ข้อความต้นฉบับในหน้า
มีนานิสงส์แรงมาก เพราะต้องอาศัยหัวใจที่ยิ่งใหญ่เกินมนุษย์ธรรมดา และท้ายที่สุด บุญเอง.. ก็ทำให้นทบพลันร่ำรวยเป็นเศรษฐีขึ้นในภายวันนั้น และเป็นบุญหนึ่งที่ทำให้พระมหากัสสะปะ มีรมเต็มเปี่ยมจนสามารถตามลบดิลบบรลุ่มรด ผล นิพพาน เป็นพระอมตัตุตู เป็นผลในด้านการถอดดง์ศ์ (อ่านเพิ่มเติมที่ อรรถถกฺ ฎุททุกกิย คาถาธรรมบท ปาฏวรรคนที่ ๘ เรื่อง พราหมณ์นิ่งอภิลา) มาถึงคนดังอีกคน ซึ่งก็คือ ปูของนางวิสาขา หรือ ท่านเมณฑกเศรษฐี ซึ่งว่ากว่าท่านจะเกิดมาจวบจนวันนี้ ท่านได้สร้างเหตุโดยการทำบุญชนิดเอาชีวิตเข้าแลกมาก่อน หากย้อน ไปในชาติที่ท่านเกิดในยุคที่มีอุตภาวะ หรืออภัยจากความอดอยาก ซึ่งขณะที่จะท่าน กำลังจะอดตายเพราะความหิวโหย ก็ได้ ตัดสินใจเอาข้าวมือตสุดท้ายที่ทุงไว้กินกัน ทั้งครอบครัวมากว่ายให้กพระจั๊ก- พุทธเจ้าที่เพิ่งออกจากนิรวาสบัติ โดย คิดว่าตัวเองตายตาย แต่ว่าให้บุญนี้ ก่อนตาย เรียกได้ว่า..ทำบุญโดยยอมแลก ด้วยชีวิตเลยที่เดียว ซึ่งการทำบุญแบบ ยอมแลกด้วยชีวิตนี้เอง ได้ส่งผลให้ท่าน เศรษฐีได้สมบัติล่ำคลาวัลย์ และรอดชีวิต กลับมาว่ายกว่าเดิมอย่างเหลือเชื่อ (อ่านเพิ่มเติมใน อรรถกฺ ฎุททุกกิย คาถาธรรมบท มูลรรคที่ ๑๘ เรื่อง เมณฑกเศรษฐี) จะเห็นว่า คนดังแต่ละคนในสมัยพุทธกาลที่ยกตัวอย่างมาล้วนทำบุญนั่นย่อมมากกว่ามนติตัว เสียอีก เพราะบางคนถึงกับแลกด้วยชีวิต แต่พระสัมสัมพุทธเจ้าและพระปัจจกพุทธองค์ ก็ไม่ทรงห้ามแต่ปะการใจ แกนไม่ทรงสั่งด้วยว่า.. ให้ทำบุญน้อย ๆ แต่ตรงกับข้าบังคับทรงชนะ ทำบุญทั้ง ๆ ที่รู้ว่า..ผู้ตกชนนั้นไม่มีด้วยซ้ำ อึกทั้งยังทรงชื่นชมมนุษย์นและให้กำลังใจ โดยกล่าวถึงอานิสงส์และยกตัวอย่างเพื่อให้ปลิ้นมือด้วย
ที่พระองค์ทรงทำอย่างนี้ เพราะทรงรู้ดีว่า บุญจากการทำทานสะสมสิ่ง แม้จะหมดตัวแบบจะแกสภุกพราหมณ์หรือท่านเมณฑกเศรษฐี สุดท้ายด้วยบุญนี้..ก็จะทำให้ได้สิ่งที่เหนือกว่าเดิมและดีที่สุด ซึ่งก็คือ การหมดเทวาสิ้นพพพนนันเอง
มีนาคม ๒๕๖๒ อยู่ในบุญ ๓๙