ข้อความต้นฉบับในหน้า
นิทสาร Dhamma TIME
ประจำเดือน กันยายน
สงฆ์ปฏิปักษ์น่า...ผู้ปฏิบัตธรรมด้วยชีวิต
เรียบเรียงโดย พระมหาศรเทพ ปุณญญโกโร
วันครูคัณพบว่าวิชชาธรรมกาย 15 ค่ำเดือน 10 ในวันนี้เมื่อ 97 ปีที่แล้ว (ปัจจุบัน พ.ศ.2557) เป็นวันซึ่งพระเดชพระคุณหลวงปู่ พระมงคลเทพมุนี ท่านได้เอาชีวิตเป็นเดิมพันในการค้นวิชชารวมกายให้หนวนกลับคืนมาอีกครั้งหนึ่ง ทำให้เราเองได้รู้เป้าหมายของชีวิตว่า เราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน อะไรเป็นเป้าหมายของชีวิต และจะไปสู่เป้าหมายชีวิตนั้นได้อย่างไร ทำให้เราดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้อง วันครูคัณพบวิชชาธรรมกายจึงเป็นวันสำคัญอย่างยิ่ง ที่ลูกหลานหลวงปูฏฏๆ ท่านจะได้มาร่วมกันให้วอร์วิชชาธรรมกายกัน
ในช่วงเช้าวัน นี้ 15 ค่ำเดือน 10 พ.ศ.2460 ณ วัดโพธิ์นบูญ บางคูเวียง จ.นนทบุรี พระเดชพระคุณหลวงปู่ท่านมีความคิดขึ้นมาว่า
"เราบ างชามจะครอบ 12 พระชาขาแล้ว วิชชาของพระพุทธเจ้าจริงๆไม่ได้บรรลุเลย ทั้งที่การศึกษาของเราก็ไม่เคยขาดเลยสักวัน ทั้งนี้ถาถมดูจะวิจิตสมุข อย่าเลย ควรจะรีบระทําความเพื่อ ให้เห็นของจริงในพระพุทธศาสนาเสียที"
เมื่อลับจากบิณฑบาตแล้วท่านก็รีบจัดการภารกิจต่างๆ ให้เรียบร้อยเพื่อจะได้ไม่มีเรื่องกวนใจ เสร็จแล้วได้เข้าเจริญภาวนาในพระอุโบสถแต่เพียงผู้เดียว และตั้งใจว่า ถักลองเพลไม่จะแข้งไม่ จะไม่ลูกขึ้นจากที่ เมื่อท่านเริ่มนั่งสมาธิ ก็เกิดความคิดเห็นมากขึ้นมา
"เอ...แต่ก่อนเราไม่เคยรู้สึกเช่นนี้เลย พอดั้งจะลงไปว่า ถ้ากลองเพลไม่ดังจะไม่ลูกจากที่เหตุใดจึงเพิ่มความกระวนกระวายใจมากมายอย่างนี้ ผิดกว่าครั้งก่อนๆ ที่นั่งภาวนา เมื่อไฟหนอ...กล่องเพล Jing จะแดงสักที"
กลองเพลจึงจะดังสักที."
เมื่อท่านคิดเช่นนี้จึงแกว่งและชัดสายมากขึ้น จนเกือบจะเลิกนั้งหลายครั้ง แต่เมื่อท่านได้ ตั้งจะไปแล้วก็ทนซึ่งต่อไป คือท่านนั่งสมาธิ โดยคิดว่า "ตายเป็นตาย" ในที่สุดจงท่านก็หยุดรวมเป็นจดเดียวกัน เห็นเป็นดวงใสมรสกรีขนาดเท่าฟองไข่แดงของไก่ ใจในใจความซูบซึมบิณฑบาตอย่างบอกไม่ถูก
และในคืนเดียวกันนั้นเอง หลังจากได้รับมง