การพัฒนาตนเองและการทำบุญ วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน กุมภาพันธ์ พ.ศ.2550 หน้า 38
หน้าที่ 38 / 76

สรุปเนื้อหา

บทความนี้พูดถึงความสำคัญของการทำบุญและการศึกษาธรรมะเพื่อลดความอิจฉาและพัฒนาตนเอง โดยเสนอแนะ 4 วิธีพัฒนาความรักและความสัมพันธ์กับผู้อื่น ได้แก่ การให้ทาน, การพูดจาดี, ความรู้ที่ Sharing, และความจริงใจ การเรียนรู้และปฏิบัติตามคำสอนของหลวงปู่จะช่วยให้ชีวิตดีขึ้นและลดทิฐิที่อาจก่อให้เกิดอาการอิจฉา.

หัวข้อประเด็น

-การทำบุญ
-การพัฒนาตนเอง
-การศึกษาธรรมะ
-การสร้างเสน่ห์ในความสัมพันธ์

ข้อความต้นฉบับในหน้า

ถ้าครั้งใดใจคิดแวบไป ชักเริ่มจะอิจฉาชาวบ้านที่ เขาดังกว่าเรา เด่นกว่าเรา ดีกว่าเราขึ้นมาละก็ รีบ ติดเบรกเสียนะ โดยเตือนตัวเองว่า ที่เรายังตกต่ำอยู่อย่างนี้ เพราะว่าชาติที่แล้ว รวมทั้งชาตินี้ด้วย เราสั่งสม คุณงามความดีมาน้อยไป เตือนตัวเองได้อย่างนี้ หนทางที่จะแก้ไขให้ ดีก็มีมากขึ้น เพราะจับทิศทางถูกว่า เมื่อเรามีบุญน้อย ก็ต้องหาวิธีเติมบุญ คือ ในเรื่องของการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานใน หน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากหมู่คณะ หรือจาก ครอบครัว จากงานเลี้ยงชีวิตเราเองก็ตาม นอกจาก ทำให้สุดฝีมือแล้ว ยังต้องปรับปรุงให้ดียิ่งๆ อีกด้วย ขึ้นไป แต่ในกรณีที่ถึงจะปรับปรุงอย่างไรก็ยังสู้ไม่ได้ อยู่นั่นเอง อย่างนี้ต้องรีบเข้าไปกราบขอความรู้จาก เขา ซึ่งจะทำให้เราย่นระยะเวลาทั้งในการปรับปรุง ฝีมือและเวลาที่ไม่ต้องไปตกนรกได้ตั้งเยอะ จากนั้นก็หันหน้าเข้าหาวัด มาศึกษาธรรมะ ปฏิบัติธรรมให้ยิ่งๆ ขึ้นไป ก่อนหน้านี้ไม่เคยทำบุญ ทำทาน ไม่เคยรักษาศีล ไม่เคยนั่งสมาธิ ต่อแต่นี้ รีบไปทํากัน ด้วยการศึกษาจากหลวงปู่ หลวงพ่อ ว่าทำ สิ่งเหล่านี้แล้วดีอย่างไร เช่น การทำทานมีผลทำให้ รวย การรักษาศีลมีผลทำให้สวย การเจริญสมาธิ ภาวนามีผลทำให้เฉลียวฉลาด มีสติปัญญา พอจับหลักตรงนี้ได้ ถ้าอยากจะเพิ่มเติม ความรู้อะไรเป็นรายละเอียดให้ยิ่งขึ้นไป ก็ค่อยๆ ศึกษาจากหลวงปู่ หลวงพ่อท่าน ยกตัวอย่าง เรามีอะไรต่ออะไรพร้อมแล้วแต่ ที่ไปอิจฉาเขานั้น เพราะว่าเราไม่มีบริวาร เวลาไป ไหนมาไหน ทั้งๆ ที่ รวยก็แสนรวย สวยก็แสนสวย แต่ว่าใคร ๆ ก็ไม่รัก แล้วแทนที่จะถามว่าทำไมใครๆ ถึงไม่รักเรา กลับเที่ยวไปโกรธไปเคืองเขา หรือว่าเที่ยวไปอิจฉา คนที่มีคนรักเต็มบ้านเต็มเมือง ต้องมองและตั้ง คำถามใหม่ให้เป็น คือ แทนที่จะตั้งคำถามว่าทำไม เขาไม่รักเรา ก็ตั้งคำถามเสียใหม่ว่าเราไม่น่ารัก ตรงไหน แล้วเริ่มสำรวจตรวจสอบตัวเอง ถ้าหาไม่เจอจริงๆ ไปถามหลวงปู่ หลวงพ่อ ท่านดูก็ได้ แล้วเราจะได้รู้ว่าวิชาเจ้าเสน่ห์ ซึ่ง พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้ไว้นั้น มีอยู่ ๔ ข้อ ด้วยกัน คือ ๑. หมั่นให้ทาน คำว่า “ทาน” ในที่นี้ ไม่ได้ หมายถึงการตักบาตรกับพระภิกษุสามเณร ทานใน ที่นี้ หมายถึง มีอะไรก็ปันกันกิน ปันกันใช้ รวมทั้ง ปันกันดังด้วย ๒. ปิยวาจา เวลาพูดจากับใครก็พูดด้วย ถ้อยคำที่ไพเราะเพราะสิ่งที่จะให้กำลังใจคนได้ดีนั้น ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่เพราะๆ ในทำนองเดียวกัน สิ่งที่จะทอนกำลังใจคน ก็ไม่มีอะไรเกินคำพูดที่ ระคายหูเช่นกัน ๓. อัตถจริยา คือ ความรู้ความสามารถ ที่เรามีอยู่ ถ้าเอาไปช่วยใครได้ ก็ช่วยๆ กันไป อย่าไปหวงเลย ๔. สมานัตตตา คือ ไม่ว่าคบกับใครก็มีแต่ ความจริงใจให้เขา ไม่แทงใครข้างหลัง ไม่ว่าร้าย ใครลับหลัง มีแต่ความจริงใจ มีแต่ความปลอดภัย ให้เขาเสมอ ทั้ง ๔ ประการนี้แหละจะเป็นที่มาแห่งเสน่ห์ ของเรา พูดง่าย ๆ โปรยเสน่ห์ด้วยการให้ ทั้งสิ่งของ ทั้งคำพูด ทั้งกำลังอกกำลังใจ ทั้งความปลอดภัย แก่เขา ทำอย่างนี้แล้วใครยังไม่รัก ก็ให้รู้ไป แล้วในไม่ช้าเราจะต้องย้อนกลับมาถาม หลวงพ่อว่า ทำไมเดี๋ยวนี้ เวลาไปไหนมาไหน ถึงมี แต่ถูกคนอื่นเขาตามอิจฉากันทั้งบ้านทั้งเมือง ถึงตอนนั้นก็ช่วยไปสอนคนอื่น ๆ ที่กำลัง อิจฉาคุณให้รู้ว่า เมื่อก่อนคุณเองก็เคยเป็นอย่างเขา เหมือนกัน แล้วมีวิธีแก้ไขอย่างไร บอกเขาไปด้วย เพื่อจะได้เป็นบุญติดตัวเราต่อไป....
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More