ข้อความต้นฉบับในหน้า
เนื่องจากธรรมะเป็นเรื่องลึกซึ้ง ยากที่ใคร ๆ จะเข้าใจตามได้ จนกระทั่งพุทธมารบราบอาราธนาว่า คนที่สามารถฟังธรรมของพระองค์แล้วรองตามได้นั้นมีอยู่ จึงทำให้พระองค์มีกำลังใจที่จะสอนธรรม
ต่อมาเทวตามารบราบทูลพระองค์ว่า ท่านอาฬารดาบสและอุทกดาบส ได้สิ้นบุญไปแล้วทั้งคู่ ทั้งหมดนี้หมายความว่า พระองค์ไม่มีพิษญาณแต่อย่างใด และแม้ว่าพระสัทพัญญาณที่พระองค์ทรงมีนั้น มีสภาพดั้นเทียนเพียงเท่านี้ไซร้ ใคร ๆ ก็มีสัทพญญาณกันได้ทุกคน
ท่านคุณานั้นนทะได้กล่าวไว้โต๊ประเด็นนี้ก็ตามไปว่า เรื่องนี้ท่านเคยชี้แจงและได้พิมพ์ในเอกสารไปแล้ว ท่านจึงทบทวนขึ้นอีกครั้งหนึ่งว่า คำว่า “พระสัทพญญาณ” นั้น ไม่ได้หมายความว่า พระพุทธเจ้าทรงมีญาณหยั่งรู้ทุกสิ่งอยู่ตลอดเวลา แต่ว่าจะเป็นไปตามพุทธประสงค์ หมายความว่า หาพระองค์ทรงสอดซ่ายพุทธญาณ เพื่อหยั่งทราบเรื่องราวแล้วพระองค์ก็จะทรงทราบสิ่งที่ทรงมุ่งประสงค์ได้ เปรียบเสมอนคนเราที่มีดวงตาอยู่ แต่ว่าไม่ได้มองตามชี้นดู ก็ย่อมมองไม่เห็นสิ่งต่าง ๆ เป็นธรรมดา ในกรณีนี้เราไม่อาจจะตำหนิเขาได้ว่า เขาไม่มีตา หรือว่าตามองไม่เห็น ดวงตา
ผู้อภิวุฒพระพุทธศาสนาในศรีลังกา ๑๑๑ www.kalyanamittra.org