การพิสูจน์ความจริงในวัดพระธรรมกาย วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน ตุลาคม พ.ศ.2549 หน้า 51
หน้าที่ 51 / 84

สรุปเนื้อหา

ในเรื่องเล่าของคุณนวลศรี อ่วมพินิจ เป็นเจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่มีความกังวลเกี่ยวกับวัดพระธรรมกาย และความเชื่อที่ว่าไปวัดนี้จะรวย ด้วยประสบการณ์ด้านการศึกษาและเหตุการณ์ในอดีตที่ทำให้เธอหลงผิดเกี่ยวกับวัดนี้ แม้ว่าเธอจะเริ่มต้นด้วยการแอนตี้วัด แต่เมื่อเห็นลูกสาวสนใจและเข้าวัด ทำให้เธอเริ่มติดตามจนได้พูดคุยกับผู้บวช ซึ่งทำให้เห็นถึงเหตุผลในการตัดสินใจของคนที่บวชเพื่อดูแลพ่อแม่ และให้ความสำคัญกับการทำบุญอย่างแท้จริง โดยไม่ต้องกังวลกับการถูกหลอกหรือล้างสมอง

หัวข้อประเด็น

-ความเชื่อและความจริง
-การบวชในวัดพระธรรมกาย
-การศึกษาและการพัฒนาตนเอง
-สังคมและวัฒนธรรมไทย
-การดูแลครอบครัว

ข้อความต้นฉบับในหน้า

๖ ปีกับการพิสูจน์ความจริง คุณนวลศรี อ่วมพินิจ เจ้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ดร.จำลักษณ์ ศรีนาคเรือง (ลูกสาว) ปริญญาเอกทางด้านวิศวเคมี ไปวัดนี้แล้วรวย.. ซึ่งเป็นไปไม่ได้ แถมพระที่นี่มีแต่พวกมีการศึกษา แต่บวชแล้วไม่ยอมสึก ไม่รู้จักเลี้ยงดูพ่อแม่ ไม่ยอมเอาความรู้ ไปพัฒนาบ้านเมือง...ใครมาวัดนี้ก็ต้องทำบุญจนหมดตัว!!! ตัวเอง...เคยเป็นนักศึกษาในเหตุการณ์ ๑๔ ตุลา เลยทำให้ฝังใจกลัวต่อเหตุการณ์ครั้งนั้นมากๆ พอมารู้ว่าวัดพระธรรมกาย มีนิสิตนักศึกษามากันมากขนาดนี้ เลยทำให้ปักใจเชื่อว่า วัดพระธรรมกายต้องเป็นคอมมิวนิสต์แน่ๆ คิดว่าวัดซ่องสุมนักศึกษาล้างสมองเพื่อ ทำอะไรกันสักอย่าง ส่วนเพื่อนที่ชอบมาชวนเราให้ไปวัดนี้ ก็พูดแต่ว่า ไปวัดนี้แล้ว รวย...ไปแล้วรวย ยิ่งฟังก็ยิ่งแอนตี้วัด เพราะดูไม่มีเหตุผลที่จะเป็นไปได้ หนำซ้ำมีแต่ คนพูดว่า ใครมาวัดนี้ ก็ต้องทำบุญจนหมดตัว..... ด้วยความที่แอนตี้วัดมากๆ ทำให้ไม่เคยคิดจะมาวัดนี้เลย แม้ใครจะชวนขนาดไหนก็ไม่ไป เด็ดขาด คิดอย่างนี้จนกระทั่งถึงช่วงที่เพื่อนของลูกสาวที่ทำวิทยานิพนธ์ปริญญาโท ร่วมกัน ได้ไปบวชธรรมทายาทช่วง Summer ที่วัดนี้ พอบวชแล้วก็ไม่ยอมสึก บอก ว่าจะบวชตลอดชีวิต ลูกสาวจึงมาวัด เพื่อมาตามให้เพื่อนสึกออกไปเรียนปริญญาโท ให้จบ พอมาตามหลายครั้ง พระเพื่อนรูปนี้ ก็ใช้เหตุผลต่างๆ นานา ชวนจนลูกสาว เราเข้าคอร์สมานั่งสมาธิที่วัดนี้ ด้วยความเป็นแม่ ทำให้เราเป็นห่วงลูกมาก...กลัวจะ ถูกหลอกไปล้างสมอง และที่น่ากลัวมากไปกว่านั้นคือ...ช่วงนั้นวัดโดนโจมตีอย่าง หนักจากสื่อทุกชนิด แล้วเราก็เชื่อตามข่าวด้วย ด้วยเหตุนี้จึงวิ่งรถเข้าวัดมาตามลูก และก็มาหาพระเพื่อนของลูก เพื่อไปบอกให้ท่านสึกออกมา โดยคิดว่าท่านคงโดนวัด ล้างสมองไปแล้ว เมื่อเจอท่านก็ถามท่านว่า ตัดสินใจแบบนี้ ไม่ห่วงพ่อแม่ที่บ้าน หรือ? ใครจะดูแลพ่อแม่? ท่านก็ตอบกลับว่า... “ก็เพราะเป็นห่วงพ่อแม่ ทำให้ต้องตัดสินใจแบบนี้ เพราะหากสึกออกไปดำเนินชีวิตแบบ ชาวโลก ก็ต้องไปทำงาน แต่งงาน เลี้ยงลูก จนไม่มีเวลามาดูแลพ่อแม่อยู่ดี สู้อยู่อย่างนี้ บวชเอาบุญให้ท่านมากๆ เป็นลูกที่สามารถเป็นที่พึ่งทางใจให้ท่านได้จริงๆ สักคน เมื่อ
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More