โรคย้ำคิดย้ำทำและความรัก วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 หน้า 61
หน้าที่ 61 / 76

สรุปเนื้อหา

บทความนี้สำรวจความเชื่อมโยงระหว่างโรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) กับความรู้สึกคิดถึงคนรัก โดยมีการวิเคราะห์ระดับซีโรโทนินในเลือดที่ต่ำกว่าปกติในทั้งสองกลุ่ม นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับคำสอนจากพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเกี่ยวกับความรักและความทุกข์ การปฏิบัติให้จิตใจใสเป็นสิ่งสำคัญเพื่อหลีกเลี่ยงความกังวลที่เกิดจากความรักที่มากเกินไป ซึ่งอาจทำให้เราไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความสุข หัตถาแห่งความรักที่มาพร้อมกับความทุกข์ควรได้รับการปล่อยวางเพื่อให้มีใจที่ใสสะอาดยิ่งขึ้น และท้ายที่สุด ผู้อ่านได้รับคำถามเพื่อการไตร่ตรองเกี่ยวกับความรักและการเลือกในชีวิต

หัวข้อประเด็น

-โรคย้ำคิดย้ำทำ
-ความรัก
-ความทุกข์
-พุทธศาสนา
-การปฏิบัติธรรม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

หมกมุ่นอยู่กับความคิดถึงคนรักวันละหลายชั่วโมง มีลักษณะทางเคมีที่คล้ายกับคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ คือ ทั้งสองกลุ่มมีระดับซีโรโทนินในเลือดต่ำกว่า กลุ่มที่ไม่มีอาการทั้งสองถึงร้อยละ O น่าแปลก! ที่ผลของการศึกษาในครั้งนี้ มา สอดคล้องกับพุทธดำรัสเมื่อ ๒,๕๐๐ กว่าปีมาแล้ว อย่างอัศจรรย์ สอดคล้องอย่างไร? พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเคยตรัสไว้ว่า “กาม ทั้งหลายเกิดจากความดำริ” คือ อันที่จริงแล้ว วัตถุกามทั้งหลาย เช่น สาวสวย หนุ่มหล่อ อาหาร อร่อย ฯลฯ มันก็มีอยู่คู่โลก แต่เราไปคิดปรุงแต่งว่า ดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ คิดไปคิดมา คิดซ้ำคิดซาก สิ่งเหล่านี้ก็เลยมามีอิทธิพลต่อใจของเรามากขึ้น ทุกที ยิ่งคิดก็ยิ่งฟุ้งซ่าน ถ้าเราไม่คิดวนเวียนอยู่แต่ เรื่องเหล่านี้ มันก็จะไม่สามารถมามีอิทธิพลเหนือ เราได้ ทีนี้ลองมารู้จักกับ โรคย้ำคิดย้ำทำ กันว่า คืออะไร โรคย้ำคิดย้ำทำ (Obsessive Compulsive Disorder) หรือ OCD เป็นอาการทางประสาท อย่างหนึ่ง ที่เกิดขึ้นได้กับคนทุกวัย โดยมีอาการ ย้ำคิด หรือทำเป็นอาการเด่น แต่ส่วนใหญ่จะ พบทั้งสองอาการ ตัวอย่างเช่น การตรวจดูว่าปิด แก๊สแล้วหรือยังซ้ำๆ นับ ๑๐ ครั้ง ความกังวลว่า มือสกปรก ล้างมือวันละ ๒๐-๓๐ ครั้ง เป็นต้น คนปกติก็อาจมีความคิดหรือพฤติกรรรมเช่นนี้ได้ แต่ไม่มากจนกระทบกระเทือนต่อชีวิตประจำวัน แต่สำหรับผู้ป่วย OCD อาการเหล่านี้ก่อให้เกิด ความทุกข์ทรมานอย่างมาก ผู้ป่วยต้องเสียเวลาไป กับความคิด หรือพฤติกรรมในแต่ละวันค่อนข้างมาก อย่างน้อยก็วันละ ๑ ชั่วโมง จากบางรัก แล้วก็ไปบางจาก คราวนี้คง มาถึง..บางอ้อ กันแล้ว เพราะคนที่เป็นโรคย้ำคิดย้ำทำ ก็เกิดจาก การดำริเหมือนกับคนที่กำลังมีความรัก นี่แหละถึง ได้กล่าวว่า ผลการทดลองนี้สอดคล้องกับพุทธดำรัส เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ถ้าใครคิดจะบรรเทาไข้ใจ ก็ให้เปลี่ยนเรื่องดำริซะ หันไปคิด “สัมมา อะระหัง” แทนดีกว่า จะได้เป็นบุญเป็นกุศลแก่ชีวิตสืบต่อไป เรื่องรักๆ ใคร่ ๆ นี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ยังเคยตรัสไว้ว่า คือ “ความทุกข์” ผู้ใดมีความรักมาก ก็ทุกข์มาก ผู้ใดมีความ รักน้อยก็ทุกข์น้อย ผู้ใดไม่มีสิ่งอันเป็นที่รัก ผู้นั้นก็ ไม่มีความทุกข์ ไม่มีความเศร้าโศก ความรัก และสิ่งที่เรารัก ต่างก็ตกอยู่ในกฎ ของไตรลักษณ์ คือ มีการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป ในที่สุด ถ้าเรายึดมั่นถือมั่นมาก คนที่ต้องปวดร้าว จะเป็นใคร ถ้าไม่ใช่เรา ในฐานะที่เป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เราทราบกันดีว่า จะต้องพยายามประคับประคอง ใจของเราให้ใสอยู่เสมอ เพราะทุกนาที คือ ชีวิต ของเรา เราอาจจากโลกนี้ไปเมื่อไรก็ได้ ถ้าเรามี ความรัก (ก็ความทุกข์นั่นแหละ) แล้วไม่รู้จักปล่อยวาง กังวลถึงเรื่องนี้มากไป อาจจะทำให้เราไปไม่ได้ไกล เพราะความกังวลจะเหนี่ยวรั้งเราไว้ ทำให้ใจเราไม่ ใสมากพอ ยิ่งถ้าหากใครกำลังทุกข์ทรมานเพราะ ความรักในช่วงที่ต้องทำศึกชิงภพ ทายได้เลยว่า “คุณแพ้สงครามครั้งนี้แน่นอน” เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็อยากจะฝากคำถามไว้ให้คิด กันเล่นๆ ว่า ระหว่างตัวเอง กับคนอื่น คุณจะรักใครมาก กว่ากัน ระหว่างใจใส กับใจหมอง คุณจะเลือกอะไร คุณลิขิตได้ D
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More