ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2553 ช่วงที่ 1.1พิธีจุดโคมวิสาขประทีปเป็นพุทธบูชา ครั้งแรกณ ดินแดนพุทธภูมิเพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาในประเทศอินเดีย ให้กลับมาเฟื่องฟูเหมือนในสมัยพุทธกาลเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาการจัดงานลอยโคมครั้งประวัติศาสตร์ในดินแดนพุทธภูมิครั้งนี้ ทำเอาหัวใจชาวอินเดียต้องพองโต เมื่อได้เห็นพุทธบุตรสิบกว่ารูป และการตอบรับอย่างล้นเหลือประดุจดั่งเป็นวันที่รอคอยมานานนับ 2,500กว่าปีหลังพุทธปรินิพพาน ชาวพุทธและเพื่อนต่างศาสนิกได้หลั่งไหลมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง ตัวอย่างเช่น ชายคนหนึ่ง อายุประมาณ 60ปี เมื่อทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ที่ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับงานนี้ ก็ออกทางไกลถึง 200กิโลเมตร ทั้งนั่งรถไฟ รถสามล้อ รถเมล์ และเดินเท้า เป็นเวลากว่า 12ชั่วโมง จนมาถึงสถานที่จัดงานเป็นเวลาสามทุ่มก่อนเช้าวันงาน(รูปบน) คุณวิกรม พัชพูติ (ซ้าย) และคุณพ่อรัฐมนตรีบาบันเรา พัชพูติ (ขวา)มาดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่อีกครั้ง เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์แบบการจัดงานครั้งนี้ มีขึ้นที่มหาวิทยาลัยปริกัมมะ เขตเมืองแคสตี้ ซึ่งมี คุณวิกรม พัชพูติ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยเป็นพ่องานด้านสถานที่ ซึ่งก่อนเริ่มงาน คุณวิกรมและคุณพ่อ(รัฐมนตรีบาบันเรา พัชพูติ)ได้เดินตรวจงาน ดูความพร้อมของสถานที่ด้วยตัวท่านเอง เป็นที่สังเกตว่า ผู้มาร่วมงานส่วนใหญ่ต่างใส่ชุดสีขาวเหมือนนัดกันมา คุณวิกรมบอกเคล็ดลับว่า ตอนประชาสัมพันธ์ได้แจ้งว่า ถ้าไม่ใส่ชุดขาวจะไม่ให้เข้างานสาธุชนเดินลัดทุ่งไร่อ้อยเพื่อมาร่วมพิธีจุดโคมวิสาขประทีปการเข้าพื้นที่จะมีการแจกหมายเลขที่นั่งเพื่อสร้างความเป็นระเบียบร้อยเมื่อถึงช่วงพิธีกรรม แม้จะมีคนมากมายอยู่ในพื้นที่ แต่เมื่อถึงเวลานั่งสมาธิ(Meditation)พวกเขากลับเงียบได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ จนคนอินเดียถึงกับพูดว่า นี่แหละ...สันติภาพที่แท้จริงได้เกิดขึ้นตอนนี้แล้ว เพราะใครๆต่างก็รู้ว่าอินเดียไม่เคยเงียบ แต่พอทำสมาธิพวกเขาสามารถทำร่วมกันได้อย่างสงบถ่ายภาพประวัติศาสตร์การจุดโคมวิสาขประทีปครั้งแรกในประเทศอินเดียเจ้าหน้าที่ไทยในชุดกลมกลืนกับชาวอินเดียผู้ร่วมงานชาวอินเดีย นั่งเป็นแถวอย่างมีระเบียบเรียบร้อยชาวอินเดียหลับตาทำสมาธิด้วยความสงบอย่างน่าอัศจรรย์ใจมาถึงช่วงเวลาแห่งความประทับใจ นั่นคือ การจุดโคมลาน พร้อมกับบทเพลงแสงเทียนภาษาฮินดี ทุกคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า สวยงามมากๆ จนกลายเป็นไฮไลท์ของงานนี้เลย แล้วต่อด้วยการปล่อยโคมลอย ทีมงานพบว่า ลมแรงมาก ไม่แน่ใจว่าจะปล่อยได้ไหม แต่ก็ตัดสินใจปล่อยโคมลอยชุดแรกไปก่อนห้าดวง อย่างกับเป็นโคมพิเศษ ทุกคนบอกว่า ถ้าคนนี้ทำได้ ฉันก็ต้องทำได้ ทุกคนจึงเฮโลกันมาจุดโคม เราจึงได้เห็นสปิริต ออฟ อินเดีย ว่าทุกคนมีใจจะมาร่วมกิจกรรม สุขขะกาดิเฮ่จริงๆคณะประธานในพิธีอธิษฐานจิตก่อนจุดโคมเอกทะเลโคมครั้งแรกในอินเดียกับพระจันทร์เต็มดวงในคืนวันวิสาขบูชาโคมลอยสู่ท้องฟ้าดินแดนพุทธภูมิเบื้องหลังการทำงาน ต้องบอกว่า สู้กันจนวินาทีสุดท้าย แม้กระทั่งแขกวีไอพีทั้งหลาย อยู่บนเวทีแล้วก็ยังสั่งงาน ประสานงานเพื่อจะนำองค์พระองค์ใหญ่ของคุณครูไม่ใหญ่ออกมาให้ได้ แม้ว่าสุดท้ายจะไม่ได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้เราเห็นถึงความตั้งใจและความทุ่มเทของพวกเขา แม้กระทั่งตอนที่อ่านสาสน์ของพระเดชพระคุณหลวงพ่อ โดยประธานสงฆ์อ่านเป็นภาษาอังกฤษก่อน จากนั้นจะแปลเป็นภาษาฮินดี โดย คุณซีม่า สาโรช ซึ่งเธอได้นำมาซ้อมอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ จนคุณแม่ คือ คุณกัลปาน่า สาโรช มาเห็น แล้วถามว่า...“ซีม่า...เธอกำลังทำอะไรอยู่” เธอตอบว่า “กำลังซ้อมอ่านสาสน์ของหลวงพ่ออยู่”คุณกัลปาน่า สาโรช บอกว่า “ใครบอกว่านี่คือหน้าที่ของเธอ มันเป็นหน้าที่ของฉันต่างหาก”คุณกัลปาน่า สาโรช กล่าวว่า งานนี้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว แต่ครั้งหน้าจะต้องยิ่งอภิมหาความสำเร็จ ส่วน คุณวิกรมได้กล่าวว่า “ขอขอบคุณมูลนิธิธรรมกาย ปีหน้าผมอยากจัดงานอย่างนี้อีก ขอให้มูลนิธิธรรมกายมาช่วยจัดทุกครั้ง และตั้งใจที่จะขอพระภิกษุมาแนะนำสมาธิอย่างเป็นทางการที่ประเทศอินเดีย เพื่อให้กลุ่มนักศึกษาของผมได้นั่งสมาธิ หนึ่งชั่วโมงทุกวันไม่ให้ขาดเลย”คุณวิกรมกล่าวขอบคุณมูลนิธิธรรมกาย และกล่าวว่าต้องการจัดงานนี้ทุกปีในที่สุด แม้งานจะเสร็จแต่ความสำเร็จไม่จบลงง่ายๆ ขณะที่ทีมงานก้มหน้าก้มตาเก็บงานกัน คุณวิกรมก็มาแจ้งว่า ตอนนี้งานลอยโคมดังไปทั่วประเทศอินเดียแล้ว ข่าวได้เผยแพร่ออกไปทางทีวีแห่งชาติ และบนหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ผู้คนตื่นเต้นกันใหญ่ ซึ่งต้องขอยกนิ้วให้บรรดาสต๊าฟซึ่งมีทั้งชาวพุทธและฮินดูที่ได้ทุ่มเทจนงานสำเร็จทุกคนสัมผัสได้ว่า ชาวอินเดียซาบซึ้งใจอย่างมาก บางคนถึงกับน้ำตาไหลเมื่อมีโอกาสเห็นพระภิกษุ และได้กราบพระภิกษุสงฆ์ที่พื้น พร้อมกับพูดเป็นภาษาที่แปลได้ว่า “พระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่งของเรา พระธรรมเป็นที่พึ่งของเรา พระสงฆ์เป็นที่พึ่งของเรา” สาธุชนชาวพุทธชาวอินเดียที่มาร่วมงาน ก้มลงกราบพระภิกษุที่พื้นทันทีที่เห็นก่อนที่จะเดินทางกลับ ขณะที่รถของประธานสงฆ์ คือ พระอาจารย์ไพบูลย์ ธัมมวิปุโล กำลังเคลื่อนตัว ชาวบ้านที่ขายผลไม้อยู่แถวนั้น ก็รีบคว้าผลไม้และรีบวิ่งตามรถมา ทีมงานก็นึกว่า สงสัยต้องควักเงินแล้ว พอมาถึง ก็ถามเขาว่าราคาเท่าไหร่ เขาบอกว่า “ไม่ใช่...ฉันไม่ได้มาขาย แต่ฉันอยากจะถวายพระ” ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากแสดงว่าพวกเขาอยากเห็นพระ อยากรู้จักพระพุทธศาสนามากกว่าที่เป็นอยู่ การมาจัดงานครั้งนี้ จึงเป็นดั่งของขวัญที่ล้ำค่า นำความปลื้มปีติใจให้เกิดขึ้นอีกครั้งบนแผ่นดินพุทธภูมิของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าชม Video Scoop พิธีจุดโคมวิสาขประทีปเป็นพุทธบูชา ครั้งแรก ณ ดินแดนพุทธภูมิ
http://goo.gl/QZIRI