ข้อความต้นฉบับในหน้า
ỳ87êàปจบฌ>าเา า่ืึอนดอ่ ขืออนาคต เรื่อง : พระมหาพงศ์ศักดิ์ ฐานโย, ดร.
ย้อนอดีต...ท่องประวัติศาสตรพระพุทธศาสนา ตอนที่ ๑๙ : ขฺกูล ๑,๐๓ กับปฏิหาริย์เพื่อการปราบทุจริต
หลังจากพระพุทธองค์มีพระครัสเพื่อส่งพระอัชฌา ๑๙ รูปออกไปประกาศพระสรรเสริญ
แตตัวพระองค์เองก็กำาไดอยางไมน่าเชื่อ พระพุทธองค์ได้มุ่งหนาไปสู่จรวฺณาเสนานคม ณ ที่แห่งนํ้น มีภิษ๖ ๓ พื้นอินฺคจ์เป็นคุณอาจารย์ใหญของชาวัจฉันและมค โดยมึ "อุจจาระสปะ" ผูเปนพนัู่ดูแลบริวาร ๔๐๐ มี "นํ้าที่สปะ" และ "คยากาสสปะ" ผูเปนน้องทั้งสอง ดูแลบริวาร ๑๐๐ และ ๒๐๐ ตามลําดับ รวมทัง้สิ้น ๑,๐๐๐ ตน
ครั้งเมอ่ พระพุทธองค์เสด็จนาเนินไปถึงที่อยู่ของ "อุจจาระสปะ" ผูเปนพี่ใหญ ณ ที่พระพุทธ-องค์ไดโ้รงอาศัยปฏิหาริย์ ๓ อันประกอบดวย ๑. อิทธิฏปฏิหาริย์ คอื การแสงดุทธีไดเป็นอัศจรรย์ ๒. อาเทสนาปฏิหาริย์ คอื การดักทางใหเห็นไปตามความเป็ นจรง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง อิทธิฏปฏิหาริย์ และ อาเทสนาปฏิหาริย์ ดงัน้นความโดยอิช้อนไป
พระพุทธองค์ทรงเริ่มต้นดวยภาเราะประทับอยูုိในโรงบัหนเขาไฟ ณ ที่นีมพฒานคผูมรถลามาอาศัย
ถมความพฒานคบังหลวนดาวเดน้ไฟและฟาไสพร่าพระอณ พระอณรองค์เข้เดโภสันสนูลยพญานาคใหดงลงในบาตร (อิทธิฏปฏิหาริย์) หลังจากน้น, ท้าวมาราทก้ั ท้าวสักกะ ท้าวสมมติพรหม ไดมานําเข้าพาเรพระพุทธองค์ ซึ่งทังหมดRejectอุในสายตาของภิษุทั้งปวง ต่อมาเมือ่ พฒิยูายญใหญ ชาวอัจฉันและมคต่างเตรียมเครือ่งสักการะแก่เหล่าภิษุ "อุจจาระสปะ" ได้เกิดวิจิตตรา เกรงว่าสักการะทั้งหลายจะเสื่อมไป จึงไม่อยากใหพระพุทธองค์เสด็จนาในวันรุ่งขึ้น ซึ่งพระพุทธองค์ทรงทราบ ถึงความคิดดังกวาเร้น จึงไดเสด็จไป (อเทสนาปฏิหาริย์) และเสด็จไปยังอุตตราฤๅว เพื่อบัญชามา (อิทธิฏปฏิหาริย์) นอกจากน้นีมเีหตุการณ์เสด็จไปยังอุตตราฤๅวดงัน้น ท่านความร้เป็นมีเหตุการณ์เสด็จไปแสวงหาต้นทุนด้ว ส่ง่งอันดลให้เหล่าภิษุสามารถผ่ฟืน กองไฟ และดับไฟฟัง ๕๐๐ ได้อย่างอัศจรรย์ และเหตุการณ์สุดท้ายที่ทำให้ "อุจจาระสปะ" ยอมนํกิฤีที่มีตลอด คือ เหตุการณ์ที่เกิดอูภัยใหญ เนล่าภิษุต่างออค มีเพียงพระพุทธองค์เท่านั้นที่งปน้ันจากอุภัย และเสด็จจงกรมอยู่ท่ามกลางแม่นำ่ ที่แหลกออกเป็ นทาง (อิทธิฏปฏิหาริย์)
จากเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ปกวาอธรรมอธิเยยมในพระวินัยปก มาตราฃ (ฉ.มหา ๔/๓๗๒-๓๗๗ ๓๘-๔๖ แปลมจร) ทำให้เขาเห็นว่า ปฏิหาริย์ ๓ มีสนับสําคญ้อย่างต่อการเผยแพร่พระพุทธศาสนา โดยพระพุทธองค์รง้มันต้นนี้ อิทธิฏปฏิหาริย์ และ อเทสนาปฏิหาริย์ ควบคูกนไปจนกระทั้่งทรงเห็นว่า "อราวัลลัสละ" คลายทจลงได มิติเสนมูลว่ากา่งการฟังธรรม เมือ้นพระพุทธองค์ จึงทรงอาศัย อนสาสนีปฏิหาริย์ แสดงธรรมแก่อภิลีกทั้ง ๓ พี่น้อง รวมถึงบริวารอีก ๑,๐๐๐ ฉนะครัง้บรรลุเป็นพระอรหันต์ในที่สุด จริงอยํแม้ อนสาสนีปฏิหาริย์ จะมีความสําคัญที่สุดและเป็ นแก่นของพระพุทธศาสนา แต่เราก็ไมอาจปฏิเสธความสําคัญในระดับรองลงมาของ อิทธิฏปฏิหาริย์ และ อเทสนาปฏิหาริย์ ได้โดยประการังปิย บงว
อุปสรรค