ชีวิตในแก๊งค์นักเลงและการหลีกหนีการศึกษา วารสารอยู่ในบุญ ประจำเดือน มีนาคม พ.ศ.2550 หน้า 27
หน้าที่ 27 / 75

สรุปเนื้อหา

เนื้อหาเกี่ยวกับชีวิตของหนุ่มคนหนึ่งที่เลือกไม่เรียนและเข้าสังคมกับแก๊งค์นักเลง เขาดื่มหนักและเข้าร่วมกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเดือดร้อน แต่กลับรู้สึกพอใจและสุขกับชีวิตที่ไร้ข้อผูกพัน เรื่องราวสะท้อนถึงการหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบและผลกระทบที่มีต่อครอบครัวและตัวเอง ในที่สุดเขาได้สูญเสียอนาคตและชีวิตที่มีความหมาย แต่กลับรู้สึกไม่สนใจความรู้สึกของคนรอบข้าง

หัวข้อประเด็น

-ชีวิตในแก๊งค์นักเลง
-ผลกระทบจากการใช้ชีวิตอย่างไม่เป็นระเบียบ
-ความสุขในโลกของสุราและการเสพติด
-การหลีกหนีจากการศึกษา
-การไม่แคร์ต่อครอบครัวและสังคม

ข้อความต้นฉบับในหน้า

สนุกมาก ไม่ต้องคิดหน้าคิดหลัง เพราะเพื่อนๆ ผม ก็เป็นเหมือนกันทั้งกลุ่ม ผมเข้าเรียนน้อยมาก อาทิตย์ หนึ่งอย่างมากก็เข้าแค่ ๑ - ๒ คาบ อีกทั้งไม่ได้ ส่งงานเลย จนกระทั่งผมถูกปรับตกวิชาหนึ่ง เนื่องจาก คะแนนเก็บไม่มี เพราะไม่เข้าเรียนเลย แต่เพื่อนๆ กลับแย่กว่าผมเสียอีก เพราะเขาติดโปรฯ และถูก รีไทร์ไปก็มี...” พ่อแม่รู้ไหม? “แม้รู้...ผมก็ไม่แคร์ เพราะใจมันไม่อยากเรียน แล้ว อยากดื่มอยากเที่ยวอย่างเดียว มันสนุกกว่า ไม่ ความสุขของแก๊งค์นักเลง เพราะมันเหมือนเป็นการ ประกาศแสนยานุภาพว่า ใครแน่กว่ากัน ใครเจ๋งกว่า กัน บางทีเมาๆ ก็ถือปืนจริงออกมายิงขู่กัน เกิดเรื่อง ตะลุมบอนชกต่อยกันด้วยสนับมือจนเลือดโชก พอ ตำรวจมา ถึงได้กระเจิดกระเจิงต่างคนต่างหนีกันไป นอกจากจะเป็นนักเลงเถื่อนแล้ว ชีวิตช่วงนั้น ผมยังดื่มเหล้าหนักมาก เอาเหล้าขาวชุดกันเป็นขวด ทั้งๆ ที่ไม่ได้ชอบรสชาติของสุรา แต่ชอบบรรยากาศ ในการร่ำเหล้า เพราะหลังจากเมาแล้ว มันทำให้ ผมหลุดไปอยู่ในโลกแห่งจินตนาการ ที่ทำให้ผมกล้า ต้องมีภาระอะไร แต่เพื่อให้พ่อแม่สบายใจผมจึงบอก กับท่านว่า ผมไม่ชอบคณะวิศวะฯ ไม่ถนัดที่จะเรียน สายนี้ แล้วคิดจะเอ็นฯ ใหม่ปีหน้า” ด้วยเหตุนี้เองทำให้โก้กลายเป็นนักศึกษาวิศวะ ที่หมดอนาคตในบัดดล เพราะเขาได้ขว้างอนาคต ตัวเองทิ้งไปอย่างดื้อๆ “ผมออกจากการเรียนมาใช้ชีวิตที่แย่ แต่ พึงพอใจ คือกลับไปคบกับเพื่อนที่ไม่เรียนหนังสือ ไป อยู่ในแก๊งค์นักเลง ที่ไปไหนก็พกดาบซามูไร เอาไว้ ขู่กัน บางทีเจอคู่อริ ก็ฟันกันหน้าตาแหก มีเรื่องต้อง ชกต่อยกันเป็นอาจิณ หนำซ้ำยังได้ทำระเบิดปิงปอง พอเจอคู่อริก็ปาใส่กันจนชาวบ้านเดือดร้อน แต่ก็เป็น ทำได้ทุกอย่าง รวมทั้งเรื่องเลวๆ ทำได้อย่างไม่รู้ร้อน รู้หนาว แม้เป็นเรื่องที่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ก็ทำได้ อย่างมีความสุข เพราะไม่ต้องละอาย ตอนนั้นผมใช้ ชีวิตแบบไม่แคร์อะไรแล้ว ไม่สนใจความรู้สึกใครเลย แม้แต่พ่อกับแม่ ผมไม่รับรู้สิ่งแวดล้อมว่า ใครจะเป็น อย่างไร จะว่าอย่างไร ผมรู้แต่ว่า ผมดื่มได้อย่างไม่ หยุด ดื่มแล้วก็เมาไร้สติ ลุกขึ้นมาเต้นได้อย่างสนุก ผมซดเหล้าจนน็อก พอฟื้นก็กรอกเหล้าต่อจนน็อกอีก ผมสามารถทำสถิติอย่างนี้ได้ถึง ๕ วันติด ๆ กัน โดยเสื้อผ้าไม่ต้องเปลี่ยน ไม่ต้องอาบน้ำกันเลย นอน จมอยู่กับสิ่งปฏิกูลและอบายมุขอย่างนั้น” ดูเหมือนเป็นทางเลือกชีวิตที่เลวร้ายที่สุด แต่
แสดงความคิดเห็นเป็นคนแรก
Login เพื่อแสดงความคิดเห็น

หน้าหนังสือทั้งหมด

หนังสือที่เกี่ยวข้อง

Load More