ข้อความต้นฉบับในหน้า
สมาธิทำให้เย็นลง รู้จักอดทนรอคอยมากขึ้น
ยอมรับความเป็นจริงของชีวิต
และมีแง่มุมในการมองโลกและชีวิตที่ลึกซึ้งกว่าเดิม
ในบรรดาสัมมาอาชีวะ ซึ่งเป็นที่ยกย่องของ
สังคม อาชีพแพทย์นับเป็นอันดับต้นๆ ในการยอมรับ
เพราะได้ชื่อว่า เป็นผู้เยียวยาความทุกข์ทั้งใจและ
กายของผู้ป่วย นอกจากนี้ก็เป็นที่ทราบกันดีว่า
กว่าจะได้แพทย์หนึ่งคนที่มีความรู้ ความสามารถ
เพียงพอจะรักษาคนไข้ได้ ต้องผ่านกระบวนการที่
หนักหนาสาหัสมากมาย นับตั้งแต่วันแรกที่สอบเข้า
สู่การเรียนเข้มข้นหนักหน่วงที่เพิ่มขึ้นทุกๆ ปี จนถึง
วันสุดท้ายของการรับพระราชทานปริญญาบัตร
แม้เมื่อมาประกอบอาชีพแล้ว ก็ยังต้องศึกษา
หาความรู้ในวิทยาการใหม่ๆ เพื่อพัฒนาตนเองให้
ก้าวทันโรค จนสามารถรับมือกับโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ
ได้อย่างไม่มีวันจบ
ช่างภาพประจำรายการ “เดินไปสู่ความสุข” เป็นคนแนะนำ “อาจารย์หมอ” มาให้เรา
ไปสัมภาษณ์ เพียงแค่ประโยคเดียวที่ว่า “คุณหมอเก่งมาก อายุแค่สี่สิบต้นๆ ก็เป็นศาสตราจารย์
แล้ว” สามารถจุดความสนใจจนทำให้เรารีบติดต่อไปยังผู้ประสานงานประจำทีมซึ่งเป็นน้องสาว
ของคุณหมอทันที
เมื่อได้ทำการค้นคว้าข้อมูลจากเว็บไซต์ และแฟ้มที่ทีมงานรวบรวมมาให้ ก็นึกออกทันทีว่า
ได้เคยเห็นตัวจริงของคุณหมอมาแล้วหลายครั้ง ในวันที่ท่านมานั่งสมาธิในห้องปัญญา และ
จากข้อมูลที่ได้รับทำให้ตระหนักว่า ทีมงานของเรากำลังจะได้รับเกียรติให้ถ่ายทอดเรื่องราว
ของคนเก่งและดี เป็นคุณหมอระดับศาสตราจารย์ผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าของประเทศ
...ไม่ธรรมดาจริงๆ งานนี้
จากแฟ้มประวัติระบุว่า ศ.นพ. ชัยรัตน์ นิรันตรัตน์ จบการศึกษาจากคณะแพทยศาสตร์
ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และได้ศึกษาเพิ่มเติมจนได้รับวุฒิบัตรผู้เชี่ยวชาญทางด้าน
หู คอ จมูก ปัจจุบันดำรงตำแหน่งหัวหน้าภาควิชาจักษุ ศอ นาสิก ลาริงซ์วิทยา คณะแพทยศาสตร์
มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ท่านมีความสนใจและเชี่ยวชาญการรักษาโรคนอนกรนเป็นพิเศษ