคลในโลกนี้ที่ผู้อบรมฉบับได้รับชัยชนะไม่มีเลย การที่ได้มานับถือนั้นจากท่านว่าพระอนุตติน เป็นการสมควรแก่"
อุปาทิเจกได้ฟังคำคำรับรองเช่นนั้นดีจึง ถามหาพระครัตน์ของตน ดิฉาวตอบว่า "ตอนพ่อไม่อยู่ พระคุณเจ้ามาที่บ้านนานนั่งเดียวจากนั้นก็ไม่เห็นอีกเลย นายพรานฟังก็ตรองใจ รีบเดินมุ่งหน้าไปยังบรรดาศาลาของอาชีวก เห็นท่านนอนทอดอดใจจนลูบตนอดใจลดในชีวิต จึงถามถึงอาพาธที่เกิดขึ้น อุปาทิเจกใครจะปิดบังความในใจแต่เมื่อตรูกเราหนักเข้า ด้วยความที่ตนเป็นผู้มีศีลไม่เคยโกหก จึงตอบไปตามตรงว่า "เราไม่ได้อาพาธอะไร แต่เรามีความรักใคร่ในตัวท่าน ถ้าไม่ได้สงดใจปรารถนา เราคงจะตายอยู่ ณ ที่นี่"
พรานไพรฟังดังนั้น จึงคิดแก่สถานการณ์ผ่อนหนักให้เป็นเบา ด้วยการบอกลูกสาวให้ อุปาทิเจกังสงคละแพกนบรรดารองเรือน แต่งความที่ยังถูกพันธะในพงไพร จึงคงเก็บบริการทุกอย่างไว้ และเนื่องจากนั่นเป็นผู้มีศีล แม้อยู่ในแวดวงภาพคนพราก ก็ไม่สลด ทำหน้าที่เพียงแค่หาบเนื้อไปขายในเมือง