ข้อความต้นฉบับในหน้า
6).
พระภิกษุสงฆ์ซึ่งเป็นพุทธสาวก จำนวน
๑,๒๕๐ รูป มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย
๒. พระพุทธสาวกเหล่านี้ล้วนเป็นเอหิภิกขุ
อุปสัมปทา คือ เป็นผู้ที่พระพุทธองค์ทรงประทาน
การอุปสมบทด้วยพระองค์เอง
๓.
พระภิกษุสงฆ์ทั้งหมดเป็นพระอรหันต์
วันนั้นเป็นวันเพ็ญ เดือนมาฆะ คือ
พระจันทร์เสวยมาฆฤกษ์
พร้อมกันนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ทรง
แสดงโอวาทปาติโมกข์ เพื่อประกาศอุดมการณ์
หลักการ และวิธีการ ในการเผยแผ่พระพุทธศาสนา
ที่ชาวพุทธจะได้ยึดถือเป็นแม่บทในการเผยแผ่
พระพุทธศาสนา และสร้างสันติภาพโลก อันจะนำ
ไปสู่การหลุดพ้นจากทุกข์ในสังสารวัฏ คือ การได้
บรรลุมรรคผลนิพพาน ได้เข้าถึงเอกันตบรมสุข
โอวาทปาฏิโมกข์ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แบ่ง
ออกเป็น ๓ ตอน ดังนี้
ตอนที่ ๑ อุดมการณ์ของชาวพุทธ
อุดมการณ์ข้อที่ ๑ ขนฺตี ปรม ตโป ตีติกขา
ความอดทน คือ ความทนทานเป็นตบะอย่างยิ่ง
คนเราเมื่อเกิดมาแล้วต้องอดทน อดทนต่อความ
ลำบากตรากตรำ อดทนต่อทุกขเวทนา อดทนต่อ
ความกระทบกระทั่ง และอดทนต่ออำนาจกิเลส
อุดมการณ์ข้อที่ ๒ นิพพาน ปรม วทนฺติ พุทธา
พระพุทธเจ้าทั้งหลายกล่าวพระนิพพานว่าเป็นเยี่ยม
ทรงสอนให้อดทนในการปฏิบัติธรรมเพื่อปราบกิเลส
ให้หมดสิ้นไป แล้วจะได้ไปเสวยสุขในพระนิพพาน
อันเป็นสุขล้วนๆ
อุดมการณ์ข้อที่ ๓ น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี
สมโณ โหติ ปร์ วิเหฐยนฺโต บรรพชิตผู้ฆ่าสัตว์อื่น
เบียดเบียนสัตว์อื่นไม่ชื่อว่าสมณะ หมายความว่า
ผู้สงบหรือผู้ปรารถนาจะไปนิพพานต้องไม่ฆ่า
ไม่เบียดเบียน ต้องเป็นผู้มีจิตประกอบด้วยเมตตา