ข้อความต้นฉบับในหน้า
มาเป็นมนุษย์ผู้หญิงอีกหลายชาติ
ในพระไตรปิฎกมีเรื่องราวที่น่าสนใจ ที่ชาย
กลายเป็นหญิง หญิงกลายเป็นชาย เป็นเรื่องราว
ของพระโสไรยเถระ พระอรหันตสาวกรูปหนึ่ง สรุป
ใจความได้ว่า
"ในครั้งพุทธกาล ณ กรุงสาวัตถี บุตรของ
ท่านโสไทยเศรษฐี แห่งเมืองโสไรยะ เห็นพระเถระ
รูปหนึ่งมีผิวพรรณผ่องใสดุจทองคำ เขาเกิดความ
คิดว่า “พระเถระรูปนี้งามจริงหนอ น่าจะเป็น
ภรรยาของเรา หรือภรรยาเราน่าจะมีผิวกายงาม
เหมือนพระเถระรูปนี้” ทันทีที่คิดเช่นนี้ เขาก็กลาย
เป็นเพศหญิงไปทันที เพราะกรรมที่คิดล่วงเกินต่อ
พระอรหันต์ส่งผลทันตาเห็น
พระอรหันต์รูปนั้น คือ พระมหากัจจายนะ
ผู้เป็นเอตทัคคะในด้านการแสดงธรรมโดยย่อให้
พิสดาร ท่านมีรูปงาม ผิวพรรณงาม ใครเห็นท่านก็
มักเข้าใจผิดว่า ท่านคือพระบรมศาสดา ท่านจึง
อธิษฐานจิตให้มีร่างกายอ้วนท้วนสมบูรณ์ ปัจจุบัน
ชาวจีนจำนวนมากเคารพท่านว่าเป็นสัญลักษณ์
แห่งโชคลาภ รู้จักกันในนามของ “พระสังกัจจายน์”
เมื่อบุตรเศรษฐีกลายเป็นหญิงแล้ว จึงหลบ
หนีไปด้วยความละอาย ตามกองเกวียนไปยังเมือง
ตักกสิลา และได้แต่งงานกับลูกชายเศรษฐี มีบุตร ๒
คน เดิมเคยมีบุตรอยู่แล้ว ๒ คน วันหนึ่ง เมื่อรู้ว่า
พระมหากัจจายนะจาริกมายังเมืองตักกสิลา นางจึง
ได้ไปกราบขออโหสิกรรม เมื่อพระเถระยกโทษให้แล้ว
นางได้กลายร่างเป็นชายดังเดิมทันที
บุตรเศรษฐีเคยเป็นทั้งชายและหญิง เคย
เป็นทั้งพ่อและแม่ในชาติเดียวกัน ทำให้เห็นทุกข์ใน
สังสารวัฏ เกิดความเบื่อหน่ายชีวิตการครองเรือน
จึงออกบวช ต่อมาได้บรรลุธรรมเป็นพระอรหันต์
ในวัฏสงสารนี้ ชายก็ดี หญิงก็ดี ล้วนเป็น
เพื่อนร่วมทุกข์ เกิด แก่ เจ็บตาย ไม่ว่าหญิงหรือชาย
ล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น การรังแก
ข่มเหง เบียดเบียน ถ่ายทอดความชั่วร้ายให้แก่กัน
ล้วนออกมาจากใจที่ปราศจากความเมตตา เป็นใจ
ของคนที่ไม่เคยรู้จักความสงบสุข คนที่มีเมตตาอยู่
เต็มดวงใจจะทำสิ่งเหล่านี้ไม่เป็น
ความรัก ความเมตตาต่อกันอย่างจริงใจ
จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเราได้ทำสมาธิภาวนาอย่าง
สม่ำเสมอ ฝึกจิตฝึกใจให้สงบสุข เมื่อใจซึ่งเป็นสิ่ง
สำคัญที่สุดในการกำหนดพฤติกรรมของมนุษย์มี
ความสุขอยู่เต็มเปี่ยม ใจดวงนั้นก็จะพร้อมที่จะ
แผ่ขยายความรัก ความเมตตา ปรารถนาดีไปยัง
เพื่อนมนุษย์ การเบียดเบียนทำร้ายกันก็จะไม่เกิดขึ้น
เมื่อไม่มีการกดขี่ข่มเหง ก็จะไม่มีการต่อต้าน
โลกของเราก็จะเปี่ยมไปด้วยเสรีภาพ ภราดรภาพ
และสันติสุข เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยน่าอยู่สำหรับ
ทุกคนไม่ว่าหญิงหรือชาย
เมื่อใดก็ตามถ้ามือทั้งสองข้างที่คอยค้ำจุนโลก
หันมาเบียดเบียนกันเอง โลกนี้ก็จะสะท้านสะเทือน
หวั่นไหว ผู้คนจะมีชีวิตอยู่ด้วยความหวาดระแวง
ซึ่งกันและกัน แต่ถ้าทั้งสองมือสมัครสมานสามัคคีกัน
ประสานกันอย่างแนบแน่น และก้าวเดินไปข้าง
หน้าพร้อม ๆ กัน ด้วยใจที่เป็นสุข เปี่ยมด้วย
เมตตาธรรม สองมือนี้ก็จะคุ้มครองโลกของเราให้
ร่มเย็นได้อย่างแน่นอน
*มก. เล่ม ๔๐ หน้า ๔๔๕