ข้อความต้นฉบับในหน้า
ในขณะสิ้นลมหายใจก็ได้ไปสู่สุคติภพ ใครทำบาปอกุศลหรือ
มีจิตเศร้าหมองในขณะสิ้นลมหายใจ ก็ต้องไปสู่ทุคติภพ
สมกับพุทธวจนะที่ว่า
“จิตเต สงฺกิลิฏเฐ ทุคคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตเศร้าหมองแล้ว ทุคติเป็นอันหวังได้
จิตฺเต อสงฺกิลิฏเฐ สุคติ ปาฏิกงฺขา
เมื่อจิตไม่เศร้าหมองแล้ว สุคติเป็นอันหวังได้"
คุณยายท่านหนึ่งชื่อ เทียมตา เจริญสุข ชีวิตของท่าน
ที่ผ่านมาสร้างบุญกุศลมาตลอด
ใส่บาตรพระ ทำบุญทอดกฐิน
ทอดผ้าป่า ถวายสังฆทาน ตั้ง
แต่เป็นสาวเรื่อยมาไม่เคยขาด
ปฏิบัติดีมาตลอด แต่ในช่วง
บั้นปลายชีวิต คุณยายเกิดความ
คิดน้อยใจอยู่บ่อยๆ ว่าลูกหลาน
ไม่ดูแล อุตส่าห์เลี้ยงมาจนโตแล้ว
เอาแต่ทํามาหากินไม่ดูแลแม่เลย
จิตวนเวียนอยู่กับความน้อยเนื้อ
คุณยายเทียมตา เจริญสุข
ต่ำใจอย่างนี้ จนกระทั่งคิดสั้นไปผูกคอตาย
เมื่อตายในขณะที่จิตเศร้าหมอง กายละเอียดก็
วนเวียนอยู่ ณ ที่นั้น แม้ตายแล้วกายละเอียดก็ยังมีเชือก
ที่เกิดขึ้นด้วยอำานาจของบาปกรรมคล้องคออยู่ พอครบ ๗
วันในเมืองมนุษย์ เจ้าหน้าที่ ก็มารับตัว พอมาถึงก็ดึงเชือก
ที่คล้องคอคุณยาย แล้วลากไปทันที คุณยายก็ดิ้นรนและ
ร้องว่า “มาทำร้ายฉันทำไม” แต่ยิ่งดิ้น ยิ่งร้อง ลิ้นก็ยิ่งจุกปาก
แล้วก็ถูกลากต่อไป จนกระทั่งเข้าสู่มิติของยมโลก
สภาพบรรยากาศในยมโลกนั้นมืด แต่ยังมืดน้อยกว่า
นรกขุมบริวาร (อุสสทนรก) และมหานรก ยมโลกมีเจ้าหน้าที่
ถืออาวุธน่าสะพรึงกลัวมาก และน่าสยดสยอง เมื่อถึงคราว
ที่ผู้ตายถูกนำตัวเข้าไปรับการพิพากษา ก็จะมีพญายมคอย
พิจารณาบุญ-บาปของผู้ที่ตายนั้น ว่าจะให้ขึ้นสวรรค์หรือ
ต้องรับโทษทัณฑ์ในนรก (เมื่อมนุษย์ตายลงไม่ได้มีผู้มารับ
ตัวไปพิจารณาบุญ-บาปเสมอไปทุกราย ถ้าผู้ใดทำบุญหรือ
บาปไว้มากๆ กำลังบุญหรือบาปนั้น จะดึงดูดไปสู่ภพภูมิที่
เหมาะสมเอง แต่ถ้าบุญก็ทำบาปก็สร้างปะปนกันไป ใน
ขณะที่สิ้นชีวิตแล้วนึกถึงบุญไม่ออก ก็จะมีผู้มารับตัวไปสู่
ยมโลก เพื่อให้พญายมไต่ถาม ให้นึกถึงบุญที่ได้ทำมาเพื่อ
ช่วยให้พ้นจากนรกอีกครั้ง)
พญายม ได้ซักถามคุณยายท่านนี้ถึงสาเหตุการตาย
๑) เจ้าหน้าที่ เป็นยักษ์ประเภทหนึ่ง เรียกว่า กุมภัณฑ์ นุ่งผ้าหยักรั้งสีแดง นำกายละเอียด
ของผู้ตายลงไปสู่ยมโลก