ข้อความต้นฉบับในหน้า
เมื่อดวงสินิฤกษ์ถูกชิงตัวไป พระโพธิสัตว์ไม่สามารถแสดงออกทางโกรธหรือไม่พอใจแต่ coração ใดจนมองดูนางและเห่าหวาดหวั่นด้วยดีนทีเมตตา ฝ่ายดาบสินิฤกษ์ก็มีได้ดีนาภายในจิตพระราชทานมอบให้ ได้แต่พรานั่งโทษของเบญจาภาพคุณ แล้วสรรเสริญคุณของบรรพชาอุตลอดเวล แมพระราชจะทรงใช้วิจารณ์กานต์ ก็ไม่สามารถจะผูกใจนางไว้ได้ จึงบ่งส่งให้พ้นนางไว้นในห้องใต้ดิน แล้วเสด็จไปหาพระโพธิสัตว์ซึ่งกำลังนั่งเย็นผ้าอยู่ตามลำพัง พลางตรัสถามว่า "ท่านดาบอายุยังมีความโกรธอยู่บ้างไหม ที่เราแย่งนางดาบสินีของท่านไป"
ดาบสสินิฤกษ์ได้ฟังดังนั้น จึงตั้งใจจะสอนธรรมให้ พระราชา จะไม่ม้วนหลงไหลในนางดาบสินี ซึ่งจะเป็นบาปติดตัวข้ามชาติ ท่านได้พูดถึงความโกรธไว้ว่า "ดู่อนบนนับพิษ อาตมาไม่ได้โกรธพระองค์เลย เพราะความโกรธยังมากประกอบด้วยความพินาศในลูกหลาย เมื่อความโกรธขึ้นแล้ว บุคคลย่อมไม่เห็นห ประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ความโกรธเป็นอารมณ์ของคนใช้ปัญญา
หมู่ชนผู้นิยมในความโกรธที่เกิดขึ้นแล้ว ชื่อว่าเป็นศัตรูแท้ตนเอง หาความทุกข์ใดซึ่งผู้อื่นถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมละทิ้งทุกสิ่งทุกอย่าง เขาประกอบด้วยกิเลสมหึมาที่น่ากลัว มีวังกำสามารถปราบผู้อื่นให้อยู่ในอาณาจักรได้ อาตมาเห็นโทษอย่างนี้จึงไม่โกรธ และไม่ผกโกรธ ขออวยพระองค์ ธรรมคาถาไฟอันเกิดขึ้นมิใช่ไฟไฟเพียงบุคคลที่อยู่ไฟเกิดขึ้นแต่ใน ย่อมแปลนั่นเองให้หมดได้"
ความโกรธอ่อนเกิดขึ้นเกิดนาพล ผู้ใดมาลาไมรู้จริง เพราะความแข็งดี เมเขาถูกความโกรธครอบงำแล้ว ย่อมละทิ้งกุศลธรรมทุกอย่าง เขาประกอบด้วยกิเลสมหึมาในนางกลัว มีพลังสามารถปราบผู้อื่นให้อยู่ในอาณาจักรได้ อาตมาเห็นโทษอย่างนี้จึงไม่โกรธ และไม่ผกโกรธ ขออวยพระธรรมคาถาไฟอันเกิดขึ้นมิใช่ไฟไฟเพียงบุคคลที่อยู่ไฟเกิดขึ้นแต่ใน ย่อมแปลนั่นเองให้หมดได้
พระธรรมเทศนาโดย: พระเทพญาณมหามุนี นามเดิม พระครูภาวนาวุฒิ (อายุ ๙๓ ปีฉลอง) *มก. เล่ม ๒ หน้า ๔๙*