การค้นพบทางสายกลางของพระผู้มีพระภาคเจ้า Dhamma TIME เดือนกันยายน พ.ศ.2557 หน้า 29
หน้าที่ 29 / 45

สรุปเนื้อหา

พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงค้นพบวิธีการทำจิตให้บริสุทธิ์และเดินทางสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ โดยการทดลองทั้งสองวิธีและท้ายที่สุดพบว่า ทางสายกลางเป็นหนทางที่ถูกต้อง ซึ่งจะนำไปสู่การตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐ พระองค์ทั้งสอนและแนะนำผู้คนให้ดำเนินตามเส้นทางนี้เพื่อเข้าถึงความจริงและความสุขที่แท้จริงได้อย่างอยู่เพียงโสด.

หัวข้อประเด็น

- การค้นพบของพระผู้มีพระภาคเจ้า
- ทางสายกลาง
- ความหลุดพ้นจากทุกข์
- การตรัสรู้ธรรม
- การสอนผู้อื่น

ข้อความต้นฉบับในหน้า

พระผู้มีพระภาคเจ้า ทรงค้นพบการทำจิตให้บริสุทธิ์สุดพ้นได้ มัชฌิมาไปปฏิบัติทันทีนั้น เพราะพระองค์ทรงทดลงมาหมดทั้ง ๒ วิธีว่า ทำอย่างไรจึงจะหลดพ้น ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงนิพพาน ที่ไม่มีทุกข์เจอปน ไม่ว่าจะเป็นกามสุขิลาผลโยค คือ ทำตนเองให้หงุดหงิดเมลิดเพลินอยู่ในบุญจากามคุณ แม่ก่อนที่จะเสด็จออกผนวช พระองค์จะพรั่งพร้อมไปด้วยข้าทาสบริวาร มีบริวาร ๓ ดุง ทรงพลังพร้อมกว่าใครๆ ในโลกมนุษย์ แต่ใจยังไม่เคยอิ่ม ยังมีความพร่อยอยู่ จึงเสด็จออกจากกรงนวชเพื่อบำเพ็ญอัตคิลมานูย คื อ ทรมานตัวเองให้ลำบากด้วยหวังว่าจะพ้นทุกข์ วิธีไหนที่ครูอาจารย์ในสมัยก่อน เห็นว่าจะทำให้บริสุทธ์สุดพ้นได้ ก็รงทดลงหมดทุกอย่างจากที่เคยเสวยโภคีสุขประดุจจะสวรรค์ ก็เปลี่ยนมาบำเพ็ญบารมีอาศัยอาทิคนอื่นภายมา ดง บำเพ็ญทุกกริยา ซึ่งเป็นการทรมานตนที่หาได้ยากที่สุด เพราะถ้าถำสำเร็จ จะได้ตรัสรู้ธรรมอันประเสริฐๆ แต่เมื่อตลอดลงทำแล้วก็ทรงเห็นว่า ไม่ใช่ทางแห่งความหลุดพ้น จึงลากวิธีการนั้นแล้วหันกลับมาปฏิบัติทางสายกลาง ไม่ดิ่งไปและก็ไม่หย่อนไป ค่อยปฏิบัติพอดีๆ ในที่สุด พระองค์สามารถค้นพบทางสายกลางด้วยการดำเนินจิตเข้าๆกลางใน ได้ตรัสรู้จากธรรมอรหันต์ จึงกล้าปฏิญาณพระองค์เองว่า เป็นพระอรหันต์สมมาสมาพุทธเจ้า คือ เป็นพระอรหันต์ผู้ตรัสรู้เองโดยชอบ เมื่อทรงค้นพบเส้นทางสายกลางแล้ว ก็รงทำหน้าที่เป็นประทีปของโลก แน่นำเหล่าในยสติให้ตรัสรู้ตาม ทรงสอนจากเรื่องหยาบๆ ว่ามูลมีมา ปัญหา ตกคาเดน อภิสมุทธา คือ เส้นทางสายกลางที่พระตกเด ได้ตรัสรู้ขึ้น ต้องเริ่มจากสัมมาทิฐิ คือ มีความเห็นที่ถูกต้องเสียก่อน เห็นว่าที่ดีได้ ทำชั่วได้ชั่ว เชื่อว่าโลกนี้โดย
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More