ข้อความต้นฉบับในหน้า
จะมีมากสักเพียงใด ก็จะพัฒนาถึงจุดที่ดีที่สุด
ไม่ได้เลย หากไม่มีความดี ไม่มีศีลธรรม และใน
ทางกลับกันหากคนเรามีศีลธรรม ศีลธรรมจะ
ทำให้สามารถก้าวสู่ความสำเร็จในชีวิตที่ยิ่งใหญ่
อย่างมั่นคง”
เธอเป็นคนสนใจทางด้านพุทธศาสนาตั้งแต่
ยังเล็ก ๆ จนกระทั่งได้มารู้จักวัดพระธรรมกายและ
ทุ่มเททำกิจกรรมชมรมพุทธฯ ควบคู่กับการเรียน
“ในช่วงนั้น ตั้งแต่ตื่นนอนจนเข้านอน สุจะ
พยายามทำใจให้อยู่ในบุญตลอดเวลา ตื่นนอนตี ๕
...หากคนเรามีศีลธรรม ศีลธรรม
จะทำให้สามารถก้าวสู่ความสำเร็จ
ในชีวิตที่ยิ่งใหญ่อย่างมั่นคง...
ออกจากบ้าน 5 โมงเช้า มาถึงจุฬาฯ ๓ โมง จะ
มาที่ชมรมพุทธฯ ปัดกวาดเช็ดถูชมรม จัดดอกบัว
เตรียมอาสนะ สวดมนต์ทำวัตร เล่าธรรมะ พอ 6
โมงรีบเดินข้ามฟากไปคณะแพทย์เพื่อเข้าเรียน
พอตอนกลางวันก็กลับมาชมรม พอบ่ายโมงก็วิ่ง
ข้ามฟากไปเรียนต่อที่คณะแพทย์อีก บางวันกิน
ข้าวมื้อเดียว เพราะเวลาไม่ทัน แต่อาศัยที่ว่าสุดื่มนม
ดื่มปานะเอา พอถึงตอนเย็นเลิกเรียนแล้ว ก็วิ่ง
กลับมาชมรมอีก มาสวดมนต์นั่งสมาธิ ประชุม
งานบุญของชมรม กว่าจะออกจากชมรม ภารโรง
ก็ต้องมาคอยเตือนว่าจะปิดตึกแล้วทุกที และเมื่อ
กลับถึงบ้าน สุก็ต้องโทรชวนคนมาอบรมธรรม
ทายาทอีก ๕-๑๐ คน โทรจน ๕ ทุ่ม จากนั้นอ่าน
หนังสือเรียนก่อนจะเข้านอน สุต้องทำกิจกรรม
อย่างหนัก เรียนก็ต้องเรียนอย่างเต็มที่ แม้ในช่วง
สอบก็ต้องอ่านหนังสือจนแทบไม่ได้นอนติดต่อกัน
หลายคืน แต่พอถึงวันอาทิตย์ทีไร สุก็ไม่ขาดใน
การมาวัด ช่วงที่ทำกิจกรรมชมรมพุทธฯ สุคิดว่า
ทุกนาทีเป็นนาทีที่มีคุณค่า เป็นนาทีที่บุญเกิด
ตลอดเวลา ตอนนั้นยอมรับค่ะว่า...เหนื่อยมาก ถึง
แม้เหนื่อยกาย แต่ก็ไม่เคยเหนื่อยใจเลย
ครั้นเมื่อเรียนจบ สุจะต้องไปใช้ทุนนักเรียน
แพทย์ถึงจังหวัดสกลนครและปราจีนบุรี แม้ระยะ
ทางจะไกลขึ้น การเดินทางมาวัดก็ค่อนข้าง
ลำบากขึ้น เพราะไม่สะดวกเรื่องรถ สุก็ไม่เคยขาด
การมาวัดวันอาทิตย์เลย หรือบ่อยครั้งที่ต้องทำงาน
ตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันเสาร์ และต้องอยู่เวรทำให้
อดนอนติดต่อกันหลายคืน แต่เมื่อถึงวันอาทิตย์
ก็ต้องมาวัด คือไม่ว่าจะไปทำอะไรก็ตาม จะถือ
เอาวันอาทิตย์ไว้เป็นหลัก ว่ายังไงก็ต้องมาวัด
และบุญจากการทุ่มเทในการมาวัดอย่างนี้นี่เองทำให้
สุเป็นคนที่สามารถหาทรัพย์มาได้ง่าย ๆ และ
ทุกอย่างในชีวิตก็เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น
๑๖